บทที่ 13 บทที่ 6 ว่าที่ท่านประธาน (2)

“ยิ่งเธอพูดอย่างนี้ฉันยิ่งรู้สึกผิด” เขาหันมาคุยกับเธออย่างจริงจัง

“ก็ฉันไม่ได้ติดใจอะไรจริงๆนี่ จะให้ฉันต่อว่านายงั้นเหรอ”

“ใช่! ต่อว่าฉันเลยสิ”

บ้าไปแล้ว อยู่ๆก็อยากให้ด่า ป่วยเปล่าเนี่ย

“จะให้ว่าอะไรนายล่ะก็ฉันไม่ได้โกรธอะไรนายซะหน่อย แล้วนายก็สำนึกผิดแล้วด้วย” เธอบอก

“จริงๆนะ” เอเวลยิ้มน้อยๆออกมาซึ่งเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นรอยยิ้มที่ดูจริงใจนี้ของเขา

“ก็เออสิ” เธอตอบเขาอีกครั้งเมื่อเขาถามเพื่อความมั่นใจ

“ฉันกลัวว่าเธอจะโกรธที่ฉันแกล้งเธอแรงไป” เขาพูดเสียงแทบกระซิบ...รอยยิ้มนั้นหุบลงเหลือเพียงหน้านิ่งๆของเขา

“ทำไมคิดแบบนั้น” เธอถามเขาอย่างสงสัย

“เพราะตั้งแต่เย็นแล้วที่เธอไม่ค่อยคุยกับฉัน...จะไปส่งก็ไม่ให้ไปถ้าฉันไม่บังคับเธอคงไม่มาหรอก” นี่ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้ซึ่งมันสร้างความแปลกใจให้เธอมากๆ

“นายแคร์ด้วยเหรอ” เธอถามไปงั้นๆแหละเผื่อจะเจอแจ็คพล็อต แต่ในใจก็แอบดีใจนะที่มีคนแคร์เธอแบบนี้

“เปล่าซะหน่อย ฉันก็แค่กลัวว่าตัวเองจะเป็นสาเหตุทำให้เธอไม่สบาย” เอเวลพูดเสียงเรียบเหมือนไม่มีอะไรทั้งนั้นก่อนจะเคลื่อนรถออกจากตรงนี้ไป

“จริงเหรอ” เธอทำหน้าไม่เชื่อพลางลากเสียงยาวอย่างกวนๆ

“เออน่า จะกลับมั้ยพูดมากจริง” เอเวลพูดติดเสียงหงุดหงิด

“กลับสิ พอรู้ว่าฉันไม่โกรธก็ว่ากันใหญ่เลยนะ โกรธตอนนี้ทันไหม” เธอทำเสียงติดไม่พอใจหน่อยๆ

“เสียใจ...ฉันรู้ทันเธอหมดแล้ว” เขาหันมายิ้มก่อนจะหันกลับไป “และฉันยังไม่ได้เอาคืนเธอด้วย”

“เอาคืนเรื่องอะไร?” เธอมองเขาอย่างต้องการคำตอบ...งงจริงๆนะเนี่ย

“ก็เรื่องที่เธอทำหัวฉันแตกนี่ไง ฉันยังโกรธเธออยู่” เขาบอกพลางชี้แผลที่มีพาสเตอร์ปิดไว้

เขายังจำได้เหรอเนี่ย นึกว่าลืมไปแล้วซะอีก เธอนึกอย่างคาดไม่ถึงว่าเขายังจำได้อีกหรือ

“ก็เจ๊าๆกันไปสิ กับเรื่องที่นายแกล้งฉันวันนี้” เธอยื่นหมูยื่นแมว

“ไม่ แค้นนี้มีชำระ” เอเวลหันมายิ้มให้เธอที่ยังทำหน้าเหมือนหมางงอยู่

.

.

.

และแล้วเอเวลก็มาส่งเธอถึงอพาร์ทเม้นท์โดยสวัสดิภาพปลอดภัยครบ 32 ประการ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

คีย์เซียเปิดประตูแล้วค่อยๆลงจากรถอย่างช้าๆ ที่ลงช้าเพราะปวดขาน่ะสิ ทั้งวิ่ง ทั้งกระโดด...และยังไม่ทันที่ปลายเล็บหัวแม่เท้าจะถึงพื้นนายเอเวลก็มาช้อนตัวเธอซะก่อน

“ทำอะไรของนายอีกเนี่ย จะมาอุ้มฉันทำไมก็บอกว่าไม่เป็นอะไรแล้วไงนายนี่น่าโมโหจริงๆเลย” เธอบ่นยาว

“เงียบน่า ยังจะมาทำปากแข็งอีก” นี่ยังมีหน้ามาว่าเธอปากแข็งอีก เธอไม่ได้ให้เขามาอุ้มเธอนี่

มาอุ้มคนอื่นแล้วยังจะมาว่าเขาอีก หน้าไม่อายจริงๆ

แล้วเขาก็เดินดุ่มๆเข้าไปในลิฟท์ของอพาร์ทเม้นท์

“ห้องเธออยู่ชั้นอะไรยัยเอ๋อ”

“ชั้น 8 ห้อง 8029 เอ๊ะเมื่อกี้นายว่าใครเอ๋อ นายเอเลี่ยน”

“ก็ว่าเธอไง ยัยเอ๋อ”

“นายสิเอ๋อ นายเอเลี่ยน”

“ว่าฉันเหรอ ยัยตัวหนัก ยัยหมูเทอร์โบ” เธอค้อนใส่

ว่าฉันเอ๋อไม่โกรธเท่าที่นายเรียกฉันว่าหมูเทอร์โบ...หมูงั้นเหรอ...เจ็บ...

“นี่นาย ว่าฉันอ้วนเหรอฮะ” เธอถามด้วยความข้องใจ

“………….”

เป็นคำถามซึ่งไร้คำตอบ รู้นะว่าเขาคิดอะไร

‘………….(กรุณาเติมคำในช่องว่าง)’ เขาต้องคิดอย่างนั้นอยู่แน่เลย

เธอเบ้ปากอย่างไม่พอใจใส่เขาที่ไม่ยอมตอบ เมื่อเขาเห็นดังนั้นเลยตอบกลับมา...เป็นคำตอบที่อ้อมโลกแบบสุดๆ

“คิดเอาเอง” นั่นไง ว่าแล้ว ชัวร์ป้าบ โป๊ะเช๊ะ เขาว่าเธออ้วน

“หนักนักก็วางลงเลย จะอุ้มอยู่ทำไม” เธอทำหน้านิ่งใส่เขา โคตรจะเคืองเลยรู้ไหม

“คิดเองเออเอง ยัยเอ๋อ”

ตกลงยังไง อ้วนไม่อ้วน ว่ามาดิ ตอบอ้อมโลกอยู่ได้

“เหอะ!” เธอทำหน้ายุ่งใส่เขาแล้วเบือนหน้าหนี

“เอ้า ไม่ต้องแกล้งเมียแล้ว เมียงอนหมดแล้ว คู่นี้นี่น่ารักกันจริงๆ ”

ทั้งสองคนทะเลาะกันจนลืมไปว่านี่มันคือลิฟต์!!!ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในนี้กันแค่สองคนน่ะสิ ยังมีป้าที่เป็นพนักงานของที่นี่อยู่ในนี้ด้วย

WHATTTT!!!!! เมียงั้นเหรอ ป้ามั่วแล้ว

“คือเราไม่ใช่สามีภรรยากันนะคะ” เธอรีบแก้ตัว

“เมียผมมักงอนผมอย่างนี้แหละป้า” แต่ยังไม่ทันที่ป้าจะพูดต่อเอเวลก็พูดแทรกขึ้นมา ถ้าเธอเป็นป้าเธอคิดว่านายเป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่แย่งผู้ใหญ่พูดก่อน

“โอ๊ยข้าวใหม่ปลามันก็อย่างนี้แหละพ่อหนุ่ม งอนกันก็ต้องง้อกันเป็นเรื่องธรรมดา” ป้าพูดอย่างยิ้มๆมาให้ทั้งสอง

“สงสัยคืนนี้ผมคงต้องจัดชุดใหญ่ให้ซะหน่อยแล้ว จริงไหมจ๊ะที่รัก” เอเวลยิ้มอย่างได้ใจเมื่อเห็นเธอหน้าเสียอยู่ไม่น้อย...

จัดชุดใหญ่อะไร...ไม่ต้องจัด นี่ไม่ใช่วันสำคัญ สิ้นเปลืองพลังงานย่ะ รู้มั้ยเค้ารณรงค์กันอยู่ เธอพยายามหาข้อแย้งในใจ

“ฮ่าๆๆๆ” ได้ยินดังนั้นป้าก็หัวเราะร่วน “อย่าหนักนักล่ะพ่อหนุ่ม” และแล้วป้าก็เดินจากไปทิ้งให้เธออยู่ในลิฟต์กับตาบ้านี่กันสองคน

“ไปพูดกับป้าอย่างนั้นได้ยังไงในเมื่อไม่ใช่ความจริง”

“พูดอะไร” พูดเสร็จนายเอเวลก็เดินออกจากลิฟต์แล้วเดินไปยังห้องของเธอทั้งที่เขายังอุ้มเธออยู่

“ยังมาทำเป็นไม่รู้เรื่องอีก ก็ที่ว่าฉันเป็นเมียนาย”

“มาทำให้เป็นเรื่องจริงไหมล่ะ” เอเวลมองเธอด้วยสายตาแบบนี้อีกแล้วนะ...

สายตาแสนเจ้าเล่ห์และร้ายกาจที่สุด...

แต่ทำไมเธอต้องเขินด้วยเนี่ย เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

“พูดบ้าๆ” เธอรีบเสมองไปทางอื่นกลัวเขาจะรู้ว่าเธอกำลังจะละลาย ไม่สิ ระเหยเลยดีกว่าให้มันลอยไปกับสายลม

เมื่อถึงหน้าห้องนายเอเวลก็วางเธอลงกับพื้นเพื่อที่จะให้เธอยืน

“ฉันส่งแค่นี้นะ นี่กระเป๋าเธอ” เขาพูดแล้วยื่นกระเป๋าให้

“อืม ขอบคุณนะ” เธอโบกมือลาเขาแล้วเปิดประตูห้อง เธอที่กำลังก้าวขาเข้าไปในห้องก็.....

“ทำไมไม่เดินให้มันระวังหน่อย” เขามาช่วยพอดีที่เห็นเธอกำลังจะล้ม

“ก็ขาฉันไม่มีแรงแล้วนี่” เธอบอกตามจริง

“มาฉันช่วย” ดีนะที่เอเวลเข้ามาช่วยพยุงไว้ทัน ไม่งั้นเธอต้องก้นระบมเป็นแน่

เอเวลหันไปปิดประตู แล้วพยุงเธอเดินไปนั่งที่โซฟาในห้อง

“เธออยู่ที่นี่คนเดียวหรอ” เขาพูดพลางมองรอบๆห้องแล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างเธอ หน้าเขาเหมือนคิดอะไรตลอดเวลาตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องแล้ว สงสัยเธอคงคิดมากไป

“ก็ไม่เชิง พอดีเพื่อนฉันที่อยู่ด้วยกันเพิ่งไปต่างประเทศน่ะ เดี๋ยวไม่กี่เดือนก็กับมาแล้ว”

เอเวลพยักหน้าอย่างรับรู้ก่อนจะขอตัวกลับ “กลับก่อนนะ”

“อืม บาย” แล้วเขาก็เดินออกไป

เฮ้อเหนื่อยจัง เหนียวตัวด้วยไปอาบน้ำดีกว่า

ซ่า………….

สบายจังเลย ไม่เคยอาบน้ำแล้วรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน

โครม!!!!!!!!!!!!

เสียงอะไร?

บทก่อนหน้า
บทถัดไป