บทที่ 2 บทที่ 2 ทะลุเลือด (1)

“พี่พร้อมจะไปรึยัง งานจะเริ่มแล้วนะ” ไรอันเปิดประตูแล้วชะโงกหน้ามาพูดกับฉันที่มองเขาผ่านกระจกตรงโต๊ะเครื่องแป้ง

หลังจากกลับมาไทยได้สักพักหนึ่ง ไรอันลูกพี่ลูกน้องที่คีย์เซียแสนจะสนิทชิดเชื้อมากที่สุดก็พาเธอไป (หนี) เที่ยวโน่นเที่ยวนี่ให้สบายใจและลืมราวในอดีตที่เจ็บปวดรวดร้าว แต่ก็ช่วยให้หายเศร้าได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้น เธอคิดว่ามันคงง่ายกว่าถ้าตัวเธอเองไม่กลับมาอย่างที่ไรอันบอก เอาน่าถึงยังไงสักวันก็ต้องกลับมาอยู่ดี เจ็บตอนนี้หรือเจ็บตอนไหนก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก ก็บอกกับตัวเองแล้วนี่ว่าจะเริ่มต้นใหม่ เอาวะ! ของอย่างนี้ต้องให้เวลาอีกสักหน่อย!

“พร้อมแล้ว” เธอหันไปตามเสียงไรอันลูกพี่ลูกน้อง “เฮ้ย! แต่งตัวอะไรเนี่ย” แต่ภาพที่เห็นทำให้หัวใจหญิงสาวเกือบวาย

ไรอันเดินออกมาจากห้องแต่งตัวซึ่งนั่นทำให้คีย์เซียเห็นลักษณะกายแต่งกายของน้องชายนอกไส้ได้อย่างชัดระดับHD

“ทำไมอ่ะ ผมแค่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเฉยๆ ไม่หล่อเหรอ ไม่ดีตรงไหนบอกผมสิ” ไรอันทำหน้าเหลอหลาไม่รู้เรื่อง ทั้งๆ ที่พอดูก็รู้ว่านั่นคือหน้าเสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น!

“บอกเลยแต่งตัวได้ฮามาก” เธอลากเสียงยาวแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ไรอัน “ไม่เข้ากันเลย มองแล้วให้ความรู้สึกขนลุกอ่ะจะไปให้เป็นจุดเด่นรึไง ดูชุดสิ แดงแปร๊ดแสบทรวงตัดกับหมวกสีเหลืองๆ เขียวๆ อะไรนี่อีก ใส่ไปได้ยังไงกันไรอันฮ่าๆ ๆ ๆ เลิกเล่นแล้วไปแต่งตัวดีๆ เลย” ปากว่ามือก็ชี้ไปตามสิ่งที่บรรยายอยู่ด้วย

“ผมว่าผมแต่งดีแล้วนะ ไม่หล่อเหรอฮะ” ไรอันโพสท่าสุดหล่อแล้วก็พูดไปด้วย แหนะ...ยังจะเล่นอีก

“โอ๊ยๆ ๆ พี่ว่าไปแต่งดีๆ เถอะ พี่ขอล่ะ” เธอพูดพลางพนมมือไหว้เหนือหัว

“ก็ได้ๆ ผมว่าผมหล่อและดูดีมากเลยนะฮะ”

“ยังจะเล่นอีก ไปเร็วๆ เลย เดี๋ยวไม่ทัน”

.

.

.

“นี่ไรอัน แกจะแต่งตัวไปประกวดนางงามรึไง ให้มันเร็วๆ หน่อย” หลังจากที่ได้ยินเสียงเรียก ไรอันก็เดินออกมาพร้อมกับชุดสูทสุดหล่ออย่างกับลูกไฮโซไปงานเลี้ยงการกุศล

“เสร็จแล้วครับคุณพี่ ผมหล่อใช่ไหมล่ะ ผมนี่โปรแค่ไหน บอกเลย” พูดเสร็จก็เอามือมาเกาคางเก๊กหล่อทำขรึมอีกเช่นเคยตามประสาผู้ชายเล่นขี้และขี้เล่น

“ย่ะ..จะไปกันหรือยัง” คีย์เซียหยิบกระเป๋าเป้เตรียมพร้อมลุยอย่างเต็มที่

“เอ่อ….พี่จะไปชุดนี่แน่นะ” ไรอันมองผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นญาติตั้งแต่หัวจรดปลายเล็บเท้าขบด้วยสายตาที่ดูอึ้งๆ ปนเหยียดหยามบวกกับหน้าที่ดูกลั้นขำสุดๆ กับสไตล์การแต่งตัวของเธอ

“ทำไมอ่ะ…..ตลกเหรอ” เธอมองสำรวจตัวเองว่าเธอแต่งตัวไม่ดีรึไง นี่เธอก็ใส่ชุดปกตินะ กางเกงขาสั้น แล้วก็เสื้อเชิ้ตแขนยาว ก็ดูดีอยู่

