บทที่ 2 อ้วกเป็นเหตุ
ตีสองในคืนเดียวกัน หลังกลับมาจากคฤหาสน์ใหญ่ คุณคอปไม่ได้แวะคอนโดซะทีเดียว แต่กลับมุ่งหน้าสู่ผับใจกลางเมือง ดื่มด่ำบรั่นดีจนกระทั่งเมาได้ที่ แล้วจึงเลิก ทว่าขากลับไม่วายควงหญิงมาด้วย มันคือสิ่งที่ทำประจำ และชอบเป็นชีวิตจิตใจ ขณะเวลาเดียวกัน ตึกคอนโดของเขา ห้องข้างๆ ยังคงเปิดไฟอยู่ ร่างบางเดินหุนหัน ผุดลุกผุดนั่งเสมือนร้อนใจ สายตาเฝ้ารอคอยน้องชายคนกลาง ชะเง้อชะแง้ทั้งๆ ที่ง่วงจะแย่ เมื่อตอนกลางวันหล่อนมีปากเสียงกับเขา หนักถึงขั้นถูกผลักจนล้มฟุบถนน ส่งผลให้คอนกรีตหยาบๆบาดผิวหล่อน ตึงแสบตั้งแต่ข้อศอกลามมายันเข่าคู่ ที่ตอนนี้เธอทำได้เพียงเอาปลาสเตอร์แปะมัน
" บอลนะบอลทำไมถึงได้เหลวไหลอย่างนี้ "
ปากบ่นเสียงแหบ สีหน้าและแววตาทุกข์ร้อนเต็มทน อันที่จริงหล่อนรู้มันคือเรื่องปกติ ที่น้องชายมีนิสัยแบบนี้ เที่ยวเตร่ติดเพื่อน สร้างความห่วงใยให้พี่สาวต่างแม่อย่างบลูต้องคอยเป็นห่วงเสมอ ทว่าวันนี้ ที่มันดูมากไป ถึงขั้นหล่อนปิดตาหลับไม่ลง นั่นก็เพราะบอลถูกคุมประพฤติอยู่ ความร้อนใจของหล่อน ทำก้นหล่อนอยู่ไม่ติด ชะเง้อคอรอนานแล้ว บอลก็ยังไม่กลับมา โทรหาไม่รับสาย อยู่เฉยๆ ยิ่งกระวนกระวายใจ สุดท้ายหนีไม่พ้นหล่อนต้องไปตามเอง ร่างบางสวมชุดคลุมสีดำทับชุดลำลองข้างใน หยิบกุญแจรถซึ่งมันคือสมบัติชิ้นที่สองยังคงเหลือ หากตอนเรียนมหาลัยพ่อไม่ซื้อไว้ให้ก่อนตาย วันนี้ก็คงจะเหลือแต่ตัวจริงๆ
" ฟู่ววว! นี่ฉันทำอะไรอยู่ .."
เสียงแหบถามตัวเองหน้าเศร้า ขณะนั่งอยู่ในรถ ทอดสายตามองออกไปหน้าผับ คนนับร้อยเดินเข้าออกกันจ้าละหวั่น หญิงสาวกลืนน้ำลายดังอึก ใจเต้นตุบๆ นั่นเพราะต้องทำสิ่งที่ตัวเองไม่อยากจะทำ ยังคงนั่งมองอยู่จุดๆ นั้น รอคอยเวลาที่จะเจอใครบางคน จนกระทั่งสายตาเจ้าหล่อนเหลือบไปปะทะ เห็นน้องชาย ที่เดินออกมากับเพื่อนอีกหย่อมหนึ่ง
" บอล.."
ร่างสูงที่ดูไม่ค่อยจะเต็มร้อย เดินโซซัดโซเซอย่างกับคนไร้เรี่ยวแรง หล่อนรู้ทันทีว่าน้องเมา
" เอ้ย โชคดีโว้ย เจอกันพรุ่งนี้ที่เดิม "
เสียงโหวกเหวกพร้อมมือที่ยกบอกลาเพื่อน อยู่ดีๆ ก็ทำบลูชะงักค้าง หลังหลุดจากรถมายืนรอประคองเขาได้ไม่นาน
" บอล..."
เพราะนั่น หล่อนรู้ดี ยังไงก็ต้องเกิดปัญหาอีก เจ้าของชื่อหันมาตามเสียง เหลือบตาเหยียดมองหล่อนแวบหนึ่ง แล้วจึงเดินผ่านไป ทำเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน
" บอล เดี๋ยวสิ! "
บลูไปคว้าแขนไว้ ทว่า กลับถูกผลักออกมาไม่เป็นท่า
" เฮ้! พี่หยุดตามผมสักทีจะได้ไหม ผมอายเพื่อน! "
" กลับบ้านเถอะ เธออยู่ในช่วงถูกคุมประพฤตินะ "
" ก็แล้วยังไง พี่...เป็นแม่ผมเหรอ "
เขาเลิกคิ้วถาม ขณะคนฟังหน้าชาเป็นแถบ
" บอล.."
" แม่ฝากพี่ดูแล พี่ก็ช่วยดูให้มันห่างๆ หน่อยได้มั้ย.. อย่าจุ้นทุกเรื่อง"
ประโยคท้าย กัดฟันบอก ทำท่าจะผงะเดินหนีอีกรอบ แต่เพราะความเมากลับเซล้มซะงั้น
" บอล! "
ลำบากสาวร่างเล็กต้องมาคอยพยุง ทั้งที่แรงตนไม่มีพอที่จะรับไหว กัดฟันฝืนจนกระทั่งมีคนมาช่วย
" มาครับ ผมเอง "
" ขอบคุณค่ะ "
เขาคือการ์ดของผับ ที่คอยดูแลลูกค้า
" คันไหนครับ "
" คันนี้ค่ะ "
เมื่อทำหน้าที่เสร็จก็เดินจากไป ปล่อยบลูยืนปาดเหงื่อภายหลังแทน
....แล้วตอนถึงคอนโดเล่า ใครจะแบก....
" โอ๊ย บอลนะบอล ให้ตายเถอะ! "
แกร็ก!!
เสียงสุดท้ายตอนเครื่องยนต์จะดับ บลูดึงเบรกมือ พลันถอนหายใจเสมือนคนใกล้ตายเต็มที เพราะถูกยัดเยียดชะตากรรม ชาติที่แล้วหล่อนทำกรรมกับใครไว้หนอ ชาตินี้ถึงต้องมายอมอะไรขนาดนี้
“ บอล..ถึงแล้ว เดินเองไหวไหม “
สามนาทีกับการนั่งช่างใจ สุดท้ายหล่อนจำใจต้องสะกิด ทั้งอันที่จริงหล่อนไม่อยากเลยจะให้เขาตื่น ไม่อยากได้ยินเสียงโวยวายเลยด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับเสียงฟ้าร้องที่หล่อนเคยกลัวมาก ตอนนี้.. ยังจะน่าฟังกว่าอีก ดูสิ! ร่างก็ใหญ่ แถมน้ำหนัก คนตัวเล็กอย่างหล่อนจะแบกไหวได้ยังไงกัน!
...เมื่อไหร่นะ เมื่อไหร่จะเรียนให้จบๆ แล้วออกไปทำงาน มีครอบครัวสักที ...
“ บอล ..”
“ อื้มมม อย่ามายุ่งได้ไหมวะ คนจะนอน..”
“ เฮ้อ...”
ตาคู่หวานเหลือบมองเวลาจากมือถือในกระเป๋า ก่อนปิดปุ่มดับหน้าจอ แล้วหย่อนมันกลับไปใหม่ เป่าลมออกปาก กลอกตาด้วยความเซ็ง
“ ตีสาม..จะได้นอนไหมเนี่ยฉัน "
"....."
" ฟู่ววว! มา.. ถ้าได้ล้มสักที เผื่อจะสร่างเมาขึ้น “
ร่างบางประชด เมื่อรู้ว่าคงหนีไม่พ้นหล่อนเป็นคนแบก นึกไปถึงตอนเช้าแล้วอยากจะร้องไห้ หากไม่ได้นอนเลยแบบนี้จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปทำงานไหว
“ อะไรวะ บอกว่าอย่ามายุ่งไง “
“ เงียบๆน่ะ หรือจะนอนในรถ “
ปากบ่นอุบ ขณะหน้าหย่นคิ้วขมวด นี่คงจะเป็นการออกกำลังที่หนักสำหรับหล่อนสุดๆแล้วในชีวิต กว่าจะก้าวขาเดินได้แต่ละก้าว ก็กัดกินเวลาไปหลายนาทีเหมือนกัน
“ อึ้บ! หนักเป็นบ้าเลย! “
ขบกรามเข้าหากันจนขึ้นสันนูน เมื่อต้องรับน้ำหนักคนเมาเต็มๆแบบนี้ ใช้กลยุทธิ์ลากบ้างดึงบ้าง มาจนถึงหน้าลิฟต์ ก่อนจะสะดุ้งกับลมหายใจที่มารดต้นคอเบาๆตอนนี้
“ จะอ้วก...”
