บทที่ 28 EP 04 เจ้ากรรม นายเวร [4]
“ไอ้อินเทล”
อย่าว่าแต่ไอ้อินเทลเลย ผมที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ ยังต้องสะดุ้งเพราะเสียงของไอ้จอมทัพ
“แฮ่ ผมแค่จะไปเข้าห้องน้ำเองครับพี่ แหม ไม่ได้คิดจะหลบหน้าพี่สักหน่อย นี่พูดจริงๆ”
“ต่อให้มึงคิดจะหลบก็หลบไม่พ้นหรอก เว้นเสียแต่ว่ามึงจะลาออกไปซะ”
“โหว ขู่งี้ทุกที”
“อย่ามากวนส้นตีน ไป ออกไปคุยกับกูข้างนอก เรียกไอ้เต้มาเฝ้าบาร์ แขกไม่เยอะแล้ว ใกล้เวลาปิดร้านแล้วด้วย” ไอ้จอมทัพสั่งเสร็จสรรพ พูดจบมันก็ก้าวลงจากเก้าอี้แล้วเดินอ้อมออกไปทางหลังร้าน ส่วนผมก็กำลังชั่งใจอยู่ว่าควรจะเดินตามมันออกไปดีรึเปล่า ในขณะที่ไอ้อินเทลน่ะคงกำลังมองหาทางหนีทีไล่ให้กับตัวเองอยู่ มันทำหน้าตาเหมือนหนักอกหนักใจว่าควรจะเลือกอะไรระหว่างเดินตามไอ้จอมทัพออกไปกับลาออกน่ะ
“พี่ศิลาครับ”
“กูตามไอ้เต้ให้แล้วกัน” ผมแสร้งบอกก่อนจะทำทีเป็นมองหาไอ้เต้ ซึ่งก็หันมาเจอเพราะมันกำลังจะเดินมาทางนี้พอดี และเพียงแค่ยกมือเรียก ไอ้เต้ก็รีบก้าวให้เร็วขึ้นทันที
“ครับพี่ศิลา ต้องการอะไรเพิ่มเหรอครับ”
“เปล่า เรียกมาเฝ้าบาร์แทนไอ้อินเทลน่ะ มันกำลังจะโดนไอ้จอมทัพไล่ออก” ผมแกล้งว่า ไอ้อินเทลทำตาเหลือกใส่ผมก่อนจะถอนหายใจทิ้งเสียแรงแล้วเดินคอตกตามไอ้จอมทัพออกไปอย่างมีไม่มีทางเลือก
หลังจากไอ้อินเทลเดินออกไปแล้ว ไอ้เต้ก็รีบเดินเข้าไปประจำที่แทน
“มีเรื่องอะไรกันรึเปล่าครับพี่ศิลา”
“ไม่มีอะไรหรอก” ผมปฏิเสธยิ้มๆ ก่อนจะหยิบเงินจ่ายค่าเบียร์แล้วเดินตามไอ้อินเทลออกมา
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอตามไปฟังเหตุผลของไอ้อินเทลสักหน่อยก็แล้วกัน ผมเองก็อยากจะรู้นี่นาว่าตกลงแล้วไอ้โอบมันกำลังมีปัญหาอะไร
“ตกลงยังไง ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นพี่ชายของไอ้โอบจริงรึเปล่า”
มาทันได้ยินไอ้จอมทัพยิงคำถามแรกใส่ไอ้อินเทลพอดี
ผมก้าวเท้าเดินออกไปยืนข้างๆ ไอ้จอมทัพนั่นแหละ ไม่ได้คิดจะมาแอบฟังแต่จะมายืนฟังมันโต้งๆ เลย ยังไงเสียผมเองก็รู้จักทุกคนในร้านอยู่แล้ว นอกจากนั้นผมก็ยังเคยเจอกับผู้ชายคนนั้นที่อ้างตัวว่าเป็นพี่ชายของไอ้โอบมาก่อนด้วย
“ก็….น่าจะใช่ครับ” ไอ้อินเทลตอบตะกุกตะกัก
“ทำไมต้องน่าจะใช่ ตกลงแล้วใช่หรือไม่ใช่”
“โธ่พี่ทัพ”
“ถ้ามึงยังโยกโย้ กูจะไล่มึงออกทั้งคู่เลย ไอ้เชี่ยโอบอีกคน มีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกกูกันตรงๆ นี่พวกมึงติดหนี้พนันออนไลน์รึเปล่า” ไอ้จอมทัพเค้นความจริงเสียงเครียด
“ไปกันใหญ่แล้วพี่”
“มึงจะเล่าไม่เล่า” น้ำเสียงของไอ้จอมทัพเริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ผมได้แต่มองหน้าไอ้อินเทลนิ่งๆ ใจหนึ่งก็สงสารมันเหมือนกัน แต่อีกใจก็อยากจะให้มันพูดความจริงออกมา ผมมั่นใจว่าคนอย่างไอ้จอมทัพมันมีเหตุผล และถ้าไอ้โอบกับไอ้อินเทลมีปัญหาอะไรอยู่จริงๆ คนอย่างไอ้จอมทัพมันต้องยินดีที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยแน่ๆ
“ผมก็บอกพี่ไปแล้วไงว่าผมไม่แน่ใจครับ แต่ไอ้โอบมันมีพี่ชายจริงๆ ครับ เพียงแต่ผมไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินมันเรียกชื่อเขาด้วยซ้ำ”
“ทำไม”
“ผมก็ไม่รู้ครับ ปกติเวลาได้ยินมันพูดกับพี่มันก็คือตอนที่เขาโทรหามันเท่านั้นเอง มันไม่เคยพาเขาหรือผมมาแนะนำให้รู้จักกันสักครั้งเดียว” ไอ้อินเทลอธิบาย
ไอ้จอมทัพขมวดคิ้ว ทำหน้าตาเคร่งเครียด ในขณะที่ผมเองก็นึกไปถึงเมื่อวันก่อนที่ไอ้โอบเองก็พยายามจะไม่พูดถึงพี่ชายของมันให้ผมและคนอื่นๆ ในวันนั้นรู้จักเหมือนกัน
“แปลว่าเขาก็ไม่รู้ว่านายเป็นเพื่อนสนิทของไอ้โอบงั้นเหรอ”
“ครับ นอกจากมัน ผมก็ไม่เคยเจอใครในครอบครัวมันเลยสักคนเดียว มันไม่เคยพูดถึงด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้ผมเคยถามเหมือนกันแต่พอเห็นมันไม่อยากจะเล่าก็เลยไม่อยากเซ้าซี้ แล้วก็เลยตามเลยมาตลอด” ไอ้อินเทลยังมีสีหน้าลำบากใจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผมคิดว่าผมพอจะเข้าใจความรู้สึกของมันอยู่บ้างเหมือนกัน
