บทที่ 4 4
มุกระวีกำมือแน่น แม้จะชอบหน้าหล่อๆ ของคนตรงหน้า แต่เกลียดปากเสียของเขาที่สุด “ปากมอม ฉันไม่ใช่เมียโจรและไม่ใช่นางนกต่ออย่างที่คุณคิด ฉันเป็นสไตลิสต์มีงานทำที่เมืองไทย ไม่เชื่อไปสืบดูได้”
และบังเอิญว่าเขาฟังภาษาไทยเข้าใจในระดับดีมากจึงตอบกลับอย่างเผ็ดร้อนไม่แพ้กัน “รู้ไหมว่าไม่เคยมีใครด่าผมว่าปากมอมมาก่อน คุณกล้ามากนะ”
มุกระวีเชิดหน้าตอบ นาทีนี้เธอลืมความกลัวชายตรงหน้าไปหมดสิ้นเมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นเมียโจร “ฉันกล้ามากกว่านี้แน่ ถ้าหากคุณยังยัดเยียดข้อหาบ้าๆ ให้ฉัน ที่นี่มันดินแดนเถื่อนหรือยังไงกันนะ ถึงได้กักขังคนไว้ได้ อย่าให้หลุดไปได้นะ ฉันจะแจ้งความจับเข้าคุกให้หมด” มุกระวีขู่ฟ่อ จ้องหน้าคนหล่อเข้มอย่างไม่กลัวเกรง
แต่นั่นทำให้คนที่ไม่เคยถูกใครด่าโต้งๆ มาก่อน ยิ้มเหี้ยม แล้วใช้มือหนาบีบพวงแก้มนวลไว้จนมุกระวีต้องเบ้หน้า พยายามสะบัดให้หลุดมือแกร่ง
“ปล่อยนะ ฉันเจ็บ”
“อย่าดีแต่ปากนะ ต้องทำให้ได้ด้วย ผมจะรอดูว่าคุณจะออกไปแจ้งความ แล้วให้ตำรวจมาลากคอผมยังไง”
“คุณมันก็ดีแต่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า แน่จริงก็ปล่อยฉันออกไปสิ ฉันจะไปแจ้งความให้ตำรวจมาลากคอคุณเข้าคุกให้ดู” มุกระวีโกรธจนควันออกหู
ฟาริสแสยะยิ้ม นึกสนุกอยากแกล้งแม่สาวตัวเล็กคนนี้ขึ้นมา “จะลากคอผมเข้าคุก ถ้าอย่างนั้นผมต้องมีข้อหาให้คุณไปแจ้งความจับเสียก่อนแล้วล่ะ เอาข้อหาข่มขืนกระทำชำเราก่อนดีไหม จากนั้นค่อยฆ่าปิดปาก”
มุกระวีกรีดร้องลั่น ดิ้นรนให้หลุดจากมือแกร่งที่พันธนาการไว้ แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งกลายเป็นว่าถูกมือหนากระชากเข้าหาแผงอกกว้าง แล้วกอดรัดแน่น มุกระวีกระทืบเท้าเขา เพื่อหวังให้หลุดพ้น แต่เหมือนไปเทน้ำมันราดบนกองไฟ
“ฤทธิ์เยอะจริงนะ”
“ก็คุณจะรังแกฉันก่อนนี่ ไอ้คนบ้า ไอ้คนหื่นกาม”
“งั้นผมก็จะทำจริงๆ อย่างที่คุณต้องการ หื่นกาม” ไม่พูดเปล่าฟาริสหมั่นไส้จัด เขาไม่เคยถูกว่าหื่นกาม เพราะคนอย่างเขาไม่เคยอดอยากเรื่องบนเตียง
เขาตรึงร่างของหญิงสาวไว้แล้วประคองใบหน้าเล็กให้แหงนขึ้นรับจูบร้อนๆ ฟาริสบดจูบอย่างดุดัน ขบเม้มริมฝีปากอิ่มอย่างเอาแต่ใจ เขาต้องการสั่งสอนผู้หญิงปากดีคนนี้ให้สิ้นฤทธิ์ แต่กลายเป็นว่าจะสั่งสอนเพียงนิดเดียว ทำไมถึงไม่อยากหยุด เขาไม่เคยรังแกผู้หญิงแต่ตอนนี้นึกอยากรังแก ฟาริสรู้สึกว่าริมฝีปากอิ่มช่างหวานล้ำ เนื้อตัวนุ่มนิ่มทำให้กายแกร่งร้อนฉ่าจนเกิดความรู้สึกต้องการมากกว่านี้ขึ้นมา
บ้าฉิบ
ฟาริสผละจูบออกมาเพราะกลัวความต้องการของตัวเองที่จู่ๆ ก็พลุ่งพล่านขึ้นมา เขาสบถหยาบคายในลำคอ ขณะที่มุกระวียืนตัวสั่น แต่เพียงครู่เดียวก็ยกมือชี้หน้าด่า
