คนผิด

ในที่สุดรถก็เคลื่อนเข้ามาจอดในลานจอดรถ ที่เรียงรายไปด้วยรถหรูซึ่งส่องประกายอยู่ใต้แสงไฟยามเย็นอันนุ่มนวล หัวใจฉันเต้นระรัวอยู่ในอกขณะชำเลืองมองไปยังร้านอาหาร มันคือร้านอาหารมิชลินสตาร์แบบเอาต์ดอร์ที่ทุกอณูของมันอบอวลไปด้วยความเอ็กซ์คลูซีฟ ตัวร้านเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่โฉบเฉี่ยวกับแสงไฟอันนุ่มนวลชวนฝันซึ่งทำให้บรรยากาศดูเป็นส่วนตัวมากขึ้นแม้จะโอ่อ่าหรูหราก็ตาม โต๊ะต่างๆ ถูกจัดวางอย่างแม่นยำ แต่ละโต๊ะประดับด้วยเครื่องแก้วเป็นประกายวับวาวและชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารราคาแพง แม้จะมองจากลานจอดรถ ฉันก็ยังเห็นว่าทุกอย่างช่างดูพิถีพิถัน—ทุกรายละเอียดสมบูรณ์แบบ ราวกับแขกที่มาเยือนที่นี่เป็นประจำ

เครื่องยนต์ดับลง และคนขับรถก็ลงจากรถอย่างรวดเร็วแล้วเดินอ้อมมาทางฝั่งฉัน เขาเปิดประตูพร้อมกับโค้งคำนับอย่างเงียบงัน และฉันก็สูดหายใจลึกก่อนจะก้าวออกไป ทันทีที่เท้าแตะพื้น ฉันต้องข่มใจไม่ให้ตื่นตระหนกแล้วโบกแท็กซี่หนีไปจากที่นี่

ฉันล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วดึงบัตรเชิญสีดำออกมา—หนทางเดียวที่จะเข้ามาในสถานที่แบบนี้ได้ ฉันเหลือบมองหมายเลขโต๊ะที่พิมพ์ด้วยตัวอักษรที่เขียนไว้อย่างงดงามก่อนจะขยับตัวหลบเพื่อให้คนขับรถปิดประตู

“ผมจะรออยู่ตรงนี้ เผื่อคุณผู้หญิงเสร็จธุระเร็วนะครับ” เขาพูดพร้อมกับโค้งตัวเล็กน้อย

ฉันพยักหน้า “ขอบคุณค่ะ” ฉันพึมพำ รู้สึกว่าชีพจรของตัวเองเต้นเร็วขึ้นอีกครั้ง หลังจากสูดหายใจลึกอีกเฮือก ฉันก็หันหลังและเดินไปยังทางเข้าร้านอาหาร พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ประจำอยู่ตรงนั้นมองฉันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ฉันจะยื่นบัตรให้เขา สายตาของเขากวาดมองรายละเอียดบนบัตรอย่างรวดเร็ว แล้วจึงเอ่ยถาม “คุณมาพบใครครับ”

“คุณลูก้า คารูโซ่ค่ะ” ฉันตอบ พยายามบังคับเสียงให้มั่นคงแม้ว่าข้างในจะปั่นป่วนไปด้วยความประหม่า

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งบัตรคืนให้ฉันแล้วโค้งตัวเล็กน้อยพร้อมกับหลีกทางให้ “เชิญครับ คุณผู้หญิง”

ฉันพยักหน้าตอบ เป็นการแสดงความเคารพเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่ฉันจะทำได้ ฉันไม่แปลกใจเลย ชื่อของลูก้า คารูโซ่ไม่ได้มีแค่อิทธิพล แต่มันยังแฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม นี่คือชายที่อเลเซียหนีจากมา ชายที่เพียงแค่เอ่ยชื่อก็สามารถทำให้คนทั้งห้องเงียบกริบและตัวสั่นเทาได้ ทุกคนรู้ดีว่าเขาเป็นใคร เขาคือเหตุผลเดียวกันกับที่อเลเซียหนีไปกับคนรักของเธอ

ฉันถอนหายใจแล้วก้าวเข้าไปข้างใน ยื่นบัตรให้พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่ง เธอเกือบจะทำถาดที่ถืออยู่หลุดมือ ก่อนจะรีบวิ่งไปตามพนักงานอีกคน ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็กลับมาพร้อมกับอาการหอบหายใจแต่ยังคงคุมท่าทีไว้ได้ “เชิญตามดิฉันมาเลยค่ะ