บทที่ 11 บทที่ 5 เจออีกแล้ว (2)
“zZzZzZzZzZ” ไม่รู้ไม่ได้ยิน กำลังอินกับการเป็นลมให้สมจริงอยู่
“นี่เธอ” เหมือนเขาไม่ยอมลดละที่จะปลุกเธอให้ตื่น
“zZzZzZzZzZ” ไม่รู้ไม่ต้องสะกิด กำลังคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี
“อย่าให้ฉันเรียกเป็นครั้งที่สามนะ ฉันจะบอกเรื่องเมื่อวานว่าเราไปทำอะไรกันมา”
“zZzZzZzZzZ” แค่ขู่ๆ...จริงๆควรเลิกปลอบใจตัวเองได้แล้วนะ...แต่ที่เขาว่าไปทำอะไรกันมาเนี่ยเหมือนมีมากกว่าที่ทั้งสองจะจูบกันอีก
“คิดว่าฉันไม่กล้าหรอ ได้!”
“เดี๋ยวสิ” เธอเงยหน้าขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
“อยากให้ฉันจูบหรือไง จัดให้ได้นะ” หน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันเพียงไม่กี่เซนเท่านั้น หญิงสาวสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขาที่อยู่ใกล้มากๆ
“เอาหน้าไปไกลๆเลย” เธอดันหน้าเอเวลออกไป เขาที่เก๊กอยู่ถึงกับเซ
เห็นแล้วฮาชะมัด
เหมือนเขาจะหน้าเสียนิดหน่อยก่อนจะเดินมานั้งโต๊ะข้างเธอ...แต่เธอจะไม่ว่าเลยถ้าเขาไม่นั่งเบียดเธอขนาดนี้...
“ใครใช้ให้นายมานั่งกับฉันฮะ” เธอหันไปแหวเสียงสูงใส่เขาอย่างห้ามไม่ได้ เบียดขนาดนี้สิงเลยมั้ย
“ไม่มี ทำไม อยากนั่ง พอใจ”
ok ต่อไปจะไม่ถามอะไรนายแล้ว ขอบอกว่าเซ็ง เธอยู่หน้าอย่างเซ็งๆ
เธอเลิกสนใจเอเวลแล้วกับมาตั้งอกตั้งใจหลับต่อ...แต่ยังไม่ทันจะหลับก็มีเสียงดังรบกวนการนอนอีกครั้ง
“นั่งด้วยคนได้ไหม” เธอมองไปทางต้นเสียงอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นักก็พบกับชายหนุ่มหน้าตาสุดน่ารักที่ยิ้มมาให้เธอก่อนหน้านี้แล้ว ถ้าจำไม่ผิดเขาน่าจะเป็นคนที่แนะนำตัวหน้าห้องเมื่อครู่นี้ด้วย
“เอ่อ คุณ…” ชื่อไรหว่า...เพราะไม่ได้สนใจเลยจำไม่ได้น่ะสิ
“ฮ่าๆๆเขาไม่รู้จักแกว่ะไอ้บิ” ชายอีกคนที่ยืนข้างๆเขาเอ่ยขึ้น
คนไรชื่อบิ ชื่อแปลกๆ เธอได้แต่ถามตัวเองในใจ
“ชื่อเบบิโว้ย พูดชื่อฉันให้มันครบๆดิวะ ” อ๋อ เบบินี่เอง และความในใจเธอก็กระจ่าง
“เดี๋ยวดูนะ” ผู้ชายที่แซวเบบินั้นหันมาทางเธอ “สาวน้อยขอนั่งด้วยคนดิ” หน้าตาแสนกะล่อนของเขาถามเธอ...อดหมั่นไส้เล็กๆไม่ได้จริงๆ
“คุณเป็นใคร” เธอทำหน้านิ่งตอกกลับเขาไปเบาๆพอกระอักเลือดนิดๆหน่อยๆ
“ฮ่าๆๆหนักกว่าอีกไอ้จีโซ” เบบิเสริมหลังจากพอใจกับการตอกกลับของเธอ
“พอเลยพวกแก เห็นไหมว่ายัยนี่นั่งกับฉัน” เสียงผู้ชายที่นั่งข้างๆขัดขึ้นหลังจากที่เงียบฟังไปพักหนึ่ง
“ก็ได้วะ ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เอเวล” จีโซทำท่างอนๆเอเวลแล้วก็เดินไปนั่งกับเบบิ
“ฝากไว้อย่านานนักล่ะ” เอเวลพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“นี่นายกล้าดียังไง มาไล่เขาน่ะ นานๆทีจะมีผู้ชายเข้าหาฉันสักที” เธอหันไปคุยกับเขาที่ไล่ผู้ชายทั้งสองไป
“เรื่องของเธอ จบปะฮ่าๆๆๆๆ”
โรงพยาบาลบ้าไหมพี่ หัวเราะอยู่ได้บนความทุกคนอื่นเนี่ย คิดผิดใช่ไหมที่ให้หมอนี่มานั่งด้วย ตอนนี้เธอไม่พอในคนที่นั่งข้างๆเธอเอามากๆ
และแล้วเวลานี้ก็มาถึง หมดเวลาแล้ว เธอจะได้ไปกินข้าวและไปลั้นลาสักที เพราะวันนี้เหนื่อยมากต้องรบกับนายเอเวลซะครึ่งวันเลย
“เดี๋ยวคีย์เซีย เมื่อวานเธอหายไปไหนมา.....พี่ไม่เห็นเธอเลย” เทนเนอร์พี่แนนที่เป็นคนดูแลการดูงานของเธอเอ่ยถามก่อนที่เธอจะก้าวออกจากห้อง ทำให้เธอต้องก้าวกลับมาหาต้นเสียงอย่างห้ามไม่ได้
“อ๋อค่ะ เกิดเหตุสุดวิสัยนิดหน่อย” เธอพูดไปตามความจริงที่ไม่ค่อยจะจริงสักเท่าไหร่
“พี่ว่าจะให้เธอฝึกวอร์มน่ะ” นี่เธอหูฝาดใช่มั้ย?
“ฮะ....เอ่อฉันแค่มาดูงานเฉยๆนี่คะ....ไม่ต้องวอร์มก็ได้มั้งพี่แนน” เธอฉีกยิ้มหวานให้เทนเนอร์สาวแล้วภาวนาในใจ.....
ไม่นะๆๆๆพี่แนนอย่าทำร้ายฉัน
“พ่อของน้องสั่งพี่มาว่าให้น้องออกกำลังบ้างน่ะค่ะ........เข้าใจพี่ด้วยนะคะน้องคีย์เซียคนสวย” สาวตรงหน้าเธอรับแก้ตัว
เฮ้อ คุณพ่อของน้องนี่เอง น้องจะให้อภัยคุณพี่ก็ได้ค่ะเนื่องจากพี่ตาถึง คนสวยก็งี้ล่ะ
“เอ่อ..ค่ะ...ฉันเข้าใจ” เธอรับปากอย่างไม่เต็มใจนัก
“เดี๋ยวให้คุณเอเวลสอนให้ละกัน....พอดีพี่ติดธุระ” เทนเนอร์แนนพูด
เอะ....เอเวลรึ......ชื่อนี้มัน......
“เขาไม่อยากสอนฉันมั้งคะ” เธอรีบอ้างทันทีแต่ดูเหมือนจะไม่ทัน...
“เดี๋ยวผมสอนคีย์เซียให้เองครับ พี่แนนไม่ต้องห่วง” เอเวลที่ฟังอยู่นานก็เดินเข้ามาท่ามกลางความตกตะลึงของคีย์เซีย
อ๊าย อุตส่าห์หลีกเลี่ยงแล้วนะ ไอ้บ้ามาทำไม เธอมองค้อนเขาอย่างเอาเรื่อง
“ดีจ้ะ....พี่ฝากคีย์เซียด้วยนะคะคุณเอเวล..........ขอโทษที่รบกวน.....สวัสดีค่ะ” แนนไหว้เอเวล
พี่แนนไหว้ด้วยท่าทางอ่อนน้อมราวกับนายนี่เป็นคนว่าจ้างเธองั้นแหละ เธอแอบพาลในใจ
“ไม่เป็นไรครับ......สวัสดีครับ” เอเวลรับไหว้หล่อนกลับ แล้วเทนเนอร์แนนก็เดินจากไป
ไม่นะ! รู้ไหมกำลังทำลายอนาคตอันสวยงามของคนสวยๆอย่างฉันเลยนะ
“นายรับปากทำไม ฉันไม่อยากเรียนกับนาย เข้าใจไหม!!!” เธอหันไปเผชิญหน้ากับต้นเหตุที่ทำให้เธออดไปลั้นลา
“ชื่อคีย์เซียสินะ” เอเวลไม่สนใจที่หญิงสาวพูดแล้วหันไปบอกลาเพื่อนทั้งสองคนของเขา “ไว้เจอกัน”
พวกเขาโบกไม้โบกมือให้เอเวลและคีย์เซียก่อนจะหายตัวออกไปจากห้องพร้อมกันคนอื่นๆที่มาเรียนโยคะอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธออยู่กับผู้ชายบ้าๆคนนี้สองคน
หลังจากที่เธอถามไปได้ซักพักว่าเขารับปากกับพี่แนนทำไม...เขายังคงเงียบแล้วนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองต่อไป...
