บทที่ 12
ซวีชิงหย่วนถูกจับไปเป็นทหารไม่ถึงสองปี ทรัยพ์สินที่ดินของสกุลซวีก็ถูกยึด ซวีชิงหย่วนเป็นทหารอยู่ข้างนอกสิบกว่าปี รอหลับเขากลับมาที่ดินที่ถูกยึด ก็ผ่านการซื้อขายหลายมือแล้ว อยากเอาคืน ค่อนข้างยุ่งยากและลำบาก
พ่อซวีกินอิ่มสบายตัวนั่งเก้าอี้ผิงไฟ ดวงตาหรี่ดูผ่อนคลายสุด ๆ "วันที่กินอิ่มแบบนี้ถึงเรียกว่าวัน นี่ถึงเป็นชีวิต ครอบครัวคนโตดีขึ้นแล้ว รู้จักกตัญญูต่อพวกเรา พระเจ้าลืมตาแล้ว ในที่สุดก็ลืมตา"
"ท่านพ่อ ไม่ต้องกังวล รอข้าแต่งออกไป ข้าก็จะเอาของมากมายกลับมาให้ท่านพ่อกับท่านแม่กิน” ชิงเหมยมองพ่อตัวเอง รู้สึกสงสารมาก ตั้งแต่นางจำความได้ ในบ้านเหมือนไม่เคยได้กินอิ่ม นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้กินเนื้อ ยังกินจนอิ่มอีกด้วย
"ก็อยากให้เจ้ามีคู่แต่งงานที่ดี แต่พี่ชายสองคนเจ้ายังไม่ขอภรรยา นี่จะทำอย่างไรดี" แม่ซวีกังวลสุด ๆ
ตอนไม่มีลูกก็อยากได้ คลอดมาดีใจอยู่หลายปี รอลูกโตอีกหน่อย ก็ได้เวลาเป็นห่วงเรื่องงานแต่งของพวกเขา พวกเขานี่คือกังวลยันแก่ ก็ไม่รู้ว่าตอนพวกเขาลงโลงแล้ว เจ้าสองและเจ้าสามจะสู่ขอภรรยาได้ไหม
หลังจากที่หลี่อวิ้นและซวีชิงหย่วนออกจากบ้านซวีจึงเดินขึ้นเขา หลี่อวิ้นเป็นห่วงเด็กสองคนในบ้าน ถึงแม้ตอนมาจะกำชับทุกอย่างแล้ว ล็อกประตูไม่ให้วิ่งไปทั่ว แต่ในใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้
ยิ่งแย่กว่านั้นก็คือ ภูเขาหิมะเดินยาก หลี่อวิ้นเดินไม่มั่นคง จับอยู่ด้านหลังซวีชิงหย่วนจอมพลังแน่นก็ยังสะดุดหลายครั้ง
ซวีชิงหย่วนทนดูไม่ไหวย่อตัวลง "เจ้าขึ้นมา ข้าแบกเจ้าเดิน"
“ไม่ได้ แขนพี่ยังบาดเจ็บถึงสองแห่ง”
"เจ้าเป็นภรรยาข้า ข้าจะไม่แบกเจ้าได้อย่างไร ขึ้นมา" ซวีชิงหย่วนพูดจบมองนางเม้มปากส่ายหน้าอยู่ห่าง ๆ จึงพูดต่อว่า "เจ้าไม่หนัก ข้าแบกเจ้าเป็นสบายมาก"
"จริงหรือ?" หลี่อวิ้นถามเสียงเบา นางเดินไม่ไหวแล้วจริง ๆ
"จริง"
หลี่อวิ้นถึงหมอบที่หลัง และกอดคอของเขา
ซวีชิงหย่วนแบกหลี่อวิ้น รู้สึกบริเวณหลังร้อน ๆ ร่างกายอ่อนนุ่มจากคำพูดผู้ชายคือความรู้สึกนี้นี่เอง
จากเชิงเขาถึงบนเขา ล้วนเป็นซวีชิงหย่วนแบกหลี่อวิ้นเดิน รอพวกเขาถึงบ้านหญ้าคาบนเขา เคาะและเปิดประตู เสี่ยวหนาน เสี่ยวเป่ยมองพวกเขาสองคน ตาแดง ๆ ดูน่าสงสาร
หลี่อวิ้นมองใบหน้าลายเหมือนแมวของเสี่ยวเป่ย "เจ้ากับพี่ชายร้องไห้หรือ?"