“ไม่ตลกหรอก แต่พี่นี่มันงานเลี้ยงไฮโซ พี่จะแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้” ไรอันขยายความให้กระจ่างขึ้นเพื่อสมองอันน้อยนิดที่คิดไม่ค่อยได้ของเธอได้ประมวลเพิ่มรอยหยักว่ามันสมควรไหมที่จะแต่งชุดนี้ไปงาน

“แล้วจะให้แต่งแบบไหนล่ะ ก็แต่งได้แต่แบบนี้” คีย์เซียทำหน้าเง้างอด้วยความไม่พอใจนิดหน่อยกับสมองที่ประมวลช้าเกินไปจนถูกคนอายุน้อยกว่าตำหนิ

“มานี่เลยเดี๋ยวผมจัดให้” ไรอันลากคีย์เซียมานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง และแปลงโฉมให้เธอยกใหญ่

.

.

.

ประตูรถถูกเปิดออกโดยคนขับรถ หญิงสาวค่อยๆ ลงจากรถลีมูซีนคันหรูที่คุณหญิงเจ้าของงานส่งคนให้ไปรับ ไรอันที่ยืนรออยู่ก็ยื่นมือเพื่อให้เธอควงแขนแล้วเดินไปตามพรมแดง แสงแฟลชระยิบระยับจนน่าเวียนหัว เหมือนเป็นคนดังที่ถูกรายล้อมไปด้วยช่างภาพ คีย์เซียรู้สึกประหม่าเล็กๆ กับชุดที่ไรอันเลือกให้ซะจริงๆ เป็นชุดเดรสสีขาวที่มีการตกแต่งอย่างสวยงาม ชายกระโปรงนี่ยาวเกือบจะลากพื้น รองเท้าส้นสูงนี่อีกจะสะดุดกับชายกระโปรงหัวทิ่มตายแล้ว และยิ่งใบหน้ากับทรงผมอีก ผมนั้นถูกรวบเก็บแล้วปล่อยหางม้าลงมา หน้าที่แต่งโดยไรอัน เธอมักไม่แน่ใจแล้วว่าไรอันนั้นแมนเต็มร้อย เพราะเขาแต่งหน้าใช้ได้เลย สวยเลยก็ว่าได้ ก็เธอแต่งหน้าไม่ค่อยจะเป็นไง แต่งหน้าแต่ละทีนึกว่าจะไปแสดงละครแข่งกับลิงที่ศาลเจ้า

และตอนนี้คีย์เซียกับไรอันก็อยู่หน้างานเป็นที่เรียบร้อย ข้างในมีผู้คนเยอะแยะไปหมด

“พี่รอตรงนี้นะ เดี๋ยวผมมา”

“เดี๋ยว…” ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ไรอันก็เดินหายไปในฝูงชน คนเยอะขนาดนี้แล้วยังจะทิ้งเธอไว้คนเดียวอีก จะหากันเจอได้ยังไง

สุดท้ายคีย์เซ๊ยก็ได้แต่เง้างอต่อว่าไรอันในใจก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะเล็กๆ ที่อยู่หน้างานแล้วอ่านหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะไปพลางๆ เธอไม่ได้ชอบอ่านหรอกนะแต่ไม่รู้จะทำอะไรแล้วจริงๆ ก็ดันลืมเอาโทรศัพท์มาน่ะสิเพราะว่ามันอยู่ในกระเป๋าเป้แถมไรอันไม่ให้เอาเป้ลูกนั้นมาอีกเลยลืมทุกสิ่งอย่าง

จนเวลาผ่านไปสักพักซึ่งมันก็นานพอที่จะทำให้เธอที่เป็นคนไม่ชอบรออะไรนานๆ หงุดหงิดไม่น้อย ทำไมไรอันยังไม่ออกมาอีก จะให้เธอรอไปถึงเมื่อไหร่กัน อีกอย่างตอนนี้เธอก็เริ่มง่วงแล้วด้วย

หญิงสาวคิดไปคิดมาก็มองนาฬิกาข้อมือไป เข็มนาฬิกาชี้บอกว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว

เธอที่นั่งที่เดิมเพิ่มเติมคือใบหน้าที่ไม่ต้อนรับแขกแบบสุดๆ เพราะว่าทั้งหิวและง่วงมากๆ ในคราเดียวกัน ระหว่างที่ปิดปากหาวอยู่นั้นสายตาก็ดันเหลือบไปเห็นเหตุการณ์ๆ หนึ่งเกิดขึ้นตรงหน้าพอดิบพอดี

มีผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ๆ ก็เดินมากอดผู้หญิงต่อหน้าต่อตาเธอ ผู้หญิงคนนี้หน้าตาดีบวกกับลักษณะการแต่งกายน่าจะเป็นพวกลูกคุณหนูมั้งนะ ว่าแต่เขาคงรักกันมากดูสิมาหวานกันตรงนี้ทำไม แหม ไปกอดกันตรงอื่นได้ไหม ยิ่งร้างคู่มานานอยู่เดี๋ยวจับทุ่มทั้งคู่ซะนี่ เธอแขวะในใจ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป