บทที่ 4 บทที่ 3 เดิมพันกับนก (1)

ข่าวที่คีย์เซียขาพลิกถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วราวกับเชื้อไวรัส ในที่สุดข่าวนี้ก็ถึงหูแม่ของเธอจนได้ แม่ห้ามไม่ให้เธอไปทำอะไรที่เป็นอันตรายแบบนี้อีก ด้วยเหตุผลที่ว่า...

‘ถึงยังไงแกก็เป็นผู้หญิงจะมาทำตัวห่ามๆ แบบนี้ไม่ได้’

เธอก็เลยต้องตามใจแม่โดยการทำตัวให้ห่ามน้อยลงเพราะกลัวแม่ไปบอกวีรกรรมที่เธอก่อกับพ่อนั่นเอง ใครจะรู้ล่ะว่าพ่อของเธอน่ากลัวแค่ไหน เวลาโมโหแต่ละที โหย! ความมืดมิดภายในนี่ออกมาหมด แต่ไม่ได้ออกมาทางกายนะ ออกมาทางสายตาและคำพูด ประโยคที่หลุดออกมาจากปากแต่ละประโยคชั่งกินใจเจ็บจี๊ดถึงขีดสุด แม้จริงๆ แล้วไม่ได้มีคำหยาบคายแต่อย่างใดเป็นแค่ประโยคธรรมด๊าธรรมดา ที่เล่าสรรพคุณได้ก็เพราะว่าเหตุเกิดขึ้นหลังจากที่เธอกลับมาไทยวันแรกนั่นแหละ

“กลับมาได้สักทีนะ...รู้มั้ยว่าจะเจอกับอะไรที่โกหกฉัน” คำรณ ผู้มีอิทธิพลที่สุดในบ้านเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นลูกสาวสุดที่รักที่หายหน้าหายตาไปนับปีกลับบ้าน สรรพนามจากคำว่าพ่อเปลี่ยนไปทันทีด้วยความโมโห น้อยใจ โกรธ แต่ถึงอย่างนั้นลึกๆ ก็เป็นห่วงลูกสาวเสมอ

“ทราบค่ะ...” คีย์เซียพูดเสียงเรียบอย่างรู้สำนึกว่าตนนั้นทำผิดหลายอย่าง...ไม่แปลกเลยที่จะผู้เป็นพ่อจะโกรธเคืองแบบนี้

“บอกฉันกับแม่แกว่าจะไปสองเดือนแต่เล่นหายหัวไปเป็นปี ยังเห็นหัวกันบ้างมั้ย ยังเห็นว่าฉันเป็นพ่ออยู่มั้ย หรือว่าปีกกล้าขาแข็งแล้วจะทำอะไรก็ได้...”

หญิงสาวได้เพียงก้มหน้างุด ความรู้สึกผิดเข้าแล่นมาที่หัวใจ นี่เธอทำอะไรลงไป พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วงแค่ไหน ทำไมโง่เง่าแบบนี้นะ ทำไมเธอถึงให้คนอื่นมามีอิทธิพลต่อจิตใจของเธอมากกว่าพ่อแม่ของเธอกัน หญิงสาวค่อยๆปล่อยน้ำตาไหลลงพื้นอย่างง่ายดายโดยอยู่เงียบๆ ต่อไป

“เงียบทำไม ตอบมาสิ.....ฉันบอกให้ตอบไง!”

ไร้การตอบโต้จากหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นลูก นั่นคงทำให้คำรณโกรธและโมโหจนฟิวส์ขาดก่อนจะลืมตัวตะคอกใส่เธออย่างไม่ตั้งใจ

“คุณคะ! ใจเย็นก่อนฟังลูกมันอธิบายก่อนสิอย่าเพิ่งใช้อารมณ์”

แก้วมณี แม่ของหญิงสาวและภรรยาสุดที่รักของคำรณที่อยู่ในเหตุการณ์คงทนฟังไม่ได้เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่สามีของเธอมีอาการแบบนี้ แก้วมณีรู้ว่าลูกสาวของตนนั้นทำผิดแต่ก็ไม่อยากให้ใช้อารมณ์แก้ปัญหาเพราะมันจะทำให้ทุกอย่างแย่ไปกว่าเดิม แต่ก็นะแม่ลูกสาวตัวดีที่สามีเธอทั้งรักและดูแลอย่างไม่เคยห่างมาตลอด...รักและดูแลแม้ยังไม่เห็นหน้า...รักก่อนที่คีย์เซียจะลืมตาดูโลกเสียอีก จะไม่ให้ห่วงได้อย่างไร

“พะ..พ่อคะ...คือหนูขอโทษ...หนูจะไม่ทำตัวแบบนี้อีก” หญิงสาวเงยหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาขึ้น แววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดมองไปที่ผู้เป็นพ่อ

“ไม่คิดจะบอกเหตุผลสักหน่อยหรือ ว่าทำไมหนีไปเกือบปี” เหมือนคำรณจะใจเย็นลงก่อนที่จะถามหาสาเหตุที่ลูกสาวหายหน้าไปไม่ยอมกลับบ้าน

“...คือ...” คีย์เซียได้แต่หลบหน้าจนทำให้เป็นที่ผิดสังเกตต่อสายตาคนทั้งสอง

“ผู้ชายคนนั้นสินะ...” จะมีสิ่งใดอีกที่ทำให้ลูกสาวคนนี้สติแตกได้ขนาดนี้ถ้าไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นที่ทิ้งคีย์เซียไป

“ถือว่าฉันจะยอมตามใจแกสักครั้งละกัน ครั้งนี้ฉันจะปล่อยไป ถ้าแกทำตัวมีปัญหาแบบนี้อีก...แกเตรียมตัวเป็นนกในกรงทองได้เลย...ไม่เชื่อก็ลองดู...”

“พ่อ...” เธอหันหน้ามาสบตาผู้เป็นพ่ออีกครั้งอย่างอ้อนวอน

“ถือว่าฉันเตือนแล้ว...ถ้าแกเลือกชีวิตตัวเองไม่ได้...ฉันนี่แหละจะเลือกให้แกเอง”

คำรณหันไปทางภรรยาที่ทำท่าเหมือนจะแย้งขึ้นมาก็ต้องเงียบลง “แล้วคุณไม่ต้องห้ามผม...ผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่” ชายผู้เริ่มมีอายุหันกลับมาทางเธออีกครั้ง “ฉันหวังว่าแกจะคิดได้...แล้วก็เลือกทางเดินชีวิตให้ดีล่ะ...อิสรภาพเดิมพันอยู่”

ขนลุกใช่ไหมล่ะ บอกเลยว่า ใช่! ชีวิตกับอิสรภาพเป็นอะไรที่เธอต้องรักษาให้ได้สินะ แม้ว่าเดิมพันนี้เธอจะไม่ได้เป็นคนคิดแต่เธอดันเป็นตัวชนวนที่ทำให้พ่อของเธอคิดอะไรบ้าๆ แบบนี้กับฉันได้

นกในกรงทองเนี่ยนะ! ทางเดินชีวิต! อิสรภาพ!

ตายๆ ๆ งานนี้มีแต่ตายกับตายไร้ซึ่งการนองเลือดของคนอื่นแต่มีเธอคนนี้ที่จะกระอักเลือดตาย

ได้ฤกษ์งามยามดีหญิงสาวก็นัดไรอันมาที่บ้านเพื่อเจรจาการหนีเที่ยวไว้เป็นโมฆะไปก่อน เดี๋ยวโดนจับได้ตัวเธอเองจะแย่เอา

ก็ฉันไม่อยากเป็นนกในกรงทอง ฉันไม่ชอบนกเลย ชิ!

ตอนนี้เธอนั่งรอไรอันอยู่ที่โต๊ะนั่งเล่นในสวนเล็กๆ หลังบ้านเพื่อที่จะคุยกับไรอันได้ตามลำพังโดยไม่ต้องกลัวคนมาแอบฟัง

“พี่ เรียกผมมามีอะไรเปล่า” ไรอันเดินมาเงียบๆ เพื่อไม่ให้คนในบ้านรู้ว่าเรามาคุยกันตรงนี้หลังจากที่เธอโทรบอกว่าเรื่องที่นัดคุยเป็นความลับ

“มีใครแอบตามมารึเปล่า” เธอชะโงกมองซ้ายทีขวาที จนไรอันต้องมองตามกับอาการตื่นๆ จนผิดปกติของพี่สาว

“อะไรของพี่เนี่ย กลัวคนรู้ขนาดนั้นเชียว ความลับอะไรกันนักกันหนา”

“นั่งก่อนสิ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” เธอบอกไรอันที่ยืนอยู่ ไรอันทำตามที่เธอบอกอย่างว่าง่าย เขานั่งลงเก้าอี้ข้างๆ ถัดจากเธอ

“มีอะไรครับ”

“พี่คงจะหนีไปเที่ยวกับนายอีกไม่ได้แล้วล่ะไรอัน เดี๋ยวโดนจับได้ ที่พี่ขาพลิกที่งานนั่นน่ะดีนะที่มีเพื่อนแม่เห็นว่าพี่ทำความดีอยู่ แม่ก็เลยไม่รู้ว่าเราแอบหนีเที่ยว” เมื่อไรอันได้ยินถึงกลับหน้าเหวอไปเลย อะไรจะอึ้งขนาดนั้น

“ไหนพี่บอกผมว่าพี่จะเที่ยวให้สะใจไปเลยไง โหย แค่นี้ก็กลัวโดนจับได้”

“นี่แกหนีเที่ยวงั้นเรอะ!”

พี่ชายแท้ๆ ไม่เทียมของคีย์เซียนามว่าคัสตาร์ดหรือเรียกสั้นๆ ว่าคัสถามขึ้นด้วยความประหลาดใจปนตกใจจนดูเสแสร้งแกล้งแอคติ้งระดับสิบล้าน ทำเอาเธอกับไรอันมองไปที่คัสตาร์ดเป็นตาเดียว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป