บทที่ 8 8
แม่เจ้าบ่าวหันไปสั่งเลขาที่พ่วงตำแหน่งนางต้นห้อง “ยัยเขมคืนนี้อย่าให้พลาด แม้แต่มดก็อย่าให้ออกมาจากห้องหอได้เข้าใจไหม” คุณหญิงชลัมพรยิ้มและสบสายตากับเลขาสาวประเภทสองที่จะคอยติดสอยห้อยตามคุณหญิงชลัมพรไปทุกที่ยกเว้น ห้องน้ำ ห้องนอน และบางช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม
“ได้ค่ะคุณหญิงขา เดี๋ยวเขมจัดหนักจัดเต็มให้เลยค่ะ” นางต้นห้องผู้พ่วงตำแหน่งเลขาประจำตัวของคุณหญิงชลัมพรในชุดเดรสสีขาวผ่าสูงเกือบถึงน่องกล่าวขึ้นแววตามาดหมายในแผนการที่วางอยู่ในหัว
“อ้อ แล้วก็อย่าลืมส่งภาพแต่งงานสวย ๆ ไปให้แม่ลูกสะใภ้เถื่อนของฉันที่คอนโดด้วยล่ะ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวเขมจะจัดให้หนักเอาให้สาหัส กว่าตอนที่แม่ริต้าไปแผลงฤทธิ์ไว้กับคุณนายเพียรศรีเพื่อนคุณหญิงเสียอีก”
“ดีมากแม่เขม เอ่อวันนี้หล่อนจะแต่งตัวสวยเกินไปไหมตั้งแต่เช้าเห็นเปลี่ยนชุดมาแล้วสองชุด แต่งสวยแค่ไหนก็ไม่ว่าแต่อย่าแย่งซีนลูกสะใภ้ฉันหมดล่ะ” คุณหญิงมองเลขาที่สวมชุดผ่าสูงชวนหวาดเสียวอย่างแซวกันเล่นมากกว่าจะถือเป็นจริงเป็นจัง
ปกติคุณหญิงชลัมพรไม่ลงมายุ่งกับเรื่องในมุ้งของลูกชายหรอก หากว่าผู้หญิงที่ลูกชายไปสานสัมพันธ์จะไม่ใช่นางแบบสาวที่เคยเป็นภรรยาน้อยของสามีเพื่อนคุณหญิงมาก่อน แม้นางจะเคยบอกเปรยกับลูกชายถึงเรื่องนี้ไปแล้วแต่ชลลัมพีดูเหมือนจะไม่เชื่อจนนางต้องวางอุบายให้ชลลัมพียอมแต่งงานเพราะยิ่งลูกชายสุดหล่อของนางอายุมากแทนทีจะหมดข่าวฉาวเรื่องผู้หญิง แต่กลับเป็นข่าวคาวฉาวรายวัน
แล้วมันก็เป็นตามที่นางคาดหมายพ่อลูกชายตัวดีไม่มีทางกระโจนลงบ่วงวิวาห์ง่าย ๆ หรอกมันต้องมีอะไรแอบแฝงเรื่องแค่นี้ไม่ยากที่จะสืบ แต่ที่น่ายินดีก็คือท่านได้สะใภ้ที่แอบเชียร์อยู่ในใจมาเนิ่นนาน ที่คุณหญิงชลัมพรเอ็นดูบุษบาบัณเป็นพิเศษนั้นสืบเนื่องมาจาก....ความลับที่ยากจะบอกใคร
เสียงแหลมของนางต้นห้องทำลายความคิดเสียก่อนจะหันไปปรายตามอง “คุณหญิงขา”
“ว่าไงยัยเขม”
“เขมมีอะไรดี ๆ จะนำเสนอค่ะ” จากนั้นเขมหรือเขมศรีเลขาและนางต้นห้องที่คุณหญิงให้พักอาศัยอยู่ร่วมบ้านก็หน้าระรื่นกระซิบบางอย่างที่ข้างหูคุณหญิง
ชลลัมพีต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำสระผมและมานั่งลงตรงโต๊ะหน้ากระจกภายในห้องแต่งตัวเพื่อให้ช่างจัดแต่งทรงผมเสียใหม่ให้สมกับเป็นเจ้าบ่าวที่พร้อมสำหรับงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในคืนนี้ มีหน้าตาดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่วันนี้เป็นวันพิเศษเขาต้องดูดีกว่าทุกวันคนเป็นแม่ย้ำนักย้ำหนาตั้งแต่เช้าก่อนออกจากบ้านว่าวันนี้เขาต้องดูดีที่สุดแล้วอย่าทำหน้าเบื่อโลกกับสิ่งที่เลือกเอง เหมือนรู้ว่าลึก ๆ เขาไม่ได้อยากแต่งงานจริงทั้งที่เขาพยายามแสดงออกมาให้ทุกคนในงานรับรู้ว่าดีใจแค่ไหนที่ได้แต่งงาน แล้วต่อไปนี้เขาก็จะต้องจดทะเบียนลิขสิทธิ์รับตุ๊กตาทาสมารับใช้แล้วนอนร่วมห้องด้วยกันเป็นเวลา 1 ปี
คืนนี้เจ้าบ่าวอย่างเขาต้องสวมชุดสูทสากล สูทสีขาวสุดหรูราคาแพงระยับที่นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ราคาไม่ต้องพูดถึงแต่แพงขนาดไหนขนหน้าแข้งของเขาก็คงจะไม่ร่วงหรอก
“วันแห่งการเดินเข้าสู่ประตูนรก เมื่อไหร่จะจบงานสักที” ชลลัมพีบ่นออกมาเบา ๆ มองชุดเจ้าบ่าวที่ถูกแขวนไว้อย่างเรียบร้อยไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องใส่มัน
“อุ๊ต๊ะ! ตายแล้ว คุณพีขาทำไมถึงพูดแบบนี้คะ เจ้าสาวออกจะสวยเริดขนาดนั้น” ช่างแต่งหน้าทำผมสาวประเภทสองผู้มีจริตจะก้านตีลงที่หัวไหล่ของชลลัมพีเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว ขนาดวัยย่างเข้าสี่สิบแต่หุ่นของผู้ชายที่ริชชี่กำลังจะทำผมให้นั้น แม้หนุ่มวัยยี่สิบกว่า ๆ ยังต้องอาย เมื่อชลลัมพีเดินไปหยิบชุดเจ้าบ่าวริชชี่ยังแอบมองตามพร้อมภาวนาให้ผ้าขนหนูผืนนุ่มสีขาวที่เขาพันไว้รอบเอวหลุดลงไปกองถ้าเป็นเช่นนั้นมันจะเป็นบุญตาของกะเทยหัวใจเปลี่ยวอย่างเธอแต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่หลุด นึกอิจฉาเจ้าสาวที่จะได้เต็มอิ่มกับผู้ชายสูงหล่อล่ำแบบพอดีๆ อย่างคุณชลลัมพีในคืนนี้
ชลลัมพีหันมามองช่างแต่งหน้าทำผมของตนที่สายตาของหล่อนมองเขาราวกับจะกลืนกิน “มองอะไร ออกไปได้แล้วผมอยากอยู่คนเดียว ไปสิออกไปมองอยู่ได้น่ารำคาญ” ชลลัมพีดุเสียงเครียดและมองด้วยแววตาขับไล่ จนช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองรีบวางไดร์เปล่าผมในมือและรีบออกไปพร้อมสีหน้ากระเง้ากระงอดที่อดอยู่กับคนหล่อสองต่อสอง
“หน้าตาก็ล้อหล่อ แต่ดุจริง ๆ แบบนี้ล่ะแต่งงานไปกลัวเมียหงอ” ริชชี่เดินออกไปอย่างสะบัดสะบิ้งพร้อมแอบบ่นหงุดหงิดที่ถูกเจ้าบ่าวไล่ออกมาแล้วทีนี้จะแต่งตัวเสร็จเมื่อไหร่
ชลลัมพีหยิบชุดเจ้าบ่าวมาสวมใส่และมองตัวเองในกระจก “เขาว่าเกลียดอะไรจะได้อย่างนั้นมันคงจะจริง ไม่อยากแต่งงานสุดท้ายก็หนีไม่รอด” เขาเกลียดการผูกมัดด้วยคำว่าแต่งงงานแต่วันนี้เขาไม่อาจปฏิเสธมันได้แม้นี่คือการแต่งงานจอมปลอมแต่ทุกอย่างก็เสมือนจริงไม่ใช่สิทุกอย่างมันจริงจับต้องได้ และเขาต้องจดทะเบียนสมรสกับบุษบาบัณจริง ๆ เป็นเวลาหนึ่งปี