"อืม พี่ชายบอกพ่อกับแม่ลงเขาแล้วไม่ต้องการพวกเราแล้ว พวกเราสองคนจะอดยาก แข็งตาย ถูกหมาป่ากิน" เสี่ยวเป่ยเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ท่าทางขี้ขลาดดูน่าสงสาร
"แน่นอนว่าข้ากับพ่อพวกเจ้าต้องการพวกเจ้าอยู่ เจ้าดูซิ ข้างนอกมีเนื้อชิ้นใหญ่ หิวแล้วใช่ไหม ข้าจะไปทำอาหารให้พวกเจ้าเดี๋ยวนี้" หลี่อวิ้นอุ้มเสี่ยวเป่ยให้นั่งบนตักนาง เห็นเสี่ยวหนานยืนมองเสี่ยวเป่ยด้วยสายตาอิจฉาอยู่ข้าง ๆ
"เสี่ยวหนานก็มาด้วย ให้ข้ากอดหน่อยได้ไหม?" หลี่อวิ้นมองและกวักมือให้เสี่ยวหนาน เด็กคนนี้นิสัยอ่อนไหว นางต้องค่อยเป็นค่อยไป
เสี่ยวหนานค่อย ๆ เดินไปข้างตัวหลี่อวิ้น เห็นหลี่อวิ้นกางแขน เขารีบกอดไว้แน่น แสบจมูกและน้ำตาไหลออกมา
ซวีชิงหย่วนวางเนื้อแกะ เข้ามาแล้วเห็นพวกเขาสามคนกอดอยู่ด้วยกัน รู้สึกถึงความสำคัญ
เสี่ยวหนานเป็นคนแรกที่เห็นซวีชิงหย่วน เรียกเสียงเบาว่า “ท่านพ่อ”
“พวกเจ้าสองคนอย่าตัวติดแม่เจ้า ไปเล่นกันเองเถอะ”
ซวีชิงหย่วนเส้นเสียงต่ำมาก พูดจาก็จริงจังเกินไป หลี่อวิ้นได้ยินคำพูดของเขาจะทำเด็กสองคนตกใจ จึงพูดเสียงเบา ๆ กับเสี่ยวหนานเสี่ยวเป่ยว่า "พ่อเจ้าหมายถึงให้พวกเจ้าออกไปเล่นก่อน ข้าจะไปทำอาหาร”
เสี่ยวหนานและเสี่ยวเป่ยลุกจากอ้อมกอดหลี่อวิ้นทันที ยืนอยู่ที่หนึ่งดูเป็นเชื่อฟังมาก
"เด็กดี อีกเดี๋ยวพวกเจ้าก็ได้กินเนื้อแล้ว" หลี่อวิ้นพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ยื่นมือลูบหัวของเด็กทั้งสอง
ปลอบเด็กทั้งสองคนเสร็จ หลี่อวิ้นก็ไปห้องครัว ซวีชิงหย่วนเช็ดคันธนูอยู่ในบ้าน นี่เป็นเครื่องมือที่เขาใช้ล่าสัตว์หาเงิน ต้องล้ำค่าเป็นธรรมดา
เด็กสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้าง ๆ ตัวเดียวกัน หลี่อวิ้นยุ่งอยู่ในห้องครัว
เนื้อแกะถูกแช่แข็งจนปกคลุมด้วยก้อนน้ำแข็ง หลี่อวิ้นใช้มีดหั่นเนื้อแกะวางแช่อยู่ในน้ำ กระดูกในเนื้อแกะใหญ่เกินไป แรงมือหลี่อวิ้นน้อยตัดไม่ไหว
นางยืนอยู่นอกห้องครัว ตะโกนเข้าไปในบ้าน "พี่หย่วน พี่มาช่วยข้าหน่อย"
ซวีชิงหย่วนวางคันธนูเดินออกไปทันที ยืนมองหน้าอยู่หน้าประตูห้องครัว
หลี่อวิ้นเห็นซวีชิงหย่วนยืนอยู่ข้างนอกเงียบ ๆ เหมือนคิดอะไรได้ "ผู้ชายล้วนไม่เข้าครัว สุภาพบุรุษห่างมีดทำครัวหรือเปล่า"
"ข้าไม่ใช่สุภาพบุรุษ" ซวีชิงหย่วนพูดประโยคหนึ่งเบา ๆ เดินเข้าข้างใน
หลี่อวิ้นหัวเราะออกมา "พี่ไม่ใช่สุภาพบุรุษ งั้นเป็นอะไร"
ซวีชิงหย่วนสนใจแต่มองนาง ไม่ได้ไปคิดตัวเองไม่ใช่สุภาพบุรุษแล้วเป็นอะไร หรือว่าอยากเป็นสัตว์ร้าย?
