บทที่ 3 3
พอได้ยินคำว่าตำรวจ หัวหน้าโจรก็เบิกตากว้าง แล้วสบถหยาบคายยาวเหยียด “มาถึงแล้วหรือวะ เร็วฉิบหาย” มันเพิ่งปล้นมรกตมาจากโรงแรมหรู แล้วเพิ่งรู้ว่ามันเป็นของท่านชีคฟาริส อัล มีดิส แต่จะทำยังไงได้ มันได้รับใบสั่งมาจากหัวหน้าใหญ่ให้เอามรกตชุดนั้นมาให้ได้
หัวหน้าโจรรีบผละจากร่างสวยแล้วฉุดกระชากให้มุกระวีลุกขึ้น
“ไปกับฉัน ฉันจะเอาเธอไปด้วย”
มุกระวีกรีดร้องลั่น ร่างบางถูกฉุดลงจากรถไปคลุกกับพื้นทรายร้อนๆ “ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ไป” บอกพร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุดจากการถูกกระชาก ร่างบางล้มลุกคลุกคลานไม่เป็นท่า แต่มันก็ไม่สนใจดึงให้ลุกขึ้นอย่างหยาบคาย
“รีบลุกเร็วเข้า”
มุกระวีได้ยินเสียงรถมาใหม่อีกคัน เธอแน่ใจว่าต้องเป็นรถตำรวจ จึงพยายามดิ้นรนให้หลุด แต่ก็ถูกโจรร้ายกระชากอย่างแรงให้ลุก
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เสียงชายฉกรรจ์ที่มาใหม่ตวาดพร้อมกับหันปลายกระบอกปืนมาทางกลุ่มโจร ซึ่งตรงนั้นมีมุกระวียืนอยู่ด้วย
“หนีเร็ว” เสียงหัวหน้าโจรสั่งแล้วพวกมันก็พากันแตกกระเจิงวิ่งหนีขึ้นรถ มันรู้อยู่แล้วว่าสู้ตำรวจไม่ได้ เรื่องอะไรจะอยู่ให้ถูกจับ ทว่าพอพวกมันหันหลังวิ่งหนี เสียงปืนก็ดังขึ้นพร้อมกันหลายนัด
ปัง ปัง ปัง
มุกระวียืนตัวสั่นด้วยความตกใจยกมือปิดหู รู้สึกตาพร่าลาย ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไปต่อหน้า เหมือนคอมพิวเตอร์ที่ถูกชักปลั๊กออกกะทันหัน
มุกระวีลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ไหนสักแห่งที่อากาศเย็นสบาย มีที่นอนหนานุ่มรองรับแผ่นหลัง เมื่อสายตาค่อยๆ ปรับโฟกัสก็พบว่ารอบๆ ห้องตกแต่งด้วยกระจกโมเสกหลากสี เครื่องเรือนตกแต่งหรูหราสไตล์อาหรับ มีผ้าม่านผืนหนาสีทองขลิบลายอย่างดีแขวนไว้ที่หน้าต่างบานใหญ่
สมองของมุกระวีค่อยๆ ทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่ร่างของใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงก็ทำให้มุกระวีต้องเบิกตากว้าง แม่เจ้า นั่นคนหรือเทพบุตร เพราะชายในชุดกันดูราสีขาว มีผ้าคลุมศีรษะเสริมให้ใบหน้าดูโดดเด่นออกมา ดวงตา คิ้ว คาง รับกันอย่างเหมาะเจาะ ใบหน้าแบบนี้เธอเคยเห็นในข่าวเฟซบุ๊ก พวกชีคอาหรับ
“ตื่นแล้วเหรอ ผมต้องการคุยกับคุณ” เสียงห้าวทุ้มบอกเป็นภาษาอังกฤษ
“คุยกับฉันเหรอ คุยอะไร” มุกระวียังจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่พอจะขยับตัวเองลุกขึ้นเพื่อนั่งคุยกับเขาก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่ดูแปลกๆ เป็นชุดยาวคลุมไปถึงข้อเท้า “นี่ชุดของใครกัน แล้วที่นี่ที่ไหน”
“ผมจะคุยกับคุณเรื่องนี้แหละ คุณเป็นพวกเดียวกับไอ้โจรทะเลทรายนั่นหรือเปล่า”
