บทที่ 6 6

พร้อมโคมไฟระย้าที่ถูกเปิดจนสว่างด้วยฝีมือของแซ็ค เขายืนจังก้ามองหล่อนอยู่ข้างเตียง แล้วโน้มตัวลงมาใกล้ๆ เท้าแขนเข้าที่ขอบเตียง กระซิบบอกหล่อนว่า

“เมื่อกี้คุณทำผมเจ็บนะแวววี่”

“คุณลวนลามฉันก่อน” หล่อนพูดเสียงแข็ง พยายามกระถดกายถอยห่างอย่างหวาดหวั่น แต่ชายหนุ่มกลับขยับตัวตามมาเรื่อยๆอย่างใจเย็น

ราวสิงห์หนุ่มที่จ้องจะตะครุบลูกแกะที่น่ารัก

“คุณขัดใจผม ทางที่ดี...คุณไม่ควรขัดใจผมนะแวววี่ เรียกผมว่าแซ็คสิ” นิ้วยาวแข็งแรงเกลี่ยปลายคางเล็กไปมา พร้อมทิ้งสะโพกลงนั่งบนเตียงข้างๆแวววิวาห์

“ไม่ ฉันพอใจจะเรียกมิสเตอร์มาสเตอร์สัน”

“ดื้อ พยศ คงรู้ใช่มั้ยว่าผมจะจัดการกับคุณยังไง หากว่าคุณขัดใจผม” แซ็คถามเสียงเย็น นิ้วอุ่นๆแตะที่ริมฝีปากบางอย่างมีความหมาย ขณะที่หญิงสาวรีบสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น

“ถ้าจูบฉันอีก ฉันจะกัดลิ้นคุณ คราวนี้จะเอาให้ขาด ถ้าอยากเจ็บตัวก็ลองดูสิคะ” แวววิวาห์ท้าทาย แต่อีกใจก็นึกกลัวเขาจะเอาจริงอยู่เหมือนกัน ทว่าเขากลับบอกว่า

“อย่าลืมสิว่าตัวคุณไม่ได้มีแค่ริมฝีปากที่น่าหลงใหลเพียงอย่างเดียวนะ ส่วนอื่นของคุณ...ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน” ตาคู่คมหลุบลงมองทรวงอกอวบอิ่มในชุดเกาะอกสีขาว เล่นเอาหญิงสาวถึงกับหน้าแดงสลับกับขาวซีด รีบยกมือขึ้นปิดหน้าอกตัวเองโดยอัตโนมัติ

การขัดขืนผู้ชายคนนี้ในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเล่นกับไฟ หล่อนควรใจเย็นๆไม่ควรใจร้อนใส่เขาในเวลานี้ เพราะหล่อนกำลังเสียเปรียบเขาอยู่

เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว ปากอิ่มจึงคลี่ยิ้มอวดฟันขาว พร้อมพยักหน้ารับ

“ก็ได้ค่ะแซ็ค ฉันจะเรียกคุณว่าแซ็ค พอใจหรือยังคะ”

หนุ่มอเมริกันยิ้มที่มุมปากนิดๆ ก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ก็แค่นั้นแหละ ทำยึกยักอยู่ได้ตั้งนาน ผมจะออกไปนอกห้องล่ะ คุณจะได้อาบน้ำเตรียมพักผ่อน”

แซ็คหันหลังเตรียมออกจากห้อง เปิดช่องโหว่ให้หญิงสาวรีบวิ่งพุ่งเข้าใส่เขาทางด้านหลัง พร้อมแจกันที่ฉวยคว้ามาจากบนโต๊ะก็เตรียมทุ่มใส่ศีรษะเขา

แต่เพราะเขาระวังตัวอยู่แล้ว ทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าซอยถี่ๆเหมือนคนวิ่งตรงมา เขาก็รู้ทันจึงหันกลับมาแล้วจับข้อมือหล่อนบิดอย่างแรง

เพล้ง !

แจกันราคาแพงตกลงบนพื้นแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ขณะที่แวววิวาห์ตกอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม หล่อนตัวเย็นวาบ เป็นอีกครั้งที่รู้สึกถึงความกลัวที่แล่นวาบตลอดร่างเมื่อเสียงเข้มกระซิบพูดข้างหูอย่างดุดัน

“พยศจัดจริงๆ สงสัยคงต้องสั่งสอนให้อยู่ในโอวาทซะหน่อยแล้วมั้ง จะได้ไม่คิดลองดีกับผมแบบนี้อีก !”

แวววิวาห์ถูกเหวี่ยงลงบนเตียงกว้าง ก่อนที่ร่างสูงจะถาโถมกายเข้าใส่ร่างเล็กซึ่งดีดดิ้นเพื่อให้พ้นจากกำแพงกล้ามเนื้อแห่งบุรุษที่ทาบทับเนื้อตัวหล่อนทุกสัดส่วน ผิวสัมผัสผิว ลมหายใจร้อนๆที่เป่ารินรด ตาสีฟ้าที่เห็นในระยะประชั้นชิด...เป็นอีกครั้งที่แวววิวาห์รู้สึกกลัวจนแทบบ้าคลั่ง หล่อนกำลังจะถูกข่มขืนใช่ไหม แล้วท้ายที่สุด หล่อนจะถูกฆ่าตายหรือเปล่า

ความคิดของหล่อนส่งผ่านมาทางแววตาที่หวาดหวั่น จนชายหนุ่มถึงกับลอบกระตุกยิ้มอย่างสาใจ มือหนาจับข้อมือเล็กยึดไว้ ปัดปลายจมูกโด่งเข้าที่พวงแก้มใส ก่อนเอ่ยเสียงเฉียบ

“กลัวผมเหรอแวววี่ นั่นสิ ความจริงเวลานี้ควรเป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้อยู่กับเจ้าบ่าวตามลำพังในห้องหอ คงเจ็บใจมากสินะที่คนที่ได้สวมกอดคุณและอยู่แนบชิดคุณในคืนนี้กลับเป็นผู้ชายแปลกหน้าอย่างผม”

“เลว ! คุณเลวที่สุด เห็นแก่ตัว” หญิงสาวบริภาษด้วยน้ำเสียงลอดไรฟัน เล่นเอาอีกฝ่ายถึงกับหรี่ตาลงแล้วหัวเราะเบาๆ

“เลวงั้นหรือ ? ผมจะบอกอะไรให้นะคุณหนูแวววี่คนสวย มนุษย์เรา ต่อให้รวยหรือจน ผู้หญิงหรือผู้ชายก็มีความเห็นแก่ตัวเหมือนกันหมด บางทีก็เห็นแก่ตัวเองจนทำร้ายคนอื่นให้เจ็บปวด ผมเกลียดคนแบบนั้นที่สุด”

“แต่ตอนนี้คุณก็กำลังทำแบบที่คุณเกลียด ฉันเกลียดคนที่ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเองอย่างคุณที่สุด”

“งั้นคุณมีความสุขมั้ยล่ะที่ถูกผู้ชายที่ตัวเองเกลียดสวมกอดแบบนี้ หืม ?” กระซิบถามเสียงแผ่ว ก่อนขบติ่งหูเล็กเบาๆจนหญิงสาวขนลุกวาบ

“ฉันอยากฆ่าคุณมากกว่าจะรู้สึกมีความสุข”

“คุณคิดจะทำร้ายผม หากผมไม่ไหวตัวทัน ป่านนี้คงหัวแตกนอนจมกองเลือดไปแล้ว ผู้หญิงที่มีหนามรอบตัวอย่างคุณ ผมจำเป็นต้องจัดการ”

“จะ...จะ จะจัดการยังไงไม่ทราบ” หล่อนถามเสียงตะกุกตะกัก พยายามดันอกหนาให้ถอยห่าง แต่เขากลับไม่ขยับเลยสักนิด

“จัดการเด็ดหนามในตัวของคุณออกไง”

“จะให้ฉันอยู่เฉยๆรอให้คุณข่มขืนแล้วฆ่า หรือทำร้ายร่างกายเหรอไง ฉันไม่มีวันอยู่นิ่งๆเพื่อรอคอยโชคชะตาที่มองไม่เห็นอนาคตแน่ๆ ฉันจะสู้เพื่อตัวเอง” ดวงตากลมโตฉายแววขึงขัง จมูกโด่งเล็กเชิดขึ้น... สุดจะหักห้ามใจไหว แซ็คก้มหน้าลงสัมผัสกลีบปากนุ่มเย้ายวนเพียงผะแผ่ว ก่อนจะดึงหน้าตัวเองกลับแล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาหญิงสาว

“ตัวเกร็งเชียว ท่าทางคุณจะกลัวผมจริงๆ ผมมีข้อเสนอดีๆที่วินๆทั้งสองฝ่าย คุณอยากฟังมั้ย”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป