บทที่ 3 ลมจับ

ร่างบางที่ไม่ผอมมาก จัดไปทางน่าถะนุถนอมเสียมากกว่า ราศีจับไม่ต่างกับลูกผู้มากรากดี หากไม่รู้จักกันมาก่อนมองเผินๆ คงนึกว่าเป็นคุณหนูแน่ๆ ทว่า ต่างกับเครื่องหน้าโดยสิ้นเชิง ที่ตอนนี้ซีดเผือดซะจนดูไม่ได้ เดินเชื่องช้าเข้ามายังคลีนิกสัตว์ไร้เรี่ยวแรงเพราะหล่อนยังไม่ได้นอนทั้งคืน

" สวัสดีค่ะคุณหมอ "

" ค่ะ คุณผู้ช่วย "

ผู้ช่วยสัตวแพทย์คนหนึ่งเธอยิ้มแพรวพราวเป็นมิตร ขณะกำลังเดินสวนผ่าน บลูปลดกระเป๋าจากไหล่ตัวเองลง ก่อนจะดึงเสื้อกาวน์มาสวมทับ แล้วถึงจะทำหน้าที่ของตนปกติ ทว่า ไม่ทันได้เดินไปถึงห้องทำงาน ติ๊ด..ติ๊ด... โทรศัพท์ กลับร้องขัดเสียก่อน สาวเจ้าดึงมันออกมาดู ถึงกับกลอกตาด้วยความเซ็ง

" คะ แม่.."

(ไอ้บอลมีเรื่องอะไร ถึงถูกคุมประพฤติ)

แล้วมาน่าฉงนเอาทีหลังเมื่อได้ยินคำถามนี้

" แม่รู้แล้วรึจ๊ะ ใครบอกแม่ "

(ใครจะบอก มันไม่สำคัญหรอก! เอาเป็นว่าไม่ใช่แกก็แล้วกัน)

พลันมาเหน็บหล่อน

"....."

(ทำไมไม่บอกฉัน)

" บลูแค่ไม่อยากให้แม่เครียดน่ะ เพราะคิดว่ายังไง คนจัดการและดูแลเรื่องนี้ ก็คือบลูอยู่แล้ว "

(จ้า! แม่คนเก่ง ดูแลให้ดีก็แล้วกัน อย่าให้มันมากวนฉันอีกล่ะ)

ประโยคหลังเธอจงใจเน้นคำ แล้วตัดสายทิ้ง บลูถึงขั้นค้างชะงักทันที ค่อยๆ ลดโทรศัพท์ลงจากติ่งหูมาหย่อนใส่กระเป๋าเสื้อคลุม ยืนเงียบไปพักหนึ่ง เหมือนเรียกสติ แล้วจึงเดินมาทำงานของตัวเองต่อ

" ไง.. เหมียว วันนี้โอเคขึ้นมาบ้างไหม ไหน..ขอคุณหมอดูอาการหน่อย..."

นั่นคือการคุยกับสัตว์นานาชีวิต สุดแล้วแต่ใครจะพามา จะป่วย ตัดขน รึฝากเลี้ยงเธอรับหมด เธอเปรียบเสมือนนางฟ้าของน้องหมาน้องแมวก็ไม่ปาน และเป็นเพื่อนร่วมงานที่รักของทุกคน ต่างกันก็แต่แม่เลี้ยงที่เอาแต่โขกสับ ทำดีให้ตาย สำหรับเธอก็ไร้ค่า  นับตั้งแต่พ่อบลูเสีย หล่อนก็มีแต่ความชิน ชินชาซะจนมีน้ำตา ไหลออกมาทุกครั้งเพราะถูกบั่นทอน

....ใจคอกะจะใช้สมบัติพ่อให้หมดคนเดียวเลยรึไงนะ เฮ้อ...

ทว่า ก็ได้แต่คิด เพราะตามพินัยกรรม มันเป็นสิ่งของที่หล่อนควรจะได้

" ฟู่ววว! บ้าจริง.."

ก่อนบลูจะไล่ความคิดนี้โดยการสะบัดหน้า ก้มหน้าก้มตาใช้ความรู้ที่เรียนมาต่อไป

" ไหน... หมอขอดูตาบ้างสิ หายเปื่อยรึยังเอ่ย? เพชรจ๊ะ เช้านี้น้องพอจะตอบสนองบ้างไหม "

" จิบน้ำได้บ้างแล้วค่ะหมอบลู แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น "

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ขณะฟังเสียงคนเล่า แล้วถอนหายใจทิ้ง...

" ฟู่ววว ก็ยังดี "

ลากเก้าอี้ใกล้ๆมานั่ง พลันหยิบเครื่องมือหมอมาใช้ สายตาเพ่งเล็งตรวจโน่นนี่นั่นตรงตัวของแมว ปากคุยจ้อไปด้วย

" เอ้อ เดี๋ยวเพชรให้น้ำเกลือเพิ่มนะจ๊ะ พี่จะไปดูอีกเคสนึง "

" ค่ะหมอ "

ลุกพรวดทีเดียวทำท่าจะไป ไม่ทันได้เดิน อยู่ดีๆ หน้าเกิดมืดเกือบจะล้มขึ้นมาซะก่อน ลำบากผู้ช่วยตกใจหนัก ต้องวางทุกอย่างลงแล้ววิ่งมาช่วย

" ว้าย! หมอบลู ระวังค่ะ! "

เคร้ง!

เสียงถาดเทกระจาดถูกกวาดหล่นด้วยมือน้อยๆ ของบลู ที่อยู่ดีๆ ก็หน้ามืดขึ้นมา บังคับร่างให้ยืนต่อไม่ไหว ร่วงล้มลงไปพร้อมถาด ขณะมีมือนึงมารองรับไว้ ทว่า ไม่ใช่ผู้ช่วยเพชร แต่กลับกลายเป็นคนมาใหม่ที่เห็นเหตุการณ์นั้นพอดี  หมอนนท์ หนึ่งในสัตวแพทย์เพื่อนร่วมงานของบลู ถูกจัดให้เป็นผู้ชายใจดีอีกคนนึงไม่ต่างกัน วิ่งถลาเข้ามาประคองหลังเข้ามาเห็น

“ มาครับ ผมเอง “

“ ค่ะหมอ “

เพชรยอมถอยออกไปแต่โดยดี เพราะรู้ตัวเองนั้นอุ้มไม่ไหว เหลือบมองหน้าซีดเผือดของหญิงสาวแล้วรู้ทันทีว่าหล่อนคงจะรับภาระหนักมาอีกแล้ว จึงหายาดมยาหอมและพัดมาอำนวยความสะดวกให้

“ บลู ไม่ได้นอนอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย “

หมอนนท์นิ่วหน้าฉงน ถือวิสาสะดึงพัดจากมือเพชรมาสะบัดแรงๆ โน้มลงมองหน้าสวยเป็นห่วงเป็นใย

“ อืม...”

ครางแทนคำตอบออกมาแค่นั้น ขณะตายังปรืออยู่ แล้วมากะพริบทีหลังก็ตอนเห็นว่าเป็นหมอนนท์

“ หมอนนท์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ“

“ ยังจะมาถามอีก “

แกล้งเอ็ดตะโรตอนหล่อนยันตัวขึ้น เปลี่ยนจากท่าทิ้งตัวเป็นนั่งเอนหลังกับพนักเก้าอี้แทน ขมวดคิ้วนิ่วหน้าพยายามปรับสภาพให้คงที่

“ ขอโทษค่ะ อยู่ๆก็หน้ามืด “

“ บลูไม่ไหว ก็กลับไปพักเถอะ ที่นี่ตอนนี้ไม่ได้ยุ่งเหยิงอะไร “

“ ไม่เอา บลูเป็นห่วงไข่กวน “

ไข่กวนก็คือแมวน้อยที่ป่วยด้วยอุบัติเหตุถูกรถทับ หล่อนเหลือบตาไปมอง ดันทุรังจะลุกขึ้น กลับถูกหมอนนท์ดึงมานั่งลงใหม่ ขณะเพชรตอนนี้ถึงขั้นลอบถอนหายใจ

“ พอเลย “

“....”

“ ไม่ต้องเลย เดี๋ยวนนท์ดูแลเอง “

“ อาทิตย์นี้ บลูรู้สึกว่าตัวเองทำงานไม่เต็มที่ มัวแต่เครียดเรื่องของบอล “

ประโยคหลังหล่อนกระซิบ เผลอช้อนตามองหน้านนท์สลับกับเพชร ที่รู้ปัญหาเรื่องนี้ของหล่อนดี

“ว่าแล้วเชียว ต้องเป็นเรื่องไอ้หมอนั่น เมื่อไหร่นะ จะโตสักที รู้ไหมเนี่ยพี่สาวเดือดร้อน “

เพชรบ่นอุบ พลันมาปิดปากสนิทก็ตอนบลูเหลือบมองหน้า

“ อุ๊ย..ขอโทษค่ะหมอบลู เพชรแค่รู้สึกโกรธแทน เห็นใจผู้หญิงด้วยกัน “

ทว่า เธอกลับยิ้มบางๆ

“ ไม่เป็นไรจ้ะ “

นึกไม่ถึง ว่าจะมีคนเข้าใจหล่อนจนรู้สึกแทนแบบนี้

“ ไป นนท์ไปส่ง “

ก่อนหันขวับมามองคนแทรก แล้วผ่อนลมหายใจ

“ ไม่กลับ..”

“ ไม่เอาน่าบลู อย่าดื้อสิ ผมเป็นห่วงคุณนะ “

“..........”

“ลาสักวันเถอะ ผมบอกแล้วไง ผมจะดูแลแทนให้ “

บลูถึงกลับเม้มปากแน่น อันที่จริงเขากับเธอก็เปล่าเป็นอะไรกันสักหน่อย แต่เพราะอะไร ทำไม..ถึงได้ดีกับหล่อนขนาดนี้ ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาลัยแล้ว ทั้งที่รู้ ชีวิตหล่อนนั้นมีปัญหาตั้งแต่ไหนแต่ไร แล้วคิดว่าคงกู่กลับลำบาก ยังจะกล้าชวนเธอมาหุ้นให้เปิดโรงหมอสัตว์อีก

“ เฮ้อ..”

“ ไม่ต้องมาถอนหายใจเลย ลุก..”

“ นี่สั่งเหรอ..”

“ ใช่! ผมสั่ง ในฐานะหมอใหญ่สุด สั่งให้คุณพักเดี๋ยวนี้ จนกว่าจะดีขึ้น แล้วจึงกลับมาทำงานปกติได้ “

“ โหว่ “

“ คิกๆๆ “

ท่ามกลางเสียงปิดปากของเพชร ที่ยืนมองตั้งแต่ต้น เธออดใจคิดไม่ได้เลยว่า หากหมอนนท์จีบหมอบลูติดขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น

“ น่ารักง่ะ...”

ครางเสียงหน้าตาเพ้อฝัน ยามที่เขาเดินผ่าน แล้วยิ้มกว้าง

....ต่างลิบเลยกับน้องชายตัวดีของบลู.....

“ ไอ้หมอนั่น อย่าให้เจอที่วิทลัยนะ จะด่าให้สะอึกเลย “

บทก่อนหน้า
บทถัดไป