พอเจอคำถามแรกของคนหล่อก็เล่นเอาสไตลิสต์คนสวยไปไม่ถูก “คุณพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ ฉันเป็นนักท่องเที่ยว แต่ถูกคนขับของกรุ๊ปทัวร์ทิ้งไว้กลางทะเลทราย แล้วคุณเป็นใครกัน คนอื่นๆ ไปไหนกันหมด”
“ผมชื่อฟาริส เป็นคนสั่งให้ลูกน้องพาคุณมาที่นี่เพื่อสอบสวน”
“สอบสวนเรื่องอะไรกัน” คิ้วเรียวขมวดมุ่น “ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว พาฉันไปสถานีตำรวจที ฉันจะไปแจ้งความว่าถูกโจรปล้นกลางทะเลทราย จะฟ้องกรุ๊ปทัวร์ที่พามาทิ้งกลางทะเลทรายด้วย” มุกระวีทำท่าจะลุกเดินไปที่ประตู แต่ถูกรั้งไว้ด้วยคำสั่งเหี้ยม
“หยุดอยู่ตรงนั้น คุณจะไปไหนไม่ได้ ผมต้องการรู้ว่าคุณเกี่ยวข้องอะไรกับพวกโจรนั่นหรือเปล่า ทำไมมันถึงจะพาคุณหนีไปด้วย ทั้งที่ทิ้งคนอื่นๆ ไว้” ไม่เพียงแค่ถาม แต่ฟาริสยังเดินเข้าไปใกล้เชลยสาวแสนสวย
ตอนที่หล่อนนอนหมดสติอยู่กลางดงปืน เป็นเขาเองที่ไปอุ้มเธอมาขึ้นรถและสั่งให้สาวใช้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เขาเห็นชัดว่าภายใต้ชุดคลุมยาวนี้ซ่อนความงดงาม ยั่วยวนตาไว้แค่ไหน
“คุณพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ บอกแล้วไงว่าฉันเป็นนักท่องเที่ยวถูกทัวร์เอาไปทิ้งกลางทะเลทราย ทำไมคุณไม่ไปถามกรุ๊ปทัวร์ดูล่ะ ว่าฉันเป็นนักท่องเที่ยวจริงไหม”
“ผมทำแน่ แต่ว่าตอนนี้ยังไงก็ต้องกักตัวคุณไว้ก่อน จนกว่าผมจะแน่ใจว่าคุณไม่ใช่พวกเดียวกับโจร พวกมันขโมยชุดมรกตล้อมเพชรของผมไป แล้วมีคุณคนเดียวที่เห็นหน้าพวกมัน เพราะฉะนั้น คุณจะต้องอยู่กับผมเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่พวกเดียวกับโจร”
“บ้าไปแล้ว ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว ฉันจะกลับประเทศไทย” มุกระวีเหลืออด ทั้งกับคนหล่อและสถานการณ์บ้าๆ ตรงนี้ เธออยากคิดว่ามันเป็นแค่ฝัน แล้วให้ตัวเองตื่นจากความฝันนี้เสียที
ร่างบางปราดไปที่ประตู พอเปิดออกไปก็พบกับชายฉกรรจ์หน้าตาเหี้ยมโหดสามคนยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง เท้าน้อยๆ รีบผละถอยหลังอย่างตกใจ
“คุณหนีไปไหนไม่ได้หรอก ถ้าผมไม่อนุญาต ตอนนี้คุณต้องอยู่กับผมที่นี่ก่อน จนกว่าทุกอย่างจะชัดเจนว่าคุณไม่ใช่พวกเดียวกับมันผมถึงจะปล่อยไป”
มุกระวีหันกลับมาเม้มริมฝีปากแน่น “จะให้ฉันบอกกี่รอบว่าฉันไม่ใช่พวกเดียวกับโจร พวกมันจะข่มขืนฉันด้วยซ้ำ ฉันจะเป็นพวกเดียวกับมันได้ยังไง ฟังกันบ้างสิ”
“ผมไม่รู้เรื่องนั้นด้วย ผมเห็นแค่ว่ามันจะพาคุณไปด้วย แต่คุณเป็นลมหมดสติไปเสียก่อน เพราะฉะนั้นผมจะปล่อยคุณไปไม่ได้ ดีไม่ดีคุณอาจจะเป็นเมียของพวกมันคนใดคนหนึ่ง แล้วพวกมันก็ส่งคุณมาเป็นนางนกต่ออีกทีก็เป็นได้” เพราะเหตุการณ์แบบนี้ฟาริสเคยเจอมาแล้ว ตอนที่ท่านพ่อของเขารับสนมคนหนึ่งเข้ามา หล่อนเป็นคนของพวกชนกลุ่มน้อยที่อยากแยกตัวเป็นอิสระเลยส่งลูกสาวของหัวหน้ากลุ่มเข้ามาเพื่อหวังสังหารท่านพ่อของเขา แต่ดีที่เขาเข้าไปช่วยท่านพ่อไว้ทัน ท่านพ่อจึงรอดมาได้