“ ว้าย! อย่าเพิ่งนะบอล นี่มันในลิฟต์ “
บลูถึงกับตาเหลือกทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ภาวนาในใจให้ถึงที่หมายไวๆ พร้อมกล่อมบอลมาตลอดมทาง
ติ๊ง!
จนกระทั่งลิฟต์เปิด แบกเขามาถึงหน้าห้อง ปล่อยคนเมายืนพิงผนังทางเดินไปพักนึง ส่วนตัวเองควานหากุญแจ มือสั่นปากสั่นเร่งสแกนคีย์การ์ด
“ คลื่นไส้ ..”
“ ใกล้แล้วๆ อย่าเพิ่งนะ...”
ทว่า!!
“ อ้วกกก!! “
“ บอล!! O.O”
ไม่ทันแล้ว เขาอาเจียนออกมาเต็มๆ เรียกได้ว่าหมดไส้หมดพุง ก่อนจะปล่อยตัวตามแรงโน้มถ่วงทรุดลงไปนั่งกับพื้น
...พระเจ้า....
ซึ่งเหตุการณ์นี้บลูจะไม่ช็อกเลย ถ้าหากอ้วกนั้นไม่ไปกองอยู่หน้าประตูห้องข้างๆ แถมตอนนี้เจ้าของห้องก็ยืนมองเธออยู่ ด้วยสีหน้าที่แบบ...อึ้งสุดๆ
".............."
" อะ เอ่อ..."
อย่างที่บอก จะไม่ให้บลูอึ้งได้ยังไง เจ้าของรองเท้ามาเห็นตำตาแบบนี้...
" ทำบ้าอะไรวะ!! "
สะดุ้งโหยง คีย์การ์ดเกือบหลุดมือกับเสียงตะเพิด บลูมองคนมาใหม่สลับกับน้องชายของตัวเองประมาณสองรอบ นั่นเพราะสติสัมปชัญญะยังไม่กลับคืน มาสะดุ้งอีกที ก็ตอนคอเสื้อน้องชายกำลังถูกกระชาก
" ลุก! "
" ใครวะ"
" ยะ อย่าค่ะ อย่า.. ฉันขอโทษแทนเขานะคะ เขาเมาค่ะเขาไม่ได้ตั้งใจ "
รุดหน้าไปห้ามเสียงดัง ไม่สนว่าใครจะออกมามองบ้าง แถมความทะเล่อทะล่าของหล่อน ยังส่งผลให้พุ่งไปชนผู้หญิงข้างๆเขาด้วย
" โอ๊ย! นี่เธอ!! "
" ขะ ขอโทษค่ะ "
ย่อเข่าลนลานเสมือนถอนสายบัว ขณะอุ้งมือเล็กกำลังยื้อมือคุณคอปไว้ พยายามอย่างมากที่จะดึงให้มันหลุดออก ในขณะเดียวกันบอลเองก็ส่งเสียงโวยวาย
" เฮ้ย อะไร ปล่อยกู! "
" รองเท้ากูคู่ตั้งใหญ่ มึงหลีกอ้วกให้พ้นมันสักนิดไม่ได้หรือไงวะ"
ทว่า เหมือนเขาไม่ได้สนใจหล่อนเลย แต่หันหน้าไปด่าทอบอลซะมากกว่า
" คนมันจะอ้วก มึงจะห้ามได้ไง.."
" ไอ้! ..."
" ฉันจะซักให้ค่ะ! "
ทำท่าจะง้างมือชก พลันมาชะงักกับประโยคนี้ ที่สาวข้างๆโพล่งขึ้น คุณคอปขมวดคิ้วเป็นปมทันที พลางคิดในใจ
...ยังมีผู้หญิงที่รักผัวขนาดนี้อยู่ในโลกอีกเหรอวะ...
