บทที่ 14 EP 02 ผู้ชายใส่สูท [4]
“นี่ไอ้โอบ”
“ทีมงานพี่จะมากี่โมงอ่ะ ผมพร้อมแล้วนะ”
“ฟังกูพูดให้จบ”
“ไม่ฟังอ่ะ ใครจะอยากฟังคำพูดทำร้ายจิตใจ”
เห็นหน้างอๆ กับปากห้อยๆ เบะๆ ของมันแล้วใจหนึ่งก็แอบรู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน แต่อีกใจก็อยากจะเดินเข้าไปจับตัวมันมาเขย่าแรงๆ เพื่อดึงสติว่าที่ผมพูดออกไปเพราะผมหวังดีกับมัน แต่คิดว่ามันคงไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้นแหละ เอาเป็นว่าปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน
“งั้นก็ตามใจมึง”
“ครับพี่” ไอ้โอบพูดเสียงเรียบ ซึ่งท่าทีที่มันเมินหน้าใส่ผมแล้วลุกออกไปคุยโทรศัพท์นั่นทำผมควันแทบจะออกหู
“ไอ้เวรเอ๊ย” ผมสบถพลางกัดฟันกรอด ทั้งที่ผมพยายามจะใจเย็นกับมันอย่างเต็มที่แถมยังอยากพยายามคิดเยอะๆ ก่อนจะพูดอะไรกับมันแต่สุดท้ายมันกลับลุกหนีผมไปคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ นี่มันจะเอายังไงกับผมกันแน่วะเนี่ย
“หวัดดีค่ะพี่ศิลา”
ขอบคุณที่คนอื่นๆ มากันได้สักที ไม่อย่างนั้นผมอาจหงุดหงิด ไล่ไอ้โอบกลับไปพลอยทำให้เสียทั้งเวลาเสียทั้งงานก็ได้
“นั่นใช่นายแบบที่พี่ศิลาติดต่อมารึเปล่าคะ หน้าตาดีใช้ได้เชียว” ตังเมถามยิ้มๆ ผมพยักหน้ารับนิดหน่อย ก่อนจะมองไปที่ไอ้โอบที่ยังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอก
โดยรวมแล้วที่นี่มีพนักงานสิบเอ็ดคนรวมตัวผม ซึ่งสักพักก็คงจะมากันครบนั่นแหละ หลักๆ แล้วก็จะมีตังเม เธอเป็นรุ่นน้องที่ผมชวนมาร่วมทำแบรนด์ด้วยกันตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อสามปีก่อน รับหน้าที่เป็นทั้งฝ่ายการตลาดและครีเอทีฟ คอยช่วยผมคิดคอนเท้นต์ต่างๆ มาตลอด และถ้าเมื่อไหร่ที่ต้องถ่ายแบบเสื้อผ้าคอเลคชั่นใหม่ๆ อย่างเช่นวันนี้ ตังเมก็มีอีกหนึ่งหน้าที่นั่นก็คือช่างแต่งหน้า ยกเว้นก็แต่นายแบบบางคนที่อาจจะมีช่างแต่งหน้าของตัวเองมาด้วย
ส่วนเรื่องช่างภาพเป็นหน้าที่ของต๊อดกับไอ้ติม ที่กำลังเดินตามเข้ามา มีแอดมินเพจที่คอยรับออเดอร์ผ่านการขายทางช่องทางออนไลน์รวมถึงตอบคำถามของลูกค้าอีกสามคน แพ็คของสองคนกับน้องๆ ที่มาฝึกงานสอง
“สวัสดีครับ” ไอ้โอบเดินกลับเข้ายกมือไหว้ตังเม ซึ่งเธอเองก็รีบรับไหว้มันทันที “ผมชื่อโอบครับ วันนี้คงต้องฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับพี่”
“ยินดีค่า พี่ชื่อตังเมนะคะ เป็นผู้ช่วยพี่ศิลา วันนี้รับหน้าที่ช่างแต่งหน้า ยินดีที่ได้รู้จักน้องโอบนะคะ” ตังเมแนะนำตัว
“ครับ ว่าแต่ได้ยินแว่วๆ ว่าแต่งหน้า ผมต้องแต่งหน้าด้วยเหรอครับ” ไอ้โอบถามไม่เต็มเสียงเท่าไหร่ หางตาชำเลืองมองมาที่ผมสลับกับตังเมไปมา
“ค่ะ เวลาถ่ายรูปออกมาหน้าจะได้ไม่ป่วย”
“อ้อครับ ไม่เห็นพี่ศิลาบอกก่อน เขาบอกแค่ให้ใส่ชุดพวกนี้ถ่ายรูป” ไอ้โอบอธิบายพลางดึงหน้าอกเสื้อที่มันสวมอยู่ขึ้นมาสองสามที
“ฉันไม่คิดว่านายจะไม่รู้ว่าเวลาถ่ายแบบเขาต้องแต่งหน้า”
“ผมไม่ได้เป็นนายแบบอาชีพสักหน่อยนี่ครับ จะไปรู้ได้ยังไง”
“ก็...”
“งั้นพี่ว่าน้องโอบมานั่งตรงนี้เลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง เดี๋ยวถ่ายชุดนี้เป็นชุดแรกเนอะ อันนี้พี่ศิลาเลือกให้หรือว่าเลือกเองคะ” ตังเมรีบดึงไอ้โอบไปนั่ง เธอชวนไอ้โอบคุยไปเรื่อยๆ เหมือนจะรู้ว่าผมเริ่มอารมณ์ไม่ดีเพราะถูกไอ้เด็กนั่นกวนประสาท ท่าทีที่เถียงคำไม่ตกฝากของมันทำให้ผมเห็นแววดื้อดึงของมันชัดทีเดียว
“พี่ศิลาเลือกครับ แต่เรื่องนั้นช่างเถอะ ยังไงผมก็ต้องได้ใส่ทุกชุดอยู่แล้ว เอาเป็นว่าถ้าผมต้องทำอะไรบ้างรบกวนพี่ตังเมบอกผมด้วยนะครับ”
“ได้จ้ะ เริ่มจากทำใจให้สบาย หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ เนอะ เดี๋ยวพี่จะแต่งหน้าให้หล่อเลย”
“ขอบคุณครับ”
ไหงกลายเป็นมันเข้ากันดีกับตังเมไปเสียเฉยๆ เฮ้อ เอาเถอะ ทางนี้ผมยกหน้าที่ให้ตังเมไปก็แล้วกัน
“สวัสดีครับพี่ศิลา”
“หวัดดี ให้ไวเลยพวกมึง”
“แหมพี่ก็ รีบไปไหนกันล่ะ ตังเมยังแต่งหน้านายแบบไม่เสร็จเลย” ไอ้ต๊อดที่หอบข้าวของพะรุงพะรังเข้ามารีโบ้ย
“น้อยๆ หน่อยค่ะพี่ต๊อด ตังเมแต่งหน้าแป๊บเดียวก็เสร็จเลย น้องโอบผิวดีจะตายเนอะน้องโอบเนอะ”
“ครับผม” ไอ้บ้านี่มันไม่คิดจะปฏิเสธคำชมจากคนอื่นบ้างเลยรึยังไงกันนะ
“ผมชื่อโอบนะครับพี่ ฝากตัวกับพี่ๆ ด้วยนะครับ ผมจะพยายามไม่เป็นภาระให้ทุกคนครับ สัญญา”
“เอาเว้ย แบบนี้ก็ดีเลย ท่าทางจะทำงานด้วยกันได้ พี่ชื่อต๊อด ส่วนที่ยืนสูบบุหรี่ข้างนอกชื่อไอติม ผู้ช่วยพี่เอง” ไอ้ต๊อดถือโอกาสแนะนำตัวเองกับไอติมในคราเดียว พูดจบไอติมก็เดินเข้ามาพอดี
“น้องเขาชื่อโอบนะเว้ยไอ้ติม”
“อ้อ หวัดดีครับ พี่ชื่อไอติมนะ”
“ครับผม ฝากตัวด้วยนะครับพี่ไอติม ส่วนหัวใจผมมีคนจองไว้แล้ว”
“อั้ยย่ะ ไม่ธรรมดานี่หว่าเรา” ไอติมถึงขั้นหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะเดินเข้าไปมองหน้าไอ้โอบใกล้ๆ
ผมกระแอมเบาๆ ในลำคอนิดหน่อย เป็นการส่งสัญญาณเตือนให้ทุกคนรีบๆ ไปทำหน้าที่ของตัวเองกันได้สักที ไม่รู้ว่าการที่ทุกคนเข้ากันได้แบบนี้จะสบายใจได้รึเปล่า
ไอ้ต๊อดกับไอติมพากันเดินขึ้นไปที่ชั้นสองโดยมีผมตามมาทางด้านหลัง ปล่อยให้ตังเมแต่งหน้าทำผมให้ไอ้โอบอยู่ที่ชั้นล่าง
