บทที่ 6 6

จูบแรกจากชายแปลกหน้า

“จะเป็นการรบกวนคุณมากไปหรือเปล่าคะ ร็อด?”

“ถือว่าเป็นสิ่งที่ผมเต็มใจก็แล้วกันครับ”

คนตอบหันมายิ้มกว้างและทันได้สบดวงตาส่องประกายแวววาวของหญิงสาวที่ก็อึ้งไปชั่วขณะเมื่อเห็นความหล่อเหลาบนใบหน้านั้นชัด ๆ ตรง ๆ  ลดาปฏิเสธตัวเองไม่ลงว่าความประทับใจเล็ก ๆ แต่แรกเห็นบัดนี้เริ่มพอกพูนมากขึ้นเหมือนแสงสว่างที่เริ่มลุกจ้าทุกขณะ เขาคือโรดิออน แม็กซิมานอฟ และเธออยากปฏิเสธบุรุษผู้นี้แต่แรกมิใช่หรือ หญิงสาวย้ำความคิดกับตัวเองตั้งแต่เดินทางพ้นจากน่านฟ้าประเทศไทยว่าทำยังไงก็ได้ที่จะขอยกเลิกการแต่งงาน ทว่าตอนนี้ความหวั่นกลัวต่างหากที่เกาะกุมความหวั่นไหวต่อชายแปลกหน้าซึ่งอีกไม่ช้าเธอจะต้องเจอเขาในอีกสถานะ

“ลดาอยู่เมืองไทย คุณทำอะไรที่นั่นครับ?”

“ฉันเรียนจบด้านศิลปะค่ะ ฉันชอบวาดรูป อยากมีแกลเลอรี่เป็นของตัวเอง”

“โอ...นั่นเป็นความฝันของคนทำงานศิลปะแทบจะทุกคน ผมเองก็ชื่นชมผลงานที่มีคุณค่าพวกนี้ แต่บางครั้งภารกิจและการเดินทางก็ทำให้ไม่มีเวลาได้ซื้อหางานศิลปะอย่างจริงจัง รัสเซียน่ะเป็นประเทศที่มีศิลปินและศิลปะชั้นยอดอยู่มากมาย ผมไม่รู้ว่าแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานมาจากระบอบการปกครองยุคเก่าหรือเปล่า ตอนนี้รัสเซียใหม่เต็มไปด้วยความน่าหลงใหล ผมว่ามันเหมือนต้นไม้ที่เติบใหญ่จากเถ้าถ่านภูเขาไฟ ถึงทุกอย่างจะระเบิดและกลายเป็นฝุ่นผงปลิวหายไปในสายลม แต่ลูกไม้เล็ก ๆ ก็ยังคงฝังรากอยู่ใต้เถ้าถ่านและรู้ว่าถึงเวลาที่มันจะงอกงามแล้ว...เอ้อ...ผมพูดอะไรมากไปหรือเปล่าครับ ลดา”

“ไม่ค่ะ...ไม่เลย” หญิงสาวทอดน้ำเสียงอันนุ่มนวลและสบกับนัยน์ตาสีเหล็กกล้าบนใบหน้าคร้ามคมซึ่งหันมามองเธอบ่อยครั้งที่แตะคันเบรกเบา ๆ ทำไมเธอต้องมาเจอเขาและแสร้งทำเหมือนไม่รู้ว่าแท้จริงคนที่อยู่ใกล้เวลานี้เป็นใคร ลดาเริ่มสับสนและคิดว่าเธอควรผนึกความเป็นตัวตนไว้เพราะไม่รู้จะบอกให้โรดิออนรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือคู่หมายของเขา

“ถ้าคุณชื่นชอบงานศิลปะ คุณต้องชอบสถานที่นี้เป็นแน่”

โรดิออนหันมาบอกหญิงสาวขณะชลอรถที่แล่นฝ่าการจราจรคับคั่งในตัวเมืองกระทั่งมาถึงยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งทำให้เธออ้าปากค้างกับสถาปัตยกรรมอันงดงามบนลานกว้างนอกหน้าต่างรถยนต์

“มหาวิหาร เซนต์ เบซิล (อังกฤษ: Saint Basil's Cathedral; รัสเซีย: Собор Василия Блаженного) ...สัญลักษณ์ของมัสกวา (มอสโก) แน่นอนที่มันช่วยยืนยันคำพูดที่ว่า มัสควา คราซีวายา...มอสโก เป็นเมืองที่สวยงาม”

รอยยิ้มอ่อนหวานระบายอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มเมื่อเขาเคลื่อนรถเข้าไปจอดในบริเวณใกล้กันกับสิ่งที่กำลังอวดความอลังการอยู่ในดวงตาของหญิงสาว ลดาก้าวขาลงจากบีเอ็มดับเบิ้ลยูพร้อมคนขับและแม้ละอองน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์จะร่วงหล่นลงมาปกคลุมไปทั่วเธอก็ยังคงมองเห็นความงามของสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานเปล่งรัศมีเจิดจรัสท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ

“ที่นี่คือจัตุรัสแดง ความทรงจำและจิตวิญญาณของรัสเซียอยู่ที่นี่ ตามผมมาสิ ลดา”

ชายหนุ่มเชื้อเชิญขณะล้วงมือทั้งสองข้างลงไปในกระเป๋าแจ็คเก็ตขนสัตว์และเดินนำหน้าซึ่งลดาแทบจะมองไม่เห็นเงาของนักธุรกิจระดับเจ้าพ่อซึ่ง ณ วินาทีนี้ โรดิออนก็เหมือนคนหนุ่มทั่วไป เลือดเนื้อและความอบอุ่นที่จับต้องได้ทำให้เธอหลงลืมความตั้งใจเดิมไปเสียสนิท ร่างบางในชุดกระโปรงสวมทับด้วยแจ็คเก็ตตัวหนาก้าวตามร่างสูงเข้าไปใกล้สิ่งก่อสร้างเสมือนศูนย์รวมจิตวิญญาณซึ่งเธอเพียงเคยเห็นแต่รูปในหน้าเว็บไซต์ บิดาของเธอมักร่ายรจนาเกี่ยวกับความวิจิตรของสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียโบราณที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาณาจักรไบแซนไทน์ฉาบอยู่บนโดมขนาดใหญ่ทั้งเก้าเหนือมหาวิหารซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์นิกายออธอด็อกซ์

“มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ เซนต์ เบซิล เดอะ คาร์ธิดรัล ว่าเป็นโบสถ์ที่งดงามมากซะจนพระเจ้าอีวานที่สี่ต้องปูนบำเหน็จให้ ปอสต์นิค ยาคอฟเลฟ สถาปนิกอย่างงาม”

โรดิออนหยุดยืนใกล้ทางเข้ามหาวิหารซึ่งถูกฉาบด้วยเกล็ดน้ำแข็งขาวโพลนตามยอดโดมบนหอคอยสูงคล้ายเทียนลุกไหม้ส่งเปลวไฟชัชวาลขึ้นสู่ชั้นฟ้า ลดาหยุดก้าวตามและจ้องชายหนุ่มก่อนกล่าวว่า

“เป็นบำเหน็จที่ยาคอฟเลฟต้องจดจำไปชั่วชีวิต เพราะอีวานควักดวงตาของเขาทั้งสองข้าง เซนต์ เบซิล น่าอัศจรรย์ถึงเพียงนี้เอง อีวาน เดอะ เทริบเบิ้ล (Ivan The Terrible) ถึงได้ไม่ต้องการให้สถาปนิกของเขาสร้างสิ่งที่สวยงามเกินกว่านี้ได้อีก”

“ถ้าหิมะไม่ตกหนัก คุณจะหลงใหลมันมากกว่านี้”

“แค่นี้ฉันก็ไม่อยากไปไหนแล้วค่ะ ร็อด...อยากยืนมองมันอยู่แบบนี้นาน ๆ ...อุ๊ย!”

ลดาร้องออกมาเบา ๆ เมื่อเผลอเอามือกอดอกโดยลืมไปว่ามันเป็นการเกร็งกล้ามเนื้อแขนที่ยังเจ็บอยู่โดยไม่ได้ตั้งใจซึ่งอาการของหญิงสาวก็ทำให้โรดิออนหน้าตื่นที่เห็นคิ้วโก่งบนหน้าหวานขมวดเข้าหากันยุ่ง

“ลดา...คุณเจ็บแขนหรือ?”  ชายหนุ่มลืมตัววางมือหนาใหญ่ลงบนต้นแขนทั้งสองของหญิงสาวและก้มหน้าเข้าไปใกล้จนลดาออกอาการเขิน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป