บทที่ 9 9
“ครับ...คุณวลาดิมีร์”
“ราฟาอิล...พรุ่งนี้เช้าไปรับคุณอิเล็คตร้า ลูกสาวท่านยูเชนคอฟตามที่อยู่นี้”
ว่าพลางก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กให้ผู้ติดตามคนสนิทที่รับไปและทำหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นที่อยู่ในกระดาษแผ่นนั้น
“คุณวลาดิมีร์ครับ...ผมว่าผมเคยไปอพาร์ตเม้นท์นี้มาแล้วนะครับ มันอยู่ห่างจากที่นี่ไปไม่ไกล”
“มันเป็นอพาร์ตเม้นท์ที่ท่านยูเชนคอฟซื้อทิ้งไว้ตอนอยู่มอสโก ยังคงมีคนเช่าอยู่และได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ท่านคีริลเป็นคนจ้างอินทีเรียชื่อดังเข้าไปตกแต่งภายใน สมบัติทุกชิ้นของท่านยูเชนคอฟถูกเก็บรักษาไว้ เพื่อรอวันที่เจ้าของ...กลับมาเอาคืน”
ท้ายประโยคเสมือนวลาดิมีร์กำลังบอกอะไรบางอย่างกับตัวเองเมื่อราฟาอิลถอยออกไปแล้ว ชายวัยกลางคนนั่งไขว่ห้างเอามือประสานกันบนตักขณะเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่างที่ละอองหิมะล่องลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศ เฉกความคิดของชายอายุเข้าสู่มัจฉิมวัยลอยไปไกลสู่อดีต เขาเห็นภาพสองบุรุษผู้ก่อตั้ง แม็กซิมัส บริษัทค้าเพชรซึ่งขยายการขุดค้นเหมืองเพชรใหม่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วหลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย สองคนต่างขั้วนิสัยหากก็ทำงานร่วมกันได้จนแม็กซิมัสกลายเป็นมหาอำนาจในตลาดเพชรอย่างยากจะมีผู้ใดโค่นลงได้ คีริลนั้นเต็มไปด้วยเลือดของความทะเยอทะยาน หยิ่งทะนง มุ่งมั่นและไม่เคยครั่นคร้ามต่ออุปสรรคหรือใครหน้าไหนทั้งสิ้น ในขณะที่หุ้นส่วนคนสำคัญอย่างยูเชนคอฟกลับชอบเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ใคร่ออกงานสังคมทว่ากลับเป็นหัวหอกใหญ่นำพาแม็กซิมัสทะยานไปไกลในตลาดเพชรระดับโลก
หากการค้าคือสนามรบ คีริลคือจอมทัพบุกตะลุยไปทั่วทุกแห่งหนโดยมีนักวางแผนความคิดฉกาจอย่างยูเชนคอฟอยู่เบื้องหลัง กระทั่งทั้งสองต้องมาพบอุปสรรคใหญ่คือความไม่เข้าใจจนมาถึงจุดแตกหัก วลาดิมีร์รู้ดีว่าอาการป่วยตลอดระยะเวลาหลายปีของคีริลนั้นเกิดจากอะไร ไม่มีใครรู้ความเป็นไปว่ามันเป็นความตรอมใจแม้แต่ลูกชายของเขาเอง...โรดิออน คนหัวแข็งที่รับเลือดพ่อมากเกินกว่าจะเรียกว่าเข้มข้น ชายวัยกลางคนนึกถึงคำพูดของคนหัวรั้น
“หน้าที่สำหรับการรักษาคำมั่นสัญญาของผมกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว วลาดิมีร์”
เขาระบายลมหายใจอีกครั้งก่อนรำพึงออกมาเบา ๆ
“ไม่หรอก ร็อด...การแต่งงานของคุณไม่ได้หมายถึงจุดสิ้นสุด มันคือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่จะตามมาอย่างที่ตัวคุณเองก็คาดไม่ถึงเลยทีเดียว”
วันนี้หิมะไม่โปรยหนาอย่างเมื่อสองวันที่ผ่านมา ลดาจึงกลับไปยังจัตุรัสแดงอีกครั้งพร้อมคนนำเที่ยวคือโรดิออน แม้อากาศจะหนาวเหน็บเพียงใดหากก็ยังมีผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ชื่นชมความอลังการจากหน้าประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของรัสเซีย
“สีแดงไม่ได้หมายถึงเลือดหรอกนะครับ ลดา...แต่มันมีความหมายว่าโซเวียตมีแต่ความสุขและเจริญรุ่งเรือง กำแพงเคริมลินที่ใช้เป็นปราการป้องกันพระบรมหาราชวังก็เลยเป็นสีแดง”
โรดิออนบอกกล่าวอย่างชัดถ้อยขณะจูงมือหญิงสาวในชุดกระโปรงกันหนาวและรองเท้าบู๊ทเดินไปบนลานหินซึ่งเห็นแนวกำแพงอิฐหนาสีแดงสูงใหญ่และป้อมปราการทอดยาวล้อมโอบพระราชวังสีขาวน่าอัศจรรย์เป็นที่ยิ่ง ลดารู้สึกทั้งตื่นเต้นและสุขใจจนนอนไม่หลับแทบทั้งคืน เธอไม่เคยมีอาการเช่นนี้มาก่อนได้พบกับชายผู้เป็นคู่หมาย นี่เธอตกหลุมรักโรดิออนเข้าไปแล้วหรืออย่างไรเพราะยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาน่าหลงใหลมากขึ้นทุกที หญิงสาวยิ่งอบอุ่นเมื่อชายหนุ่มจับมือเธอแนบแน่นขณะพาเดินชื่นชมความหรูหราภายนอกของพระราชวังเครมลินซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมในรูปแบบยุโรปโบราณสีขาวตัดกับบางส่วนเป็นโดมทองอันเป็นมรดกตกทอดจากอาณาจักรไบแซนไทน์ นับได้ว่าคืออีกหนึ่งหัวใจของรัสเซีย
“ลดา...คุณเชื่อมั้ยว่า พวกเราที่เป็นรัสเซียในทุกวันนี้ ครั้งหนึ่งเคยอยู่ใต้การปกครองของชาวตาตาร์จากเอเชียมาแล้ว”
“พวกมองโกลน่ะหรือคะ? พื้นที่ส่วนหนึ่งของรัสเซียก็กินเนื้อที่เข้าไปในเอเชียด้วยนี่คะ ร็อด แล้วหลังจากนั้น...”
“เราก็ถูกปลดปล่อยโดยพระเจ้าอีวานที่สาม ถ้าตาตาร์ยังปกครองส่วนหนึ่ง มันก็ไม่แน่ว่าผมอาจมีเชื้อสายชาวเอเชียอย่างคุณ”
โรดิออนหยุดเดินและทำให้ลดาพลอยต้องหยุดตามไปด้วย เขาชอบทำให้ร่างอรชรใจเต้นระรัวด้วยประกายจากดวงตาฉ่ำหวานที่ฉาดฉายมายังเธอซึ่งก็มิอาจปกปิดความเก้อเขินจากพวงแก้มสีแดงเรื่อไว้ได้
“ไหนคุณบอกว่าจะพาลดาไปดูพิพิธภัณฑ์อาร์เมอรี่แชมเบอร์ไงคะ นี่เราก็เดินดูรอบมหาราชวังนานแล้วนะคะ”
“คุณรีบกลับหรือลดา? หรือว่ามีใครคอยอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์ของคุณ”
น้ำเสียงของชายหนุ่มเข้มขึ้นเล็กน้อยและลดา ก็รู้ว่า ใคร ในความหมายของเขาคงไม่ไช่ยูเลียน่าเป็นแน่
“ลดาอยากให้คุณพาไปชมของมีค่าที่พิพิธภัณฑ์ หลังจากนั้น...ลดาอยากเลี้ยงคุณเป็นการตอบแทนไงคะ”
“เลี้ยง?” โรดิออนขมวดคิ้วสีน้ำตาลเข้มเข้าหากันเพราะไม่นึกว่าหญิงสาวอยากตอบแทนกลับคืนด้วยการเลี้ยงเขา จากความกริ่งกลัวในส่วนลึกก็แปรเปลี่ยนเป็นความโล่งส่งผ่านออกมาทางรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาซึ่งจับหัวใจสาวไทยยิ่ง
“ทำไมล่ะคะ...ก็ลดาอยากเลี้ยงคุณนี่คะ ร็อด”
