บทที่ 5
"ข้าใช้เงินสิบตำลึงสู่ขอเจ้ากลับมา ตอนแต่งงานสินเดิมของเจ้ามีเพียงกล่องนั้น" ตอนหลี่อวิ้นแต่งกับเขา ไม่มีอะไรนอกจากนั้น
ซวีชิงหย่วนไม่อยากพูด ภรรยาเขาคนนี้เหมือนถูกแม่ตัวเองขายให้เขา เพราะในมือเขามีเงินสิบตำลึง สิบตำลึงนี้สำหรับครอบครัวทั่วไปแล้ว สามารถใช้ได้ประมาณสิบปี
พวกเขาคิดว่าใช้ลูกสาวขาดทุนคนหนึ่งมาแลกเงินสิบตำลึง แม่ของหลี่อวิ้นคิดว่าคุ้มค่า
หลี่อวิ้นได้ยินคำอธิบายของซวีชิงหย่วน พอจับได้อยู่ในใจ ลูกคนสุดท้องอย่างนางคนนี้ไม่ได้ถูกรักขนาดนั้น ใบหน้าดีใจเมื่อครู่หดหู่ในทันที
“ข้ารู้แล้ว ข้าเป็นคนโง่ แม่ไม่สงสารพี่ชายพี่สะใภ้ไม่รัก” หลี่อวิ้นพูดอย่างหดหู่ น้ำเสียงเบากว่าเมื่อครู่มาก ฟังออกว่านางเสียใจอยู่บ้าง
ฝ่ามือหยาบหนาของซวีชิงหย่วนขยับเล็กน้อง ผู้ชายหยาบกระด้างคนหนึ่ง ไม่รู้จักจะปลอบโยนคนอย่างไรจึงเงียบไม่พูด
หลี่อวิ้นมองซวีชิงหย่วน ดวงตาสั่นไหว "ได้ยินเสี่ยวหนานเสี่ยวเป่ยบอกว่า เจ้าที่เป็นพ่อคนออกไปล่าสัตว์แล้ว ยังออกไปสามวันเต็ม ๆ สัตว์ที่เจ้าล่าเล่า? ทำไมข้าไม่เห็นอะไรเลย?" เจ้าไม่เห็นหรือ "
“ตอนข้าเข้าประตูก็บอกแล้ว ตอนมาเจอพี่ชายเจ้า เขาขอไปแล้วบอกว่าปีนี้ปีใหม่ ในบ้านยังไม่ได้ซื้อเนื้อก็เอาไปแล้ว"
อ้าปากพล่อยก็ขอของไปแบบนี้ ดูท่าพี่ชายสองคนก็ไม่ใช่คนดีอะไร หลี่อวิ้นแอบหงุดหงิดใจ พวกนางสองสามคนเกือบอดตายอยู่ที่นี่ ไม่ง่ายที่จะล่าสัตว์กลับมาได้ยังถูกขอไป
ความหงุดหงิดภายในใจของหลี่อวิ้น แสดงออกมาบนหน้าโดยตรง
ซวีชิงหย่วนลูบโสมขนาดเท่าเส้นหนวดที่เก็บไว้ตรงหน้าอก ถอนหายใจสุดท้ายก็หยิบออกมา ที่จริงเขากลัวหลี่อวิ้นไม่เข้าใจเอาของในบ้านไปส่งให้บ้านแม่
ถึงแม้หลี่อวิ้นแต่งงานกับเขาแล้ว แต่ในใจยังอยู่บนตัวญาติสกุลหลี่ ขอแค่สิ่งที่สกุลหลี่ต้องการ นางก็จะเอาจากในบ้านตัวเองไปให้สกุลหลี่ โสมต้นนี้ขายได้เงินอย่างน้อยสิบเหวิน ซวีชิงหย่วนไม่กล้าเสี่ยงหยิบออกมา
แต่ตอนนี้หลังจากเห็นความเปลี่ยนแปลงของหลี่อวิ้น เขาคิดอยู่ว่าตัวเองจะเชื่อใจนางดูอีกครั้งดีไหม?
“ที่ข้ามีแค่โสมต้นนี่ เจ้ารับไว้”
"โสม? โสมเป็นของดี แต่ตอนนี้ข้าต้องการกินข้าว กินเนื้อมากกว่า อีกทั้งโสมเล็ก ๆ จะมีคนซื้อหรือ?" หลี่อวิ้นชำเลืองมองโสมต้นนั้น และไม่ได้รับ มองมันเงียบ ๆ พูดไม่ได้ว่าดีใจ โสมเล็กเกินไปแลกเงินได้ไม่กี่เหรียญ อีกทั้งที่นางต้องการมากที่สุดคือของกิน ได้กินกับข้าวร้อน ๆ
คิดไม่ถึงนางจะมีมีปฏิกิริยาแบบนี้ กลับทำให้ซวีชิงหย่วนรู้สึกแปลกใจ
เมื่อก่อนทุกครั้งที่เขากลับมา นางมักถามก่อนว่าเขาหาอะไรได้ ขุดได้อะไร รีบเอามาให้นาง ครั้งนี้เขาหยิบออกมาให้เอง นางกลับไม่เอา
หลี่อวิ้นจ้องเขาอยู่พักหนึ่ง ถามหยังเชิงว่า "แผลที่แขนดีขึ้นหรือยัง? ตอนนี้ยังสว่างอยู่ เจ้าไปบ้านแม่เป็นเพื่อนข้าสักเที่ยว" นางอยากให้ซวีชิงหย่วนไปเป็นคู่ ที่จริงเป็นเพราะไม่รู้เส้นทางกลับบ้านแม่
"เจ้าไปสกุลหลี่ทำไม? ข้างนอกหิมะกองหนาเดินลำบาก รอหิมะหยุดค่อยไปเถอะ!" หรือว่าปากนางบอกไม่ชอบโสม แต่ก็ยังเอาไปให้สกุลหลี่
“รอหิมะหยุดตก พวกเราก็อดตายแล้ว ฟังจากคำพูดเจ้า คิดอยู่ก่อนหน้านี้ข้าหยิบของกลับไปบ้านแม่ไม่น้อย ตอนนี้พวกเราทั้งครอบครัวจะอดตายแล้ว ไปขอบ้านแม่หน่อยน่าจะไม่เป็นไรมั้ง?”
ที่แท้นางมีความคิดแบบนี้ ได้ยินคำพูดของหลี่อวิ้น ซวีชิงหย่วนตาเป็นประกาย ใบหน้าเย็นชาดูอ่อนลงเล็กน้อย
"ได้ ข้าพาเจ้าลงเขากลับบ้านแม่" ซวีชิงหย่วนพูดพร้อมหยิบเสื้อผ้าด้วยมือเดียวมาสวมบนตัว
เสื้อผ้ายุคโบราณเดิมก็ยุ่งยาก ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้มืออีกข้างของซวีชิงหย่วนยังบาดเจ็บอยู่ ทำได้แค่ใช้อีกมือสวม เห็นเขาสวมอย่างไรก็ไม่เข้า หลี่อวิ้นเห็นก็หงุดหงิดเดินไปช่วยเขาสวม
ร่างกายเรียวบางแนบติดเขา กลิ่นหอมเฉพาะบนตัวผู้หญิงลอยเข้าจมูกของเขาในบางครั้ง ซวีชิงหย่วนรู้สึกตัวเกร็ง นั่งตัวตรงไม่กล้าขยับให้หลี่อวิ้นช่วยเขาสวมเสื้อนอก
“เจ้าสวมเสื้อผ้าบางเกินไปแล้ว ยังมีเสื้อตัวอื่นอีกไหม? ข้าไปหยิบมาสวมให้อีกตัว”
“มีแค่ตัวนี้” ซวีชิงหย่วนพูดอย่างเฉยชา
หลี่อวิ้นไม่ถามมากอีก เกรงว่ายิ่งถามจะรู้ว่าบ้านยิ่งจน
ภูเขาสูงตระหง่านเข้าเมฆ ตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยกองหิมะ หากไม่ทันระวัง เกรงว่าจะกลิ้งลงเขาเสียชีวิตทันที
สถานที่ที่หลี่อวิ้นและซวีชิงหย่วนอาศัยอยู่นั้นค่อนข้างห่างไกล ไม่ถึงกับสูงมาก แต่ว่าห่างไกลมาก มองไปไกล ๆ มีแค่ครอบครัวพวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่เท่านั้น ดูแล้วน่าสงสารจริง ๆ!
บอกให้เสี่ยวหนาน และเสี่ยวเป่ยอยู่รอในบ้านแล้ว ซวีชิงหย่วนพาหลี่อวิ้นเดินฝ่าหิมะตามเส้นทางภูเขาลงไป
ซวีชิงหย่วนตัวสูงกำยำเดินเร็วมาก หลี่อวิ้นตัวเตี้ยมากยืนอยู่หน้าซวีชิงหย่วนถึงแค่หน้าอกเขา ให้ความรู้สึกพบเห็นเหมือนยักษ์เขียวกับคนแคระ
หลี่อวิ้นกลัวตัวเองจะล้มจริง ๆ เดินเกาะติดซวีชิงหย่วนมาโดยตลอด เขาเดินหน้าหนึ่งก้าว นางก็ตามหลังไปหนึ่งก้าว ซวีชิงหย่วนมองเนินลื่นตรงหน้าแล้วหยุดลง เพิ่งยืนมั่นหลี่อวิ้นก็ชนหลังเขาทันที
“โอ๊ย เจ็บ...”
“เกิดอะไรขึ้น ชนโดนเจ้าหรือ?”
"อืม แผ่นหลังเจ้าทำจากหินหรือไง? ชนโดนหน้าอกข้าแล้ว เจ็บจริง ๆ" หลี่อวิ้นพูดอย่างแยกเขี้ยวยิงฟัน ฟันเล็กเต็มปาก เจ็บถึงร้องแท้ ๆ กลับเหมือนกำลังยิ้มอยู่
ซวีชิงหย่วนถึงเพิ่งพบว่า ใบหน้าของหลี่อวิ้นละเอียดอ่อน แตกต่างกับพี่สาวสกุลหลี่สองคนสิ้นเชิง ใบหน้านี้บวกกับดวงตาแวววาว ทำให้คนชอบได้ง่ายมาก โดยเฉพาะตอนนี้ นิสัยดีขึ้นมาก ไม่เย็นชารังเกียจต่อเขา
“ด้านหน้ามีแม่น้ำสายเล็ก ตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งแต่ไม่แข็งแรง เจ้าขึ้นมาข้าแบกเจ้าผ่านไป”
“เจ้าแบกข้า งั้นเจ้าต้องเดินผ่านน้ำหรือ?” หลี่อวิ้นถามโง่ ๆ ถามจบถึงพบว่าตัวเองโง่จริง ๆ เขาแบกนางก็หมายความว่าต้องลงน้ำไม่ใช่หรือ
อากาศหนางเป็นน้ำแข็ง เขายังแช่น้ำจะหนาวแค่ไหน!
แต่นางกลัวความหนาวจริง ๆ และเหมือนซวีชิงหย่วนยืนกรานจะแบกนางให้ได้ เขาไม่ยอม สุดท้ายหลี่อวิ้นก็เกาะหลังเขา สองมือซวีชิงหย่วนเกี่ยวสองขานางไว้ ข้อศอกรองรับก้นของนางเดินไปข้างหน้า
ได้ยินเสียงเขาเดินผ่านน้ำ หลี่อวิ้นถามเสียงอู้อี้ "ตอนนี้หิมะตกแล้ว ทำไมน้ำในแม่น้ำยังไม่เป็นน้ำแข็งอีก"
“นี่คือน้ำไหลลงสู่ในหมู่บ้านตลอดเวลา น้ำไหลปกติยากจะแข็ง ไม่เป็นไรเดินไปก็หมดเรื่องแล้ว”
เดินไปก็หมดเรื่องแล้ว แต่หลังจากสองขาของซวีชิงหย่วนออกจากน้ำ กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งทันที ต้องหนาวมากแน่ ๆ หลี่อวิ้นสงสารนิด ๆ
"บ้านแม่ข้ายังอีกไกลไหม? พวกเรารีบเดินไป ถึงบ้านรีบผิงไฟให้แห้ง" หลี่อวิ้นมองซวีชิงหย่วนอย่างเป็นห่วง อากาศหนาวแบบนี้ ขากางเกง รองเท้าเต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งแล้ว
