บทที่ 7 7
ชลลัมพีถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ผมจะพยายามหาทางออกไปก็แล้วกันริต้า แต่ว่าคุณต้องสัญญามาก่อนว่าวันนี้จะไม่โทรตามจิกผมแบบนี้อีก คุณก็รู้ว่าผมอยากให้งานแต่งงานกำมะลอนี่มันจบลงเร็วที่สุด น่าเบื่อจะตายแต่คุณก็รู้นี่ว่าคุณแม่สงสัยในตัวผมอยู่”
น้ำเสียงออดอ้อนเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงไม่พอใจ “เพราะแม่คุณคนเดียวใจร้ายไม่ยอมรับในตัวริต้า หาว่าริต้ามีอาชีพโชว์เนื้อหนังไม่เหมาะสมกับตำแหน่งสะใภ้ของตระกูล อัครเดชโภคิน แล้วทีนังป้าเลขาหน้าจืดนั่นล่ะคะมันมีอะไรดี หน้าตาก็งั้น ๆ อาชีพการงานหรือก็แค่เลขา แถมยังจะพ่วงความจนไว้อีกต่างหาก ริต้าคิดว่าแม่คุณคงมีปัญหาทางสายตา นี่หรือคะสะใภ้ผู้ดีที่ท่านต้องการนักคุณน่าจะให้ท่านไปเช็กสายตาบ้าง…ยังไม่ทันที่ริต้าจะพูดจบ
เสียงที่ดูเป็นกันเองของชลลัมพีเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างทันทีทันใด
“ริต้าคุณจะพูดอะไรก็พูดได้แต่อย่าพูดจาล่วงเกินแม่ผมเข้าใจไหมผมไม่ชอบจำไว้นะแม่ผมมีคนเดียว แต่ผู้หญิงผมมีใหม่ได้เสมอ” น้ำเสียงกระด้างนั้นบ่งบอกว่าไม่พอใจมากถึงมากที่สุด สำหรับเขาแม่มีคนเดียวส่วนเมียจะมีสักกี่คนก็ได้ตามที่พูดเพราะฉะนั้นเขายกคนเป็นแม่ไว้เหนือหัว
เธอพลาดไปแล้วด้วยความลืมตัว ริต้าเสียงสั่นเครือ “ขอโทษค่ะที่รักริต้าก็แค่น้อยใจไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิคุณหญิงแม่ของคุณสักนิดเลยค่ะ จริง ๆ นะคะพีขา” น้ำเสียงอ่อนลงราวกับจะร้องไห้นั้นทำให้ชลลัมพีไม่อยากจะต่อว่าต่อขานอะไรไปมากกว่านี้คิดว่าริต้าคงเสียใจมากก็เลยพลั้งปากพูดไป
“ช่างเถอะ วันหลังอย่าหลุดคำพูดแบบนี้ให้ผมได้ยินอีกก็แล้วกันผมไม่ชอบ”
น้ำเสียงกึ่งโกรธนั้นทำให้ริต้าอยากหยิกตัวเองรู้ทั้งรู้ว่าชลลัมพีรักและเคารพมารดาแค่ไหนถึงขนาดยอมทำในสิ่งที่เขาเคยพูดว่าเขาไม่คิดจะทำ ผู้หญิงของเขาทุกคนต้องไม่คาดหวังว่าจะได้เดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ เพราะเขาบอกกับสาวทุกคนว่าอย่าคาดหวังการแต่งงานกับเขาเพราะมันอาจไม่เกิดขึ้นตลอดชีวิตของเขาใครจะรู้ว่าเพราะชลลัมพีมีปมในใจเรื่องการแต่งงานมาก่อน
ริต้าเองก็ไม่ได้คาดหวังถ้าเขาคิดจะไม่แต่งงานกับใครเลยแค่มีเขาเป็นสปอนเซอร์กระเป๋าหนักจ่ายค่าขนมให้ทุกเดือน เดือนละแสนแบบทุกวันนี้เธอก็พอจะรับได้ในระดับหนึ่งแต่เมื่อรู้ว่าเขาต้องแต่งงานขึ้นมาจริง ๆ และผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เธอริต้าก็ไม่อาจจะทนได้แถมเสียหน้ามากเมื่อคนที่เขาเลือกจะแต่งงานด้วยคือยัยป้าเลขาที่เธอเคยหอบหิ้วขนมนมเนยไปฝากอยู่บ่อย ๆ เวลาแวะไปหาเขาที่บริษัทหวังให้เป็นคนคอยส่งข่าวเรื่องสาวๆ คนอื่นให้รับรู้
อีกประเด็นคนทั้งบ้านทั้งเมืองเขาก็รู้กันทั่วว่านางแบบอย่างเธอควงคู่อยู่กับใคร แม้ว่าชลลัมพีจะมีตุ๊กตาหน้ารถอยู่อีกก็ตาม แต่เขาก็ออกงานกับเธอมากที่สุดจนใครต่อใครคิดว่าเธอนี่แหละคือตัวจริงที่มีสิทธิ์จะเป็นสะใภ้ของอัครเดชโภคินมากที่สุด แต่นาทีนี้เขาแต่งงานสายฟ้าแลบไปแล้วจะไม่ให้เธอรู้สึกเสียหน้าได้อย่างไร
แม้ริต้าจะรู้จากปากของเขาว่ามันก็แค่หนังเรื่องยาวที่มีกำหนดจบเมื่อครบหนึ่งปีเพราะเขาถูกมารดาบังคับให้แต่งงานแต่ก็ทำใจลำบากเมื่อสามีตามพฤตินัยของเธอจะกลายเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของคนอื่นไปซะแล้ว
“เอาล่ะริต้า ตอนนี้ผมเหนื่อยและเมื่อยมากเหลือเกินอยากจะขอหลับเอาแรงสักงีบนั่งมือเปื่อยมาตั้งแต่เช้า คืนนี้ถ้าแวบไปได้รับรองผมไปแน่เพราะผมเมื่อยไปทั้งเนื้อทั้งตัวอยากให้คุณนวดใจจะขาด เตรียมน้ำส้มสดคั้นแช่เย็นไว้ให้ผมด้วยก็แล้วกัน”
“ได้ค่ะพีขา หนีออกมาจากห้องหอให้ได้นะคะริต้าจะรอคุณทั้งคืนค่ะ ถ้าคุณไม่มาริต้าจะไม่เข้านอน”
“ครับ ผมจะพยายาม อย่างอแงนะคนดี” ชลลัมพีกดวางสายพร้อมเสียงถอนหายใจเขาก็รับปากไปแบบนั้นก็ไม่มั่นใจนักหรอกว่าจะฝ่าด่านสัปปะรดพันตาอย่างมารดาของตนออกไปหาเธอได้ในคืนนี้
แต่ทว่าเสียงถอนหายใจของชลลัมพียังน้อยกว่าคนที่แอบส่งคนมาดักฟังในห้องแต่งตัวเจ้าบ่าว ซึ่งเมดวัยกลางคนแอบเข้าไปโทรศัพท์ในห้องน้ำเพื่อรายงานคุณหญิงชลัมพรอยู่ทุกระยะ ทุกคำพูดที่ได้ยินเจ้าบ่าวคุยโทรศัพท์
เพราะด้วยความสงสัยว่าเจ้าลูกชายตัวดีต้องมีแผนการแล้วมันก็เป็นจริง ดีล่ะนางจะทำไม่รู้ไม่เห็นไปก่อน แต่ก็ดีในเมื่อชลลัมพีเลือกเดินมาเข้าทางนางเอง บุษบาบัณนี่แหละจะทำให้ชีวิตโสดอันเสเพลของลูกชายนางเปลี่ยนไป
ชลลัมพีเพิ่งเห็นว่ามีเมดทำความสะอาดอยู่หลังม่านที่กั้นระหว่างโซนที่เขากำลังพักกับอีกส่วนหนึ่งที่เป็นมุมรับแขกแม้จะไม่ได้อยู่ใกล้ประชิดตัวแต่ด้วยความเงียบของห้องนี้อาจจะทำให้ได้ยินอะไรบ้างไม่มากก็น้อย เมดวัยสี่สิบกว่าที่ถูกจ้างมาทำดทีกวาดพื้นเสร็จก็รีบเดินออกไปจากห้อง ชลลัมพีมองตามอย่างจับผิด
