บทที่ 8
“อาเล็กข้าเกลียดท่าน ท่านไสหัวไป ห้ามเอาเนื้อของข้าไป ห้ามมาบ้านข้าอีก” หลี่ซงตะโกนโวยวาย แทบอยากเดินหน้าไปฉีกหลี่อวิ้น
หลี่อวิ้นแค่ได้ยินคำพูดของหลี่ซง คิดไม่ถึงหลี่ซงแอบทำด้านหลังนาง อยากใช้ท่อนเหล็กเผานาง นางกำลังหันหน้าไป ซวีชิงหย่วนก้าวไปข้างหน้าสองก้าวอย่างรวดเร็ว ยื่นมือขว้างผ่านหน้าของนาง
ท่อนไฟดั่งเตารีดแนบลงบนแขนของซวีชิงหย่วน ตอนนั้นหลี่อวิ้นรู้สึกแค่ข้างหูมีเสียงเนื้อไหม้
"พี่หย่วน..." หลี่อวิ้นตกใจจ้องซวีชิงหย่วน แค่ฟังเสียงก็รู้แผลไหม้นี้รุนแรงมาก
"ไม่เป็นไร พวกเราไปเถอะ" เสียงต่ำของซวีชิงหย่วนแฝงความผิดปกติแวบหนึ่ง บริเวณที่ไหม้เป็นแขนที่เขาได้รับบาดเจ็บพอดี เจ็บจนทนไม่ไหวจริง ๆ
"ไป พวกเรากลับ" หลี่อวิ้นพูดอยู่เห็นของบนเขียง สุดท้ายก็หยิบมา ซ้ายขวามีเนื้อพร้อมน้ำแกงและเนื้อดิบหนักสิบกว่าจินหนึ่งชิ้น หลี่อวิ้นไม่กลัวหนักจึงยกไปแบบนั้น
ซวีชิงหย่วนมองนางพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า "เอาของมาให้ข้า เอาหนังแผ่นข้าง ๆ กลับบ้านให้เจ้าทำเสื้อผ้าสักชุด" ในเมื่อมาหยิบของตัดสินใจหยิบไปให้หมด แม้แต่หนังแผ่นหนึ่งก็ห้ามเหลือ
หลี่อวิ้นเม้มริมฝีปาก ทั้งอยากร้องไห้และหัวเราะ คิดไม่ถึงซวีชิงหย่วนจะพูดแบบนั้น
หลี่ซงเห็นเนื้อที่บ้านพวกเขาต้มเสร็จถูกเอาไป ยังอยากไปตีหลี่อวิ้น ซวีชิงหย่วนจ้องหลี่จ่างเกิน พูดอย่างเย็นชาโหดเหี้ยมว่า "หากไม่อยากตายก็ดูเขาไว้ให้ดี ลองลงมืออีกครั้ง ตอนมือข้าเปื้อนเลือด พวกเจ้ายังไม่รู้อยู่ไหน"
ประโยคนี้ ทำให้สมาชิกของสกุลหลี่ยอมแพ้ แต่หลี่อวิ้นซาบซึ้ง
หลี่อวิ้นและซวีชิงหย่วนแบกเนื้อดิบและถือเนื้อยังต้มไม่สุกครึ่งถัง ยังมีหนังแกะที่ยังไม่ทันทำความสะอาด ไปแบบสง่าผ่าเผยแบบนี้
นางหลี่มองพวกเขาจากไป ในใจเต็มไปด้วยความเกลียด เคาะไม้ในมือ "เจ้าทำแบบไม่อายแบบนี้ วันหลังก็ไม่ต้องกลับบ้านข้าอีก พวกเราสกุลหลี่ไม่มีลูกสาวอย่างเจ้า สวรรค์ช่างตาบอดจริง ๆ ให้ข้าเลี้ยงเจ้าจนโต กินดื่มของข้า เลี้ยงโตแบบนี้กลายเป็นคนอกตัญญู ข้าสร้างเวรจริง ๆ"
"จริงด้วย ครั้งนี้อาอวิ้นทำเกินไปจริง ๆ ที่นี่คือบ้านของนาง นางถือของออกไป เข้าข้างคนนอก ยังอกตัญญูต่อแม่ ดูเจ้าทำแม่โกระ รีบวางของลง เอาใจแม่เรา” หลี่ซินปากตะโกนพูดเรื่องความยุติธรรมอยู่ข้าง ๆ
หลี่จ่างเกินและหลี่ฉางหลินเดินออกจากห้องครัวไม่กล้าว่าอะไร
