บทที่ 5 chapter 5
“ไม่ต้องกลัวนะไอซาย่า ฉันจะไม่ให้ใครหน้าไหน ทำอะไรเธอได้แน่นอน” อันเดซาอีบอกกล่าวคนรัก มือหนาทาบทับบีบกระชับมือนุ่มนิ่มเย็นเฉียบอย่างต้องการปลอบประโลม ทั้งที่ตัวเขาเองไม่แน่ใจเลยสักนิด จะทำอย่างคำพูดได้หรือเปล่า ในเมื่อรอบกายตอนนี้มีแต่ขุนโจรร้ายอยู่รายรอบพร้อมอาวุธครบมือ ขณะที่เขาไม่มีอะไรเลย
“ฮ่าฮ่า แกนี่มันไม่ดูน้ำหน้าตัวเองเลยนะไอ้หนูน้อย ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ยังไปห่วงคนอื่นอีก” ขุนโจรร้ายหัวเราะเสียงดังลั่น หันไปมองลูกน้องที่ทำหน้าที่ของตัวเองไม่ขาดตกบกพร่อง เหลือเพียงแค่เขา...
“ฉันว่าแกไปซุกอกกินนมแม่ดีกว่าไอ้หนูน้อย ส่วนแม่สาวน้อยแสนสวยนี่...เธอเป็นของฉันว่ะ”
“กรี๊ด!!” ไอซาย่าหวีดร้องเสียงหลง เพียงแค่พริบตานิดเดียวเท่านั้น กำแพงหนาที่ใช้เป็นเกราะกำบังกายอันตรธานลอยไปล้มคลุกฝุ่น มุมปากด้านหนึ่งปริแตกมีเลือดไหลซึมออกมา ในขณะที่ตัวเธอก็ลอยละลิ่วไปนั่งอยู่บนอาชาตัวใหญ่ มีแขนกำยำราวกับเหล็กกล้ารัดรอบลำตัว สองมือถูกจับมัดเอาไว้ด้วยมือหยาบเพียงข้างเดียว ด้วยอีกข้างนั้นถือปืนเล็งใส่อันเดซาอี!
“ไม่! ปล่อยฉันนะ! ซีกัลป์ช่วยด้วย!” ไอซาย่าหวีดร้องเสียงดังลั่น พร้อมพยายามไขว่คว้าหาคนรักให้มาพาตัวเองออกไปจากไอ้คนกักขฬะ แต่ก็ยังกลัวอันเดซาอีจะเป็นอันตรายอยู่เหมือนกัน
เมื่อต้องทนเห็นคนรักอยู่ในอ้อมแขนคนอื่นโดยเขาทำอะไรไม่ได้ อันเดซาอีอึดอัดคับแค้นใจจัดจนหน้าตาแดงคล้ำ มองสบตาโจรร้ายอย่างอาฆาตแค้น เหลียวมองไปรอบๆ เพื่อหาดูว่ามีอะไรพอที่เขาสามารถใช้ช่วยเหลือไอซาย่าได้บ้าง แต่ก็ยิ่งทำให้ขุ่นเคืองใจ ด้วยไม่มีอะไรเป็นอาวุธได้เลย
“ปล่อยฉันนะ!!”
เสียงหวีดร้องด้วยความกลัวของไอซาย่าจุดประกายเพลิงโทสะในกายหนุ่มน้อยจนร้อนรุ่มราวถูกไฟเผา
“ปล่อยเมียฉันนะไอ้สถุล!” อันเดซาอีคิดว่าเขาตวาดดังกึกก้องแล้ว ทว่าเสียงที่เปล่งออกไปกลับเบาหวิว เป็นเรื่องตลกให้ไอ้เจ้าโจรร้ายหัวเราะหยามหยัน
“เมียแกหรือ...แล้วทำไมถึงมาอยู่ในอ้อมกอดฉันได้ล่ะไอ้หนุ่ม” ขุนโจรร้ายเอ่ยพลางหัวเราะกลั้วคอ มองหน้าเจ้าบ่าวหนุ่มน้อยขณะกดใบหน้าแนบบริเวณซอกคอระหง
เมียรักถูกลวนลาม ไอ้โจรร้ายก็ยังจะหัวเราะเสียงดังก้องเยอะเย้ยตามมาอีก อันเดซาอีทนไม่ไหว แม้เขาจะด้อยกว่าในทุกทาง แต่ก็ไม่ได้ทำให้คิดยอมแพ้ ร่างสูงใหญ่พุ่งโผนไปข้างหน้าอย่างสุดตัว เพื่อช่วยตัวเจ้าสาวสุดที่รักจากอุ้งมือจอมโจรร้ายที่ตั้งหลักคอยรับอยู่แล้ว
เหมือนแก้วในหูสั่นสะเทือน เมื่อปลายกระบอกปืนฟาดไปที่ใบหน้าหล่อเหลาจนคนถูกทำร้ายถึงกับเห็นดาวลอยวิ้งๆ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวอันเดซาอีก็รู้สึกถึงแรงปะทะบนยอดอกจนเซถลาไปคลุกฝุ่น ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นช่วยดวงใจอย่างหวังไว้ก็ถูกรุมสกรัมด้วยเท้าอีกหลายครั้ง จนเขาคิดว่าอาจมีบางส่วนของร่างกายหัก แต่ชายหนุ่มไม่คิดยอมแพ้ รีบพาร่างกายบอบช้ำลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล
“ปล่อยไอย่านะ! ไอ้โจรบ้ากาม”
“แกนี่อึดจริงๆ ไอ้หนุ่ม แต่ถ้าฉันไม่ทำตามความต้องการล่ะ น้ำหน้าอย่างแกจะทำอะไรฉันได้” ขุนโจรร้ายถามอย่างดูถูกในความไม่ประมาณตนของหนุ่มน้อยตรงหน้า แล้วยังตอกย้ำฝังความโกรธแค้นซ้ำลงไป ด้วยการกดจมูกบนแก้มหอมนุ่ม พร้อมความเสียดายด้วยใบหน้าสาวน้อยมีผ้าบางขวางกั้นอยู่
ขุนโจรร้ายมองเจ้าบ่าวหนุ่มวัยกระเตาะที่ทำท่าทางง่ำๆ ฮึ่มๆ จะกระโจนใส่อย่างกับสุนัขจนตรอกที่ต้องสู้จนหลังชนฝาด้วยความหงุดหงิดระคนรำคาญใจ
“ไอ้เจ้าหนุ่มนี่มันรักเธอมากสินะเมียจ๋า” ฮิบรานเอ่ยกับคนในอ้อมแขนเสียงหวาน แต่ปลายสายตาเกรี้ยวกราดดุร้ายไปมองอันเดซาอีด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง
“ฉันไม่ค่อยชอบให้ใครมายุ่มย่ามกับข้าวของที่เป็นของฉันเสียด้วยสิ!” รักมากก็ต้องมีความพยายามมาก...ไอ้หนุ่มนี่ต้องตามรังควาญเขา เพื่อแย่งชิงสาวน้อยในอ้อมแขนนี้ไป ไม่มีทาง! อย่างนี้ควรตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมเสียจะดีกว่า
ทั้งที่รายรอบกายเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครมจากการหนีตายกันจ้าละหวั่น ไหนจะเสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดและตกใจ แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกเหมือนรอบกายเงียบสนิทไร้แม้กระทั่งเสียงลมพัด
“ซีกัลป์!!!”
เสียงของใสๆ ของใครบางคนก็ดังสอดแทรกเข้ามากระทบโสตประสาท พร้อมความเจ็บปวดกึ่งกลางทรวงอกก่อนแผ่ขยายไปทั่ว และเมื่อก้มดูก็ได้ว่าเสื้อสีขาวเริ่มมีสีแดงแต่งแต้ม ค่อยๆ ขยายจนใหญ่จนเสื้อที่ใส่เปียกชุ่ม ก่อนร่างหนาทรุดลงกองนอนบนพื้น ขณะที่สายตาจับจ้องมองไปที่ขุนโจรร้ายซึ่งตะโกนโหวกเหวกสั่งลูกน้องให้ล่าถอย พร้อมพาเอาดวงใจของเขาไปด้วย!
นี่สินะ...คำสาปที่โอซามุมอบให้ ความรักที่ไม่มีวันสมหวัง ดวงใจถูกพรากไปโดยที่เขาช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย แต่ไม่...เขาไม่มีวันยอมแพ้ ต่อให้ร่างกายต้องแหลกละเอียดเป็นผุยผงก็จะตามเอาหัวใจคืนมา
รอนะ...ไอซาย่า อดทนรอสักนิด ฉันจะรีบเอาความเจ็บนี้ออกไป แล้วจะตามหาเธอให้เจอ...ดวงใจของฉัน!
อันเดซาอียื่นไปไขว่คว้าร่างเล็กบอบบาง ที่ค่อยๆ ลอยหายไปจนลับและหนังตาที่ปิดลง เมื่อความเจ็บปวดแผ่ขยายไปทั่วร่าง พร้อมสติสัมปชัญญะที่ขาดหายไป!
“ไอซาย่า!!”
เสียงร้องดังออกมาจากคนที่นอนกระสับกระส่ายไปมาบนเตียงนอนใหญ่ ผวาลุกขึ้นพร้อมยื่นมือไปไขว่คว้า เพื่อจับรั้งแขนของหญิงในชุดสีขาวบริสุทธิ์ซึ่งถูกเงาสีดำกระชากพรากไปจากอ้อมอก ทว่าสิ่งที่ได้กลับคืนมากลายเป็นความว่างเปล่าจนใจหาย ที่มาพร้อมกับความจริงซึ่งเขาไม่อยากรับรู้…การสูญเสียคนรักไปอย่างไม่มีวันกลับ!
กรามหนาขบกัดจนแก้มตอบนูนขึ้นสัน นัยน์ตาเป็นประกายกร้าวแข็งเจิดจ้า เขาไม่อยากนอนหลับแม้แต่น้อย ทว่าร่างกายคนเรามิใช่เครื่องจักร ที่ยิ่งใช้การทำงานหนักเพื่อดึงเวลาคิดถึงหญิงสาวที่ถูกพรากไป เลยโดนประท้วงจนไม่รู้ตัวว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนจะต้องตื่นมาเพราะ...ฝันร้าย! คอยตามหลอกหลอนทุกครั้งที่หลับตาลง
ศีรษะทุยสะบัดส่ายไล่ความมึนงงออกไป พลางลุกขึ้นเดินไปหยุดที่หน้าต่าง ทอดสายตามองออกไปเบื้องนอก
