บทที่ 2 บทนำ

ข้าว!!! ไอ้ข้าว!!

ปึก!!!

ทั้งเสียงเรียกและเสียงบางอย่างกระทบโต๊ะอย่างดังทำคนนอนอยู่บนโซฟาสะดุ้งตื่นเด้งตัวเช็ดเหงื่อมองมือหนานาบลงบนโต๊ะหลังจากตบด้วยแรงของความเป็นชายขมวดคิ้วจ้องหน้าข้าวที่ยกมือจับต้นคอนั่งนิ่ง

“เป็นอะไรของแกเนี้ย กินยานอนหลับหรือไง เรียกตั้งนานก็ไม่ตื่น” ขันโตก ดีเจหนุ่มที่ก่อนหน้าอยู่ในผับแต่ตอนนี้กลับมาอยู่ตรงหน้าข้าวที่เลื่อนสายตามองมุนินลากกระเป๋าเสื้อผ้าออกมาจากห้องนอน

“เสร็จแล้ว ไปยังของแกอยู่ในนี้หมดแล้วข้าว ทั้งของแกและของฉัน แล้วแกอะขัน” มุนินเลิกคิ้วลากกระเป๋าไว้หน้าห้องเดินย้อนกลับมาเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำดื่มแล้วเดินมานั่งข้างข้าวที่ยกมือจับหน้าผาก

“อาการมันไหวป่ะเนี้ย” ขันโตกยังอยู่ในชุดเดิมพิงโซฟาเดี่ยวมองข้าว

“บอกให้ไปหาหมอหลายครั้งแล้ว ฉันถึงให้มันมาอยู่กับฉันไง ต้องคอยเรียกตลอดบางทีก็ไม่หายใจฉันนี่เกือบช็อคหลายรอบ” มุนินเหล่มองข้าวพร้อมตอบคนถาม

“ฉันโอเค ล้างหน้าก่อนแล้วกัน พวกแกก็ตื่นตูมไปได้” ข้าวลุกขึ้นเดินอ้อมเข้าห้องน้ำหมุนก๊อกน้ำก้มลงล้างน้ำก่อนเงยหน้ามองตัวเองในกระจก “เฮ้อ ฝันซ้ำซ้อนอะไรนักหนา เดี๋ยวปลูกบ้านทรงไทยซะเลยดีมั้ง”

“ก่อนไปแวะตรวจร่างกายก่อนไหม อาการแกทำฉันเป็นห่วง แกรู้ตัวไหม” ขันโตกเดินมายืนกอดอกพิงขอบประตูห้องน้ำเอียงหน้ามองข้าวสีหน้าจริงจัง

“ไม่ได้ผลหรอก ฉันลากมันไปหลายรอบแล้วหมอจะโดนด่ามากกว่า ไปเหอะเดี๋ยวตกเครื่อง” มุนินยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กให้ข้าวเช็ดหน้าก่อนตบไหล่ขันโตกเดินลากกระเป๋าออกไป ข้าวเดินผ่านขันโตกไปหยิบกุญแจแล้วลากตัวขันโตกออกจากห้องพร้อมปิดประตูสนิท

ตูมมม!!

น้ำทะเลสีฟ้าครามใสจนเห็นเบื้องล่างกระเซ็นตามแรงกระโดดของชายหนุ่มร่างกำยำพร้อมเสียงหัวเราะชอบใจของหญิงสาวผมสั้นสีทองสวมบิกินี่สุดวาบหวิวนอนอาบแดดอยู่บนแผ่นพลาสติกลอยน้ำ ข้าวเดินมองเพื่อนสองคนอยู่บนสะพานไม้ด้วยรอยยิ้มก่อนเดินไปจนสุดทางในชุดวันพีชกระโปรงกวาดสายตามองท้องฟ้าที่เริ่มอึมครึมแม้สายลมจะพัดผ่านไม่ได้ทำให้บรรยากาศคลายร้อนแม้แต่นิด

“ข้าว!” เสียงเรียกอยู่ด้านล่างทำให้เจ้าของชื่อก้มลงไปมองหน้าคนที่ว่ายน้ำอยู่

“แกเรียกชื่อฉันหรือแกหิว เรียกอยู่นั่นแหละ” ข้าวเท้าเอวจ้องหน้าขันโตกที่กระตุกยิ้มชอบใจ

“เช่าเรือไปดำน้ำกัน”

“แกเห็นฉันเป็นปลานีโมหรือไง แกก็รู้ว่าฉันว่ายน้ำไม่เป็น อีกอย่างพ่อแกรออยู่บนหัวนู้น ออกกลางทะเลเคยตายไหม ไอ้ดีเจไข่ห่านนี่งี่เง่าจริงๆเลย” ร่ายยาวจนคนที่ลอยน้ำอยู่ต้องยกมือปิดหู

“โห ชวนนิดเดียวเหมือนโดนด่าจนบ้านพัง งั้นมาเล่นตรงนี้ตื้นเห็นไหม ขาฉันยืนถึง” ขันโตกเปลี่ยนเรื่องมองน้ำใสเห็นเท้าตนเอง

“ไอ้ขัน”

“อะไรอีกเล่าแม่คุณ”

“ตัวแกกับตัวฉันเท่ากันหรือไง นี่ก็ลึกเท่าคอแกละถ้าฉันลงไปมิดหัวพอดี พูดแต่ละอย่างเจริญหูจริงๆไปหาอะไรกินดีกว่า” ข้าวยกนิ้วกลางชี้หน้าขันโตกแล้วหมุนตัวกลับ

“ไปด้วย” เสียงขันโตกตะโกนบอกก่อนว่ายน้ำกลับ ข้าวเหล่มองแล้วฉีกยิ้มส่ายหน้าไปมา

โพละ! ซู่!!!

ดวงตาเบิกกว้างเมื่อสะพานไม้ที่ตนเหยียบอยู่แตกออกจากกันจนขาขวาหลุดร่วงบวกกับฝนฟ้าคะนองห่าใหญ่ราวกับพายุโหยหวนเสียงอื้ออึงอยู่ในหูเธอพยายามยกขาข้างที่ตกขึ้นก่อนสะพานจะลั่นแตกรอบตัว

อั่ก ! ตูมมมม

ร่างบางร่วงลงน้ำพยายามตะเกี่ยตะก่ายช่วยตัวเองให้พ้นโผล่จากน้ำแต่ยิ่งดิ้นรนมากเท่าใดความอ่อนแรงครอบงำมากเท่านั้นสีน้ำเริ่มขุ่นจนแสบตาจมดิ่งลงช้าๆ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป