บทที่ 10
มองเนื้อแกะผ่าครึ่ง นางยื่นมือไปหยิบ ซวีชิงหย่วนยื่นมือไปขวาง "ชิ้นนี้ไม่ต้องทำ ในถังต้มจนเกือบสุกแล้ว เจ้าเอาใส่หม้อต้มอีกหน่อยก็สุกพร้อมกันแล้ว"
"เจ้าค่ะ พี่ใหญ่" ซวีชิงเหมยมองเนื้องแกะผ่าครึ่งถูกพี่ใหญ่แขวนด้านนอก น้ำแข็งเกาะในทันที นางถือถังใส่เนื้อไปทางห้องครัว
หลี่อวิ้นมองซวีชิงหย่วนด้วยรอยยิ้ม "พี่อยู่คุยกับพ่อแม่ที่นี่ก่อน ข้าไปช่วยชิงเหมยทำอาหาร"
หลี่อวิ้นรู้สึกตนยืนอยู่ ด้านหน้ามีพ่อซวีและแม่ซวียืนจ้องหน้าค่อนข้างอึดอัด ไปห้องครัวช่วยชิงเหมยดีกว่า
ซวีชิงหย่วนเงียบ กลับหยิบเก้าอี้ให้พ่อแม่เขานั่งลง
หลี่อวิ้นมาถึงห้องครัว ซวีชิงเหมยกำลังทำความสะอาดหม้อ ในหม้อใบใหญ่มีสนิมสีน้ำตาลอยู่มากมาย หลี่อวิ้นเหล่มองแวบหนึ่ง ขมวดคิ้ว "หม้อใหญ่ไม่ได้ใช้ต้มอาหารมานานแล้วใช่ไหม"
"ใช่แล้ว ในบ้านไม่มีอาหาร ไม่ก่อไฟนานแล้ว พี่สะใภ้อย่ารังเกียจ ข้าใช้หิมะขัดสักหน่อย ต้องสะอาดแน่" ซวีชิงเหมยกลัวว่าหลี่อวิ้นจะรังเกียจ ออกแรงมืดขัดหม้อแรง ๆ
"ข้าไม่รังเกียจ ใช้หมอเหล็กทำอาหารถือโอกาสเติมธาตุเหล็ก" นางคิดในแง่ดี แล้วพูดต่อว่า "ทำไมใช้หิมะขัดหม้อ ในบ้านไม่มีน้ำหรือ?"
“มีน่ะมี แต่น้อยมาก ๆ อีกทั้งห่างจากบ้านไกล สามสี่วันถึงไปหาบน้ำหนึ่งครั้ง ในบ้านไม่มีถังเก็บน้ำ ถังน้ำก็จุน้ำได้น้อย ทำได้แต่ใช้อย่างประหยัด"
"อืม ชิงเหมย เจ้าไปก่อไฟเถอะ ข้ามาทำความสะอาด" คงเพราะไม่มีอะไรในบ้าน น้ำก็มีน้อยถึงไม่กล้าใช้เยอะ
ซวีชิงเหมยได้ยินคำพูดของหลี่อวิ้น ถึงจะตกใจแต่ไม่กล้าโต้แย้ง เชื่อฟังคำพูดพี่สะใภ้ ไม่แน่ต้มเนื้อสุกยังเหลือให้นางกินบ้าง
ขัดหม้อสามรอบ ครั้งสุดท้ายหลี่อวิ้นใช้น้ำสะอาดขัดหนึ่งรอบ เอาน้ำสะอาดครึ่งถังเทลงหม้อทั้งหมด แล้วนำเนื้อแกะกึ่งสุกพร้อมน้ำเทไปในหม้อ ซวีชิงเหมยเติมไฟในเตา หลี่อวิ้นใช้กระบวยคนเนื้อแกะในหม้อ
ปริมาณเพียงพอทุกคนในบ้านกิน แต่ว่าหากกินแต่เนื้อละก็จะเลี่ยน
"ชิงเหมย ในบ้านมีพวกผักกาดขาว หัวไชเท้าหรือมันฝรั่งไหม?"
"มะ ไม่มีแล้ว" ซวีชิงเหมยพูดจบรีบก้มหน้า นางคิดอยู่ถึงมีก็ไม่กล้าเอาออกมาให้นาง ถ้ากินไม่หมดนางเอากลับด้วย พ่อแม่พวกเขาก็คงร้องไห้ตายคาบ้านแล้ว
"เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะปล้นเอากลับ ข้าอยากหั่นใส่ลงหม้อต้มด้วยกัน รอทำเสร็จแล้ว ทุกคนกินด้วยกัน" หลี่อวิ้นมองท่าทางประหม่าที่พูดโกหกของชิงเหมย รู้สึกทำตัวไม่ถูกจริง ๆ
“พี่สะใภ้พูดจริงหรือ? เมื่อก่อนพี่มักเอาของในบ้านไปให้บ้านแม่พี่”
ก่อนหน้านี้ พ่อแม่ซวีถางที่ดินผืนเล็กปลูกพวกผักอยู่นอกบ้าน ทุกครั้งที่มีตลาดนัดพ่อแม่จะขุดผักกาดหนึ่งตระกร้าไปแลกเงินในเมือง คิดไม่ถึงถูกหลี่อวิ้นเจ้าของร่างเดิมเห็น ไม่เพียงแย่งผักพวกนั้น ยังยึดเงินไม่กี่เหวินที่คนเขาหามาได้ เรื่องนี้ซวีชิงเหมยเห็นกับตา จึงระมัดระวังต่อหลี่อวิ้นเป็นธรรมดา ไม่ค่อยอยากเชื่อการเปลี่ยนแปลงของนางตอนนี้
“เจ้าก็พูดแล้วนั้นเป็นเรื่องเมื่อก่อน ตอนนี้ข้าจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว เจ้าดู ข้ายังเอาเนื้อมาแบ่งพวกเจ้ากินเลย” หลี่อวิ้นฝืนยิ้ม เจ้าของร่างเดิมทำเรื่องชั่วร้ายอะไรไปบ้างกันแน่ ทำให้คนที่เจอนางรังเกียจได้ขนาดนี้
"มุมกำแพงยังมีมันฝรั่งสามสี่ลูก มีอยู่แค่นั้นแล้ว" ซวีชิงเหมยพูดพึมพำ
หลี่อวิ้นรีบไปหาในมุมกำแพง มีอยู่สามสี่ลูกจริง ๆ แต่ว่าเล็กมาก ดูท่าบ้านนี้ไม่มีอาหารกินจริง ๆ
เก็บมันฝรั่งสามสี่ลูก เพราะไม่มีน้ำล้าง หลี่อวิ้นเอาไปที่ลานบ้านใช้หิมะขัด ขัดดินเปลือกนอกออกไปก็พอแล้ว
ซวีชิงหย่วนเห็นนางนั่งยอง ๆ อยู่ข้างนอก อากาศหนาวเย็น ลมหายใจที่นางหายใจเข้าออกเป็นไอ จึงตามออกมา
“ทำไมมานั่งแช่อยู่ข้างนอก?”
"น้ำหมดแล้ว ข้าใช้หิมะขัดมันฝรั่ง พี่หย่วน ที่พ่อแม่พี่อยู่ยังจนกว่าบ้านพวกเรา แต่ว่า ข้าไม่รังเกียจพวกเขาหรอก" หลี่อวิ้นขัดมันฝรั่ง เงยหน้ามองซวีชิงหย่วน ยิ้มเหมือนเด็ก ๆ
"ทำไม?" ซวีชิงหย่วนคิด เมื่อก่อนนางเอาแต่รังเกียจพ่อแม่เขามาโดยตลอด แต่ทำไมตอนนี้กลับผ่อนคลายแบบนี้ รอยยิ้มก็สดใสสุด ๆ
“เพราะพวกเขากลัวข้า ดังนั้นไม่กล้ารังแกข้า ไม่เหมือนพ่อแม่ข้า พวกเขาเปลี่ยนวิธีทำร้ายข้า”
"ครอบครัวยากจนมาก แต่พวกเขาจิตใจดี" ซวีชิงหย่วนพูดถึงพ่อแม่ของตน
เขามีน้องชายสองคนและน้องสาวหนึ่งคน น้องชายคนโตซวีชิงเฟิงปีนี้ก็อายุราวยี่สิบปี น้องชายคนเล็กซวีชิงเฟิงอายุสิบแปด เพราะบ้านยากจน จึงสู่ขอภรรยาไม่ได้ ตอนนี้เป็นคนโสดมีอายุแล้ว
ซวีชิงหย่วนเดิมคิดว่า พี่ชายคนโตเสมือนพ่อ ถึงแม้พ่อยังอยู่ แต่พ่อแม่ไร้ความสามารถ เขาโชคดีเป็นกังฟูเล็กน้อยอยากเก็บเงินให้พ่อแม่ซื้อที่นาไม่กี่หมู่ให้พวกเขาพึ่งพาตัวเองเลี้ยงครอบครัวได้
ในหมู่บ้านขอแค่มีที่นา สู่ขอภรรยาง่ายกว่าไม่มีที่ดินเป็นธรรมดา แต่เพราะภรรยาที่ซวีชิงหย่วนสู่ขอมากลับไม่รู้หน้าที่ ผ่านมาสามปีแล้ว เก็บเงินไม่ได้สักเหวิน ทางพ่อแม่ซวีก็ถูกหลี่อวิ้นคนเก่าใช้ประโยชน์จนไม่กล้าเจอหน้าพวกเขา
ซวีชิงหย่วนยืนอยู่ข้าง ๆ จ้องมองหลี่อวิ้น คิดไปไกล นางยังจะกลับไปเหมือนเดิมไหม? เรื่องนี้ทำให้คนไม่กังวลไม่ได้
“พี่หย่วนมองข้าทำไม ข้าไปห้องครัวแล้ว รอทำอาหารเสร็จหลังกินเสร็จพวกเราค่อยกลับ จริงด้วย น้องชายสองคนของพี่ทำไมไม่ออกมาเจอข้า เกลียดข้ามากเหมือนกันใช่ไหม?” หลี่อวิ้นถือมันฝรั่งที่ขัดเสร็จมองและถามซวีชิงหย่วน
“รอตอนกินข้าวค่อยให้พวกเขาออกมา” ซวีชิงหย่วนขมวดคิ้ว เขาก็ไม่รู้ ทำไมน้องชายสองคนไม่ออกมาเจอนาง
“อืม พี่หย่วนแขนพี่ยังเจ็บไหม?” หลี่อวิ้นมองแล้วถามเขา
ซวีชิงหย่วนไม่รู้นางถามขึ้นกะทันหัน "ไม่เจ็บแล้ว" ถึงจะเจ็บกลับจงใจบอกว่าไม่เจ็บ
“ไม่เจ็บละก็ อีกเดี๋ยวพวกเราไปตักน้ำเถอะ ในบ้านไม่มีน้ำแล้ว”
นางยิ้มแล้วหมุนตัวไปห้องครัว ทิ้งซวีชิงหย่วนอึ้งอยู่กับที่ เห็นรอยยิ้มไร้เดียงสาของนางหัวใจเต้นแปลก ๆ ตื่นเต้นและกังวลมาก
เขาไม่เคยรู้มาก่อน คนคนเดียวกัน ยิ้มกับไม่ยิ้มจะแตกต่างกันมากขนาดนี้
ใส่มันฝรั่งลงในหม้อต้มไปพร้อมเนื้อแกะในหม้อ หลี่อวิ้นถือถังไม้ออกมา เห็นซวีชิงหย่วนบอกใบ้ด้วยการยกถังไม้
"ข้าถือเอง" ซวีชิงหย่วนรีบเดินมาข้าง ๆ ซวีชิงหย่วนแล้วรับถังไม้ไว้
“กลัวแขนพี่จะเจ็บ ให้ข้าถือเถอะ ข้าแข็งแรงพอจะยกน้ำถังหนึ่งได้”
นางอยู่ยุคปัจจุบันถึงแม้ครอบครัวไม่ขัดสน แต่พ่อแม่ไม่เคยตามใจนาง เรื่องอะไรก็ให้นางทำด้วยตัวเอง นางเริ่มซักผ้าตัวเองตั้งแต่เด็กแล้ว
ชาติก่อนหลี่อวิ้นเป็นลูกสาวคนเดียว พ่อแม่หลี่กลัวพวกเขาตามใจหลี่อวิ้นทำให้นางทำอะไรไม่เป็น หลังจากพวกเขาตายไป หลี่อวิ้นจะใช้ชีวิตยังไง? ถึงได้สอนทักษะใช้ชีวิตจำเป็นให้หลี่อวิ้น ถึงแม้นางจะเป็นผู้หญิงตัวเล็ก นิสัยและพฤติกรรมไม่เหมือนคนอ่อนแอเลย