กลับเป็นหลี่ซง อ้าปากด่าหลี่อวิ้น "ข้าไม่มีอาเล็กอย่างเจ้า หากเจ้าโดนหย่า ตายอยู่ข้างนอกก็ไม่ต้องเข้าประตูบ้านพวกเรา ครั้งหน้ามาอีก ข้ายังจะตีเจ้า ตีให้ตาย ใครใช้เจ้าเอาเนื้อของข้าไป แง ๆ นั่นเป็นเนื้อของข้า ท่านย่าและพ่อแม่ทุกคนบอกว่าเป็นเนื้อของข้า"
“ถูกต้อง เสี่ยวซงจำไว้ให้ดี เป็นนางที่เอาเนื้อของเจ้าไป ครั้งหน้าตอนเห็นนางตีแรง ๆ ตีให้ตายก็ไม่เกินไป” นางหลี่คนแก่คนนี้สอนหลานชายทำแบบนี้
หลี่อวิ้นถือของได้ยินคำพูดของพวกเขา ในใจทรมานมาก คนทั้งบ้านนี้ไม่ใช่คนดีจริง ๆ คนแก่และเด็กทั้งบ้าน ด่านางยังจะตีนางให้ตาย
"ข้าบอกพวกเจ้าไว้เลย หากว่าอาอวิ้นถูกพวกเจ้ารังแกแม้แต่นิด ข้าเอาคืนให้พวกเจ้าสิบเท่า" ซวีชิงหย่วนพูดจาโหดเหี้ยมแล้วจ้องนางหลี่ทั้งบ้าน
"พี่หย่วน พวกเราไปเถอะ เกรงว่าข้ามาบ้านหลังนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ก็คือครั้งหน้าอยากจะมาพวกเขาก็คงไม่ต้อนรับ" หลี่อวิ้นเพิ่งเข้าใจ ครั้งนี้นางแตกหักกับสกุลหลี่แล้ว
“ไม่ต้องห่วง เจ้ายังมีข้า” คำสัญญาที่เขาให้ได้มีเพียงเรื่องนี้
หลี่อวิ้นพยักหน้า เดินไปพร้อมซวีชิงหย่วน อย่างเงียบ ๆ ตลอดทาง
......
หลังจากออกจากบ้านสกุลหลี่ เห็นซวีชิงหย่วนไม่ได้พาหลี่อวิ้นเดินขึ้นเขา
"พี่หย่วน ตอนนี้พวกเราจะไปไหน? ไม่กลับบ้านหรือ? เสี่ยวหนานเสี่ยวเป่ยยังรออยู่ในบ้านนะ" หลี่อวิ้นพูดเตือนสติ
"กลับบ้าน ก่อนกลับบ้านพวกเราไปดูในบ้านก่อน อยู่เชิงเขายังมีบ้านแม่ข้าอยู่หลังหนึ่ง เรื่องนี้ก็ลืมแล้วหรือ?" ซวีชิงหย่วนหยุดเดินถามและมองหลี่อวิ้น
หลี่อวิ้นส่ายหน้า "จำไม่ได้แล้ว" ตอบเสร็จนางก็พูดว่า "พี่หย่วน แผลที่แขนท่านต้องเจ็บมากแน่ ๆ พวกเรารีบทำแผลก่อนเถอะ"
"ไม่เป็นไร หน้าหนาวอากาศเย็น ไม่รู้สึกเจ็บ" ความหมายของซวีชิงหย่วนคือหน้าหนาวอากาศเย็นจัด แผลแข็งจนไม่มีความรู้สึกแล้ว ดังนั้นไม่เป็นไร
หลี่อวิ้นเม้มริมฝีปากพูดเสียงอู้อี้ว่า "เมื่อกี้ข้าวู่วามเกินไปรึเปล่า? อันที่จริงหากไม่ใช่พวกเขาด่าข้า ข้าก็จะไม่ทำแบบนี้ ข้านิสัยไม่ดีเท่าไหร่ หุนหันง่าย"
"เจ้าเป็นแบบนี้น่ะดีมากแล้ว เป็นพวกเขาที่ผิด"
ที่จริง ซวีชิงหย่วนบอกปัญหาของสกุลหลี่นานแล้ว แต่หลี่อวิ้นในตอนนั้นกลับไม่เข้าใจเลย ยังด่าซวีชิงหย่วนไม่ใช่คน ในฐานะลูกเขยของสกุลหลี่ ถึงขนาดไม่อยากช่วยบ้านแม่นาง หลังจากนั้นเป็นต้นมา ซวีชิงหย่วนไม่ถามหลี่อวิ้นรวมถึงเรื่องของสกุลหลี่อีก เหนือความคาดหมาย หลี่อวิ้นจะทะเลาะแตกหักกับสกุลหลี่ด้วยตัวเอง
แบบนี้ก็ดี
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเขาสนใจแค่ใช้ชีวิตของตัวเองก็พอ
ก่อนหน้านี้เขาเต็มใจรับปากหลี่อวิ้น รอเด้กสองคนโตอีกหน่อยให้นางจากไป ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองคาดหวังนางอยู่ข้างกายตัวเองต่อ มีชีวิตที่มีความสุขต่อไป
อีกสองโค้ง ผ่านถนนเล็ก ก็เห็นบ้านลานเอียงเล็ก ๆ ราง ๆ บนหลังคาเต็มไปด้วยกองหิมะ บ้านซอมซ่อเล็กนั้นยิ่งดูรกร้างและผุพัง
“พี่หย่วน นี่เป็นบ้านพี่หรือ?” หลี่อวิ้นถามอย่างเหลือเชื่อ
เดิมนางว่าบ้านไม้ที่พวกเขาอาศัยอยู่ผุพังแล้ว คิดไม่ถึงบ้านที่พ่อแม่ของซวีชิงหย่วนอาศัยอยู่ยิ่งเลวร้ายจนทนดูไม่ได้
“ใช่ พ่อแม่ข้า น้องชายอีกสองคนและน้องสาวอีกหนึ่งคน พวกเขาอาศัยอยู่เชิงเขา ตอนแรกหลังพวกเราแต่งงาน เจ้าไม่เต็มใจอยู่ร่วมกับพวกเขา ข้าก็เลยสร้างบ้านไม้บนภูเขา พวกเราเลยย้ายไปอาศัยบนภูเขา" ซวีชิงหย่วนอธิบายเสียงเบา เพราะเสียงเบาและแหบของเขา ทำให้หลี่อวิ้นได้ยินรู้สึกสงสารเล็กน้อย
"พ่อแม่พี่อยู่ร่วมกันได้ยากหรือ?" หลี่อวิ้นถามเสียงเบา เพราะนางรู้ ตั้งแต่โบราณแม่สามีและลูกสะใภ้อยู่ร่วมกันยาก นางกลัวแม่สามีหาเรื่องกลั่นแกล้ง
“เจ้าเข้าไปก็รู้เอง”
ที่จริง พ่อแม่ของซวีชิงหย่วน นิสัยอ่อนโยน ก่อนหน้านี้อยู่ในหมู่บ้านก็ถูกคนรังแก ต่อมาที่นาและบ้านล้วนถูกคนยึดไป พวกเขาจนปัญหาถึงย้ายมาอยู่ที่เชิงเขา
ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ของซวีชิงหย่วนและซวีชิงหย่วนก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะลูกชายคนนี้ตอนนั้นถูกจับแทนภาษี แว่บเดียวไม่เคยเจอหน้าสิบกว่าปี ยังพูดถึงความรู้สึกครอบครัวอะไร
ตอนเป็นทหารอยู่ในค่าย เพราะซวีชิงหย่วนบาดเจ็บที่แขนทำงานไม่ได้ก็กลับมาบ้านเกิด ผู้ชายอายุยี่สิบห้าปี อาศัยเงินที่เก็บมาหลายปี ขอภรรยาคนหนึ่งใช้ชีวิตสงบสุข คิดไม่ถึงเจ้าของร่างเดิมที่ขอมากลับเป็นผู้หญิงปากร้ายกินบนเรือนขี้บนหลังคา ไม่รู้จักบุญคุณ
หลี่อวิ้นคุมประพฤติเข้มงวดกับซวีชิงหย่วน อย่าว่ากลับมาก็แค่ฝากคนเอาของให้พ่อแม่ซวี หลี่อวิ้นก็โวยวายทะเลาะกันหนัก เพื่อความสงบสุขในบ้าน เคยมาแค่ไม่กี่ครั้ง
คนสองยืนอยู่หน้าประตู คนหนึ่งเย็นชาไม่รู้จะพูดอะไร อีกคนระมัดระวังไม่รู้ควรยิ้มหรือควรทักทายก่อน