ถึงขั้นไม่เกรงกลัวลูกหลง วิ่งมาขวางหมัดแบบนี้เนี่ย
" หืม... ซักหรือ.."
ร่างสูงเลิกคิ้ว ตั้งคำถามยียวนกวนบาทาไปให้บลู ที่เอาแต่นิ่วหน้าตาสลดอยู่ตอนนี้ มัวแต่ห่วงใยคนเมามายไม่ได้สติ เลยไม่ทันฟัง
" คะ ค่ะ.."
เผลอตอบออกไปเหมือนคนโง่ ก่อนจะสะดุ้งเพราะถูกตะเพิดสวนกลับมา
" จะซักได้ยังไง มันโดนน้ำไม่ได้! "
ทำสาวเจ้าตกใจหนัก ก้มลงไปมองรองเท้าแล้วเบิกตาโต
" รองเท้า..หนังแกะ.."
ครางอยู่ในลำคอ ก่อนกลืนน้ำลายลงไปจนจุก เธอรู้ดี รองเท้าหนังแกะ เป็นรองเท้าที่โดนน้ำไม่ได้ ทำความสะอาดโดยใช้น้ำยาสำหรับขัดหนังเท่านั้น โดนแดดจัดแล้วสีจะซีด แถมอยู่ในที่มิดชิดก็จะมีกลิ่นอับอีก แล้วมาโดนอาเจียนเป็นก้อนๆ แบบนี้ จะทำความสะอาดยังไง
" เฮ้อ.."
ในขณะที่คอปตอนนี้หัวเสียไปแล้ว สำหรับเขาถือว่าไม่แพงเท่าไหร่หรอก หากจะซื้อใหม่อีกสักคู่ แต่ที่แสดงกิริยา เสมือนโมโหจัดขนาดนี้ ก็แค่ไม่ชอบการกระทำมักง่ายของใครบางคน เขาเห็นพฤติกรรมมาตั้งแต่บลูลงจากรถแล้ว
... เมาแล้วอ้วก เมาแล้วลำบากเมีย เมาทำซากอะไรวะ...
" คือ..ฉัน..เฮือก!! O.O"
ผลั่ก!!
ก่อนจะทำหญิงสองคนข้างๆ สะดุ้งโหยง ด้วยปลายเท้าเตะรองเท้าตัวเองจนปลิว หันหรี่มองบลูตาขวาง แล้วกัดฟันพูด
" เก็บมันไปทิ้งถังขยะ อย่างเธอน่ะ มีปัญญารับผิดชอบแฟนให้ได้ซะก่อนเถอะ.."
ที่ทำบลูจุกในใจไม่เบา พลันก้มหน้างุด กำมือแน่น หลังประโยคนี้
" เอ้อ.. เธอคงเป็นผู้หญิงคนเดียวกัน กับที่ถูกผลักล้มตรงหน้าโรงพักสินะ "
แล้วเหลือบไปมองบอลที่นั่งส่ายหัวให้สร่างเมาอยู่
" มีแฟนไม่เอาไหนแบบนี้.. เลิกไปเหอะ.."
เหยียดยิ้มดูถูก ก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องตัวเองไป ปล่อยบลูที่ยืนกัดปากแน่นอยู่ตอนนี้ คับแค้นใจสุดๆ เหลือบมองบอลแล้วสะอื้นให้
" ฮึก...เห็นมั้ย ฉันโดนอีกจนได้.."
รุ่งสางที่บลูไม่ได้นอนเลยแม้แต่วินาทีเดียว เพราะมัวแต่นั่งใจระทึกกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับความรู้สึกทั้งหมด เสียใจจริงๆ และรับไม่ได้ อายเกินกว่าจะกล้าออกไปสู้หน้ากับเขาอีก
...เพื่อนข้างห้อง ต่อไปหากเกิดอะไรขึ้นมา เรื่องขอความช่วยเหลืออย่าไปหวังจากเขาเลย
เจ็ดโมงเช้าคุณคอปลืมตาตื่น ร่างกำยำไร้เสื้อผ้าปกปิดช่วงบน เผยให้เห็นกล้ามเนื้อแผงอกเป็นมัดๆ ลุกจากเตียงใหญ่ไปยังระเบียง แล้วจึงจะจุดบุหรี่ดูด สายตาเกิดเหลือบไปเห็นใครคนนึงในจังหวะพ่นควัน ทำเขาชะงัก ก่อนจะเพ่งเล็งเพื่อมองมันให้ชัด
“ ฮึ..”
เค้นยิ้มออกมาแค่เพียงมุมปาก ขณะแววตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์นั้นยังลอบมอง
.... ถึงว่า ตามใจอย่างกับเทวดา ที่แท้มันเด็กกว่านี่เอง.....
ครุ่นคิดไปเองคนเดียวในใจ แล้วจึงจะเบือนหน้าไปทางอื่น ไม่รู้ทำไม ถึงได้จงเกลียดจงชังผู้หญิงแบบนี้นัก แสร้งทำตัวไร้เดียงสา ถ้าไม่มาเห็นกับตา คงดูไม่ออกว่าเป็นคนที่ชอบรสนิยมกินหญ้าอ่อนอะไรทำนองนี้ หรือจะบอกว่าเขานั้นคิดมาก?? จะคิดมากได้อย่างไร ก็ในเมื่อการกระทำของหล่อนเผยให้เห็นทนโท่ขนาดนั้น วิ่งตามไปดึงแขนไอ้เด็กบ้านั่น เสมือนมีปากเสียงอะไรกันสักอย่าง ซึ่งสุดท้ายแล้วก็เหมือนเดิม หล่อนถูกผลักจนก้นคะมำ ทว่า กลับไร้ความเคืองโกรธใดๆ ทั้งสิ้น หล่อนไม่มีอารมณ์เถือกนั้น นอกจากยืนเม้มปากมองแผ่นหลังร่างสูงที่เดินรุดๆ ห่างไปคร่อมมอเตอร์ไซค์ตนเองแล้วบิดออกไปนิ่ง
“ สารเลว “
ถึงกับทำคุณคอปที่ยืนมองจากระเบียงชั้นสูงกัดฟันกรอด เขาไม่นึกเลย ว่าหล่อนจะยอมถึง ขนาดนั้น
“ บ้า..ผู้ชาย “
“ อะไร ใครบ้าผู้ชายกันคะ “
ทว่า กลับต้องชะงักนิ้วที่คีบแท่งบุหรี่ ลดมันลงจากริมฝีปาก หันไปมองต้นเสียง
“ เปล่า “
ริซ่า ผู้หญิงคนเดียวกันกับเมื่อคืน ยันตัวจากท่านอนเป็นท่านั่งเผยให้เห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าทุกสัดส่วน เอื้อมไปหยิบผ้าขนหนูมาพันตัวทีหลัง แล้วจึงจะลุกมายืนเต็มความสูงในท่ารวบผมยุ่งๆขึ้น
“ ก็ได้ยินคุณพูดอยู่ นึกว่าบ่นริซ่าซะอีก “
“ อย่าร้อนตัวไปหน่อยเลยน่า “
ร่างเซ็กซี่นั่น ทำคุณคอปหลุดออกจากภวังค์จากข้างล่างนั่นเลยทันที หรี่ตามามองคู่นอน ใหม่ ทิ้งก้นบุหรี่ลงถัง แล้วเดินเข้ามาโอบข้างหลัง
“ อุ๊ย...”
มีอารมณ์ร้อนแรงขึ้นมาอีกรอบ
“ นังร่านของฉัน..”
“ อย่าค่ะ ยังเช้าอยู่เลยนะคะ “
“ แน่ใจหรือ ว่าจะปฏิเสธฉันลง คิดให้มันดีๆเสียก่อน “
บังคับร่างบางหันประจันหน้า ก่อนโน้มลงไปฉกริมฝีปากเอิบอิ่ม
“ .........”
เสียงหัวใจเต้นระรัวของริซ่า ที่ดังกระเพื่อมจนหน้าอกขยับ ทำคุณคอปตอนนี้แทบคลั่ง ผลักร่างบางล้มไปกับเตียงเช่นเดิม ก่อนตัวเองจะตามลงตามไป
" ว้าย.. ใจเย็นสิคะ "
" ไม่ไหวแล้ว นอนเฉยๆ อย่าสะดีดสะดิ้ง "
