บทที่ 14 14
“ป้าดีใจที่คุณหนูเข้าใจเรื่องนี้ เดี๋ยวป้าจะไปดูเองค่ะว่าใครมา”
ยูเลียน่าบีบมือเรียวบางเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตูและต้องพบว่าผู้มาเยือนอพาร์ตเม้นท์คือชายหนุ่มซึ่งพาเธอและลดามาส่งในวันเกิดอุบัติเหตุ หญิงวัยกลางคนไม่แสดงอาการสะทกสะท้านใด ๆ ทว่าร่างสูงใหญ่กลับแสดงความประหลาดใจออกมาชัดเจนก่อนก้มศีรษะให้เพื่อแสดงความเคารพ
“เอ้อ...ขอโทษนะครับ คุณป้าพักอยู่ห้องนี้หรือครับ จำผมได้ใช่ไหมครับ ผมราฟาอิล เป็นคนพาคุณป้ากับหลานสาวมาส่งวันนั้น”
“จำได้สิจ๊ะ แล้วพ่อหนุ่มมาหาใครที่นี่หรือ?”
“คุณโรดิออน แม็กซิมานอฟให้ผมมารับคุณอิเล็คตร้า อเล็กซีฟ ครับ ท่านบอกผมว่าเธออยู่อพาร์ตเม้นท์นี้ และห้องหมายเลขนี้ครับ”
ชายหนุ่มในชุดสูทภูมิฐานกล่าวด้วยความนอบน้อมในขณะที่ยูเลียน่าเปิดบานประตูกว้างกว่าเดิมก่อนจะกล่าว
“เชิญค่ะ คุณหนูอยู่ข้างใน”
ราฟาอิลเดินตามหญิงวัยกลางคนเข้าไปถึงห้องอาหารก็พบหญิงสาวซึ่งบนแขนยังมีรอยเข้าเฝือกจากวันนั้นยืนคอยอยู่ก่อนแล้ว
“นี่ไงคะ...คุณหนูอิเล็คตร้า ลูกสาวคนเดียวของท่านยูเชนคอฟ ส่วนฉันเรียกป้ายูลี่ก็ได้จ้ะ”
พอยูเลียน่าแนะนำให้ชายหนุ่มได้รู้จักคนที่เขามารับไปพบผู้เป็นนาย ราฟาอิลถึงเข้าใจว่าแท้แล้วหญิงสาวผู้นี้คือคู่หมั้นหมายของโรดิออน...โลกนี้ช่างกลมเสียนี่กระไร เขานึกในใจ
“สวัสดีค่ะ ราฟาอิล เราได้เจอกันครั้งหนึ่งแล้วนะคะ”
“ครับ...ต้องขอโทษจริง ๆ ที่ไม่รู้ว่าคุณคือคุณหนูอิเล็คตร้า คุณโรดิออนให้ผมมารับคุณไปคฤหาสน์ของตระกูลนอกกรุงมอสโกครับ”
คนของโรดิออนยังคงสุภาพสำหรับสตรีทั้งสองดังคราแรกที่ได้พบ ลดาและยูเลียน่าตามราฟาอิลลงไปถึงหน้าอพาร์ตเม้นท์จึงรู้ว่าเขาไม่ได้ถูกส่งมาคนเดียว มีรถเมอเซเดส เบ๊นซ์สีดำสนิทสามคันจอดรออยู่และมีผู้ติดตามในชุดสูทสีเดียวกันเกือบสิบคนยืนคอยท่ามกลางสายตาของคนในอพาร์ตเม้นท์และผู้เดินผ่านไปมาบนถนน ร่างบางจูงมือหญิงวัยกลางคนก้าวขึ้นไปนั่งบนรถคันที่สองตามคำเชื้อเชิญของราฟาอิลก่อนนรถทั้งสามคันจะเคลื่อนออกไปมุ่งหน้าสู่ทางใต้ของกรุงมอสโก
“เราจะไปไหนกันหรือพ่อหนุ่ม?”
“เราจะไปคฤหาสน์ของคุณโรดิออนแถบยาสนายาปอลยาน่าครับ ป้ายูลี่”
คำตอบของราฟาอิลทำให้ลดาหันมาทางยูเลียน่าทันใด
“ยัสนายา ปอลยาน่าหรือคะ? ลดาจะได้พบตอลสตอยหรือเปล่าคะป้ายูลี่”
“คุณหนูจะได้ไปเคารพท่านค่ะ หลังเสร็จพิธีแต่งงานในโบสถ์แล้ว”
ลดาแย้มเรียวปากออกทว่าข้างในกลับวิเวกหัวใจนักเมื่อรถเมอเซเดส เบ๊นซ์ที่แล่นตามกันไปเริ่มทิ้งห่างจากภาพฝันของสังคมใหม่อันรุ่งเรือง ภาพโรงงานเก่าผุและไม้ยืนต้นไร้ใบเหลือเพียงกิ่งก้านแบกรับน้ำหนักจากเกล็ดหิมะสีเงินปลิวว่อนสองข้างทางเสมือนความอ้างว้างที่บังเกิดแก่หญิงสาวยามนี้ เธอกำลังเดินทางไปข้างหน้าเพื่อเผชิญกับเศษเสี้ยวของวันเวลาที่เคยสูญหาย การพบกันเช่นนี้ลดายังไม่รู้เลยว่าจะเป็นเช่นไร โรดิออนจะยังชิงชังผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นหน้าอีกหรือไม่ เธอมิอาจรู้เลย
“คุณหนูคะ ถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทุ่งตะวันฉายจะงดงามจนยากจะลืมเลือน”
ยูเลียน่ากระซิบบอกลดาซึ่งดวงตาคู่งามของร่างอรชรทอดมองออกไปยังสองข้างทางที่ขนาบด้วยต้นเบิร์ชไร้ใบและผืนดินคลุมด้วยหิมะขาวโพลนทว่าดูอ่อนนุ่มเสมือนผ้านวมผืนใหญ่ห่มไปทั่วราวป่า เส้นทางที่รถวิ่งผ่านมากำลังมุ่งตรงไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่แวดล้อมด้วยแมกไม้ห่างไกลออกมาจากมอสโกเกือบสองร้อยกิโลเมตร ร่างบางกระชับแจ๊คเก็ตกันหนาวเมื่อราฟาอิลพารถคันหรูเข้าไปจอดที่ลานด้านหน้าซึ่งบัดนี้มีแต่เกล็ดน้ำแข็งส่องประกายระยับพราวทั่วไปหมดบนทางเดิน หญิงสาวยังคงจับมือหญิงวัยกลางคนขณะก้าวลงจากรถเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์พร้อมชายร่างสูงใหญ่นับสิบเดินนำหน้าและตามหลังกระทั่งถึงห้องโถงใหญ่ซึ่งได้รับการออกแบบตกแต่งด้วยของล้ำค่าแบบแอนทีค ทั้งโซฟา ผ้าม่าน เตาผิงและโคมไฟระย้าดูลานตาราวอยู่ในพระราชวัง เพียงครู่ก็มีใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาในห้องเมื่อเหล่าผู้ติดตามถอยออกไปด้านนอกจนหมดซึ่งแน่นอนว่าความประหลาดใจก็ฉายชัดบนใบหน้าบ่งริ้วรอยของชายวัยกลางคนผู้ทรงอิทธิพลรองจากเจ้าของคฤหาสน์
“คุณ...เอ้อ...คุณอิเล็คตร้า” วลาดิมีร์หลุดเสียงเรียกคนตรงหน้าออกมาเบา ๆ เมื่อเห็นชัดว่าหญิงสาวคือคน ๆ เดียวกับผู้หญิงที่พบในโรงพยาบาล
“เซอร์ไพรซ์ที่สุด ผมไม่นึกว่าผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุวันนั้นคือลูกสาวของท่านยูเชนคอฟ”
“ค่ะ...ลดาต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกคุณแต่แรก”