“ไอ้คนเลว คุณรังแกผู้หญิง อย่าให้ฉันมีโอกาสหลุดไปได้นะ ฉันจะจับเข้าคุกให้หัวโตเลย” มุกระวีกระทืบเท้าบอกเสียงลอดไรฟัน ยังรู้สึกระบมที่ปากไม่หาย เพราะถูกจูบอย่างรุนแรง
ฟาริสหรี่ตามองขำๆ “งั้นคุณก็ควรรู้ชื่อนามสกุลของผมไว้ จะได้ไปแจ้งความได้ถูกต้อง”
“แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ”
“ผมชื่อชีคฟาริส อัล มีดิส ว่าที่กษัตริย์ของประเทศมีดิส” ฟาริสเน้นตรงชื่อตัวเอง พร้อมรอยยิ้มเยาะ เนื่องจากพระบิดาของเขาสวรรคตไปเมื่อสามเดือนก่อน เขาจึงรอให้เสร็จพิธีการแล้วจึงรับช่วงต่อ
“ฮ้า คุณพูดว่ายังไงนะ คุณเป็นใคร”
คนตัวโตกว่าเดินมาจับปากที่อ้าค้างของคนตัวเล็กให้เข้าที่ แล้วหัวเราะเบาๆ “ชีคฟาริส คือชื่อของผม อย่าลืมจำชื่อผมให้ดี แล้วเอาไปแจ้งความให้ถูก หรือจะให้ดี ผมจะเป็นคนพาไปเองดีกว่า คุณอาจจะไปไม่ถูกแล้วหลงทางเสียก่อน”
มุกระวีหน้าซีดเผือด ไม่อยากเชื่อว่าเธอกำลังมีปากเสียงกับว่าที่กษัตริย์ของประเทศนี้ “ไม่จริง คุณหลอกฉัน”
ฟาริสเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของเขามายื่นให้ “เปิดหาในกูเกิลสิ”
มุกระวีรับโทรศัพท์เครื่องหรูมาถือไว้ ราคาค่างวดของมันคงแพงลิบลิ่ว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะสิ่งที่เธอต้องการรู้คือคนตรงหน้าคือว่าที่กษัตริย์จริงหรือไม่ มือบางไม่รอช้า รีบทำตามที่อีกฝ่ายบอก กดยุกยิกอยู่ครู่หนึ่งทั้งภาพและข้อความก็ขึ้นมาให้เห็น
มุกระวีมองภาพที่ค้นหาจากในกูเกิลเทียบกับคนตรงหน้าแล้วต้องสูดลมหายใจเข้าลึกติดๆ กัน เขาเป็นคนเดียวกันจริงๆ ด้วย ชีคสุดหล่อ ที่มียอดติดตามอินสตาแกรมว่าล้านคน แต่ทำไมเธอถึงไม่เคยเห็นมาก่อน ตายแล้ว เธอไปอยู่หลุมไหนมาถึงไม่รู้จักเขา เมื่อกี้เธอด่าเขายับ เขาจะยัดข้อหาให้เธอหรือเปล่านะ
“เป็นไง ใช่คนเดียวกันไหมล่ะ”
มุกระวีไม่ตอบให้เสียหน้า แต่เลี่ยงไปถามอย่างอื่น “คุณต้องใช้เวลานานแค่ไหนที่จะหาข้อมูลได้ว่าฉันไม่ใช่พวกเดียวกับโจร ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฉันอยากกลับเมืองไทย” เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่พวกแอบอ้างเบื้องสูงแน่ ความคิดถัดมาก็คือต้องรีบเผ่นสิจ๊ะ
“ไม่เกินพรุ่งนี้เช้า ผมจะได้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคุณ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอถึงพรุ่งนี้ หวังว่าฉันจะเป็นอิสระและได้โบยบินกลับบ้านเสียที”
นั่นคือความคิดของมุกระวี แต่ไม่ใช่ของคนตัวโตที่ยืนยิ้มมุมปาก ถึงเขาได้ข้อมูลแล้วก็ยังไม่ให้เธอจากไปง่ายๆ ตอนนี้หรอก เขาอยากเก็บไว้ดูเล่นอีกสักพักจนกว่าจะเบื่อ
