บทที่ 4

นางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม จะรู้จักผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร แต่ว่านั่นนางก็พูดไม่ได้ตัวเองไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม ต้องแสร้งเป็นรู้จัก

หากเสแสร้งละก็ ก็คือนางกำลังพูดโกหก

ดวงตาหลี่อวิ้นสั่นไหวไม่นิ่ง นางไม่ชอบโกหก เพราะเมื่อโกหกจะหน้าแดงหัวใจเต้น สายตาจดจ่อไม่ได้

“รู้จักสิ เจ้าคือพ่อของลูกไง พ่อของลูกสองคน” ชายหนุ่มเหมือนจับช่องโหว่ได้ทันที ยื่นมือจับแขนของนาง พร้อมจ้องหน้าตรง ๆ “ข้าชื่ออะไร?”

หลี่อวิ้นถูกบีบจนใกล้จะบ้าแล้ว บนตัวชายคนนี้ทรงพลังมาก ทำให้นางไม่ก้มหน้าไม่ได้

"ขอโทษ ข้า..."

หลี่อวิ้นเพิ่งพูดไปครึ่งหนึ่ง ชายหนุ่มเงยหน้ามองเด็กสองคนที่กำลังจ้องพวกเขาอยู่

“พวกเจ้าสองคนไปรออยู่ที่ห้องครัวก่อน”

ลูกทั้งสองเชื่อฟังคำของชายหนุ่มมาก ผลักประตูเดินออกไปแล้วยังปิดประตูให้ด้วย การกระทำนี้ทำให้หลี่อวิ้นหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้อยู่ในใจ

เด็กออกไปแล้ว ชายหนุ่มยื่นมือกดหลี่อวิ้นอยู่บนเตียง ก้มหน้ามองนางจากที่สูง “เจ้าเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงแต่งตัวเหมือนนาง”

แค่มองแวบเดียวเขาก็มองออกแล้ว นี่ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิม ผู้หญิงคนเดิมอยู่ต่อหน้าเขามีแต่ท่าทางรังเกียจและเย็นชา

ถึงแม้หลี่อวิ้นจะกระวนกระวายสุด ๆ กลับกัดฟันยืนกรานว่า "ข้าไม่ใช่ใคร ข้าเป็นแม่ของลูก เป็นภรรยาของเจ้า เจ้าไปล่าสัตว์กลับมา แม้แต่ภรรยาตัวเองก็ลืม"

นางคิดตัวเองคงไม่ได้พูดผิด! เด็กเรียกนางว่าท่านแม่ แน่นอนว่านางเป็นแม่ของเด็ก เด็กเรียกชายคนนี้ว่าท่านพ่อ เขาก็คือพ่อของเด็ก แน่นอนว่าเป็นสามีของตัวเอง ไม่มีทางผิดแน่นอน

“พวกเราแต่งงานกันมาสามปี เจ้าไม่เคยถูกข้าสัมผัส หลังพวกเราแต่งงานวันแรก เจ้าทำข้อตกลง จะเป็นสามีภรรยากับข้าแค่ในนาม รอเลี้ยงเด็กจนโต เจ้าจะหย่ากับข้า ข้าพาเด็กจากไปตัวเปล่า ยังต้องให้ค่าเหนื่อยกับเจ้าร้อยตำลึง คำพูดเหล่านี้ เจ้าลืมหมดแล้วหรือ?” ชายหนุ่มถามและจ้องนางเขม็ง

ผู้หญิงที่เคยพูดจะหย่ากับเขาคนนี้ ถึงกับพูดว่านางคือภรรยาของเขา เขาคือสามีของนาง เป็นไปได้อย่างไร?

หลี่อวิ้นรู้สึกเพียงลมหายใจอุ่น ๆ รดแก้มนางอยู่ ถูกกลิ่นอายเพศชายรุนแรงของเขาทำหัวหมุน ไม่ได้ตั้งใจฟังว่าเขาพูดอะไรอยู่เลยจริง ๆ

แต่ว่า นางรับรู้ได้ สามีคนนี้ไม่ใช่ผู้ชายชาวบ้านล่าสัตว์ธรรมดา เขาถึงมีความสามารถในการสังเกตละเอียดรอบคอบแบบนี้

นางอกสั่นขวัญแขวนไม่รู้จะพูดอะไร

เมื่อนางเงียบ สีหน้าแดงก่ำ ชายหนุ่มตะคอกว่า "พูด..."

เสียงชายหนุ่มดังขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

หลี่อวิ้นตกใจน้ำตาคลอเบ้า กลัวเขาจะขยับนิ้วบีบคอนางตายทันทีจริง ๆ

“ข้าบอก ข้าบอกก็ได้ หลังจากเจ้าไป ข้ามีไข้สูงไม่ลดก็นอนอยู่ในห้อง ก็ไม่รู้นอนไปนานแค่ไหน รอข้าตื่นขึ้น สีท้องฟ้าก็มืดแล้ว และข้าก็จำเรื่องก่อนหน้านี้ไม่ได้ แม้แต่ชื่อตัวเองก็ไม่รู้ เห็นเด็กสองคนเรียกข้าว่าท่านแม่ คำที่พูดก่อนหน้านี้ ข้าจำไม่ได้สักนิดเดียว จะ เจ้าอย่าบีบคอของข้า หายใจไม่ออก... ” หลี่อวิ้นจับฝ่ามือของเขาที่จับนางไว้ ผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นชั่วร้ายรุนแรง กลัวจริง ๆ ว่าจะบีบคอตัวเองตาย

“เจ้าว่า จำเรื่องทั้งหมดก่อนหน้านี้ไม่ได้แล้ว? ยังพูดว่าจะเป็นภรรยาข้าหรือ?”

ชายหนุ่มมองแก้มแดงของนาง กลัวตัวเองออกแรงอีกนิดจะทำนางตายคามือ

ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นคนดูแลเด็กได้ และยินดีคุยกับเขา คำพูดของนางวันนี้มากกว่าคำพูดทั้งหมดที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมาสามปีอีก เขากลับรู้สึก ผู้หญิงที่ความจำเสื่อมดีกว่าคนเก่าเยอะมาก

"ตอนนี้ข้าไม่ใช่ภรรยาเจ้าหรือ? เจ้าจะเอายังไงอีก?" หลี่อวิ้นพูดอยู่ น้ำตาลไหลอาบแก้ว เจ็บจริง ๆ ถูกบีบคอจนเจ็บจริง ๆ!

ได้ยินคำพูดของหลี่อวิ้น พูดเน้นแฝงความน่าสงสารและน้อยใจ ในที่สุดชายหนุ่มก็ใจอ่อน ปล่อยมือ ที่แท้เพราะนางไข้สูงสูญเสียความจำก่อนหน้านี้ไป มิน่าทำตัวแปลก ๆ

หลี่อวิ้นได้อากาศหายใจ ราวปลาติดร่องเจอน้ำทะเล หายใจเฮือกใหญ่ หอบไม่หยุด

“จำชื่อข้าเอาไว้ ข้าชื่อซวีชิงหย่วน ตัวเจ้าชื่ออะไรยังจำได้ไหม?” ซวีชิงหย่วนมองนาง ท่าทางรีบหายใจดูน่าสงสารมาก ๆ!

หลี่อวิ้นส่ายหน้า นางไม่ว่างจะพูด คิดแต่หายใจเข้าลึก ๆ นี่ถึงเป็นความรู้สึกที่มีชีวิตอยู่ ยิ่งกว่านั้น นางไม่รู้จริง ๆ ชื่อเจ้าของเดิมชื่ออะไร และไม่รู้ในครอบครัวพ่อแม่ของเจ้าของร่างเดิมยังมีใครอีก!

"เจ้าชื่อหลี่อวิ้น ครอบครัวอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเชิงเขา พ่อตายไปนานแล้ว แม่เจ้าเป็นคนดูแลบ้าน เจ้ามีพี่ชายสองคน พี่สาวอีกสองคน พี่ชายสองคนแต่งงานแล้ว พี่สาวคนโตเจ้าแต่งงานออกเรือนแล้ว พี่หญิงรองถูกคนอื่นหย่ากลับมาอยู่บ้าน" ซวีชิงหย่วนขมวดคิ้ว พูดทั้งหมดที่รู้ออกมา

"คนในครอบครัวข้าเยอะจริง ๆ งั้นข้าที่เป็นน้องสุดท้องคนนี้ต้องเป็นที่รักของคนในบ้านใช่ไหม" หลี่อวิ้นหายหอบถามด้วยใบหน้าไร้เดียงสา

ชาติก่อน นางเป็นลูกสาวคนเดียว ได้รับความรักเอ็นดูจากพ่อแม่และปู่ย่าตายายรวมไปถึงเหล่าญาติ ๆ คิดอยู่ว่านางเป็นลูกคนสุดท้องของสกุลหลี่ ก็คงจะได้รับความรัก

บทก่อนหน้า
บทถัดไป