หลังจากซวีชิงหย่วนหยิบมีดทำครัวออกไปลับมีดบนหินข้างนอก สับเนื้อแกะ แยกเนื้อและกระดูกให้หลี่อวิ้นเรียบร้อย
"พอแล้ว ที่เหลือข้าทำเองก็พอ ขอบคุณ" หลี่อวิ้นคว้าเนื้อและกระดูกใส่ลงหม้อต้ม ในบ้านไม่มีน้ำมัน เกลือและน้ำส้มสายชู เหลือแค่ซีอิ้วเล็กน้อย ดังนั้นทำได้แค่เนื้อแกะต้มซีอิ้ว ใส่ลงไปทั้งเนื้อและกระดูก อีกเดี๋ยวจะได้ดื่มน้ำแกงด้วย
"พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ต้องพูดคำว่าขอบคุณ" พูดขอบคุณดูเกรงใจและห่างเหินมาก และเขาก็ไม่อยากได้ยินนางพูดขอบคุณอะไร
"เจ้าค่ะ พี่หย่วน" หลี่อวิ้นรับปากอย่างรวดเร็ว ไม่เสแสร้งกระมิดกระเมี้ยนใด ๆ หลี่อวิ้นปิดฝ่าหม้อเริ่มติดไฟตั้งเตา
ใบหน้าน้ำแข็งแม้แต่ฟ้าผ่าก็ยังไม่ขยับของซวีชิงหย่วนมีรอยยิ้มขึ้น หลี่อวิ้นที่สูญเสียความทรงจำก่อนหน้านี้ดึงดูดเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าความดึงดูดนี้เป็นเรื่องดีหรือไม่ดีสำหรับเขา
ครึ่งชั่วยามต่อมา เนื้อในหม้อก็ตุ๋นเสร็จ หลี่อวิ้นถือถ้วยตะเกียบเข้ามา เสี่ยวหนานและเสี่ยวเป่ยเห็นนางก็ลุกขึ้นทันที จู่ ๆ หลี่อวิ้นพบว่า เด็กสองคนนี้เหมือนเต็มใจเข้าใกล้นางมากกว่าหน่อย ถึงแม้เจ้าของหลี่อวิ้นคนก่อนจะไม่ดีต่อเด็กทั้งสองคน แต่พวกเขายังเต็มใจเข้าใกล้นาง
“พวกเจ้าสองคนนั่งลง กินข้าวแล้ว กินเนื้อกันวันนี้”
“ท่านแม่ก็กินด้วย”
“กินกันทุกคน ในห้องครัวยังมีเดี๋ยวข้าไปยกมาอีก”
หลี่อวิ้นวางถ้วยสองใบ กำลังจะไปห้องครัว ซวีชิงหย่วนไวกว่านางหนึ่งก้าว "ข้าไปยก"
ดีตรงที่ถ้วยตะเกียบในบ้านมีพอแบ่งคนละถ้วย หลี่อวิ้นมองเสี่ยวหนานและเสี่ยวเป่ย "ข้าช่วยพวกเจ้าเป่า ร้อนมากใช่ไหม?"
หลี่อวิ้นพูดอยู่ถือถ้วยตะเกียบช่วยเสี่ยวเป่ยน้องสาวเป่าให้เย็นก่อน แล้วช่วยพี่ชาย เด็กสองคนมองหลี่อวิ้นตาโต แววตาเป็นประกาย เห็นชัดว่าชอบมาก แต่ไม่รู้จะแสดงออกมาอย่างไร
บางทีเพราะอยู่บ้านตัวเองผ่อนคลายและทำได้ตามใจกว่า หลี่อวิ้นกินได้มากกว่าตอนเที่ยงเยอะ และช่วยซวีชิงหย่วนตักเพิ่มสองถ้วย เดิมเด็กสองคนกินได้ไม่เยอะอยู่แล้ว กินเนื้อในถ้วยไม่กี่ชิ้นและดื่มน้ำแกง ถือถ้วยตะเกียบจะไปเก็บในห้องครัว