เมินกันแบบนี้ก็ได้หรอวะ
“กรุณาช่วยตอบคำถามของฉันที่ถามไปเป็นชาติด้วย” เธอกอดอกยืนมองเขาอย่างเอือมระอาที่เขามองเธอเป็นอากาศธาตุ
“เจอกับบ่ายโมงตรง ห้ามช้าล่ะ คีย์เซีย” แล้วชายหนุ่มก็เดินหนีไปเฉยๆเลย เธอถามก็ไม่ตอบ เสียมารยาทจริงๆเลย
“คิดจะแกล้งกันงั้นเรอะ ฝากไว้ก่อนเถอะ”
.
.
.
13:05 น.
“เธอมาช้า” เขามองนาฬิกาข้อมือตัวเองในขณะที่เธอกำลังวิ่งมาลูกตาแทบออกมารำไทเก๊ก
“แฮ่กๆ 5 นาทีเนี่ยนะ ฉันวิ่งจนหัวจะฟาดพื้นตายแล้วเนี่ย” เธอก้มแล้วใช้มือยันเข่าอย่างเหนื่อยอ่อน...
เหนื่อยเป็นบ้าเลย หายใจจะไม่ทันแล้ว
“ไปวิ่งรอบสนามใหญ่ 3 รอบ” เอเวลสั่งเสียงเรียบ
“หา!!!!!!” เขาไม่สนใจกับอาการเหนื่อยเจียนตายของเธอเลยสักนิด...ไหนคุณแม่แก้วมณีบอกว่า...
‘ยัยคีย์เซีย......นี่แค่ไปฝึกงานนะ มันจะเสียเหงื่ออะไรมากมาย บ่นเป็นคนใกล้วัยทองไปได้’
เหอะ! ไม่เสียเหงื่อเลยค่ะ...เพราะเหงื่อมันจะกลายเป็นเลือดแทนแล้วค่ะแม่
“เดี๋ยวนี้!” เสียงของเอเวลดังขึ้นทำให้เธอสะดุ้งตื่นจากความคิดก่อนจะสบถอย่างเสียอารมณ์..
“ให้ตายเถอะ!”
และหลังจากที่วิ่งขาดแทบลากแล้ว เขายังให้เธอ กระโดดตบ และอีกมากมาย ทรมานเธอชะมัด คิดจะแกล้งกันงั้นหรอ อย่าให้ถึงทีเธอบ้างเถอะ เธอจะโบยนายเหมือนเขาเป็นนางทาสแล้วเธอเป็นคุณหลวง ตีให้หลังแตกไปเลยแล้วราดด้วยน้ำเกลือ ใส่พริก ใส่น้ำส้มสายชู ใส่ขิง ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด ต้มยำซะเลย(โรคจิตชัดๆ)
“แอบด่าฉันอยู่ใช่ไหม” เอเวลเดินมาอยู่ข้างหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ ทำเอาเธอที่คิดอะไรเพลินๆสะดุดโหยง
“ป่าวซะหน่อย” ฉันรีบแก้ตัวทันควัน
แหม รู้ทันอีกแล้วนะ
“กระโดดเชือกต่อไป อย่าหยุด”
“$##^&^%)((&^%#$^$”
“บ่นอะไร”
“ป่าววววววววววววว” ไม่ได้บ่นแต่เธอแอบด่าเขาในใจสารพัด
ฮ่าๆๆๆ สะใจ(ด่าในใจเนี่ยนะ)
.
.
...และแล้วเวลาก็ผ่านมาจนเย็น...
“ไปอาบน้ำแล้วกลับได้” และคำนี้ที่รอฟังมานานก็มาถึง จะได้กลับสักที ตอนนี้เธอรู้สึกเพลียเหลือเกิน
“ค่ะ...คุณเทนเนอร์” เธอพูดแกมประชด
จะได้กลับห้องแล้วโว้ยยย อย่าให้ถึงตาฉันบ้างเถอะนายเอเวล จะเอาคืนให้สาสมเลย คอยดู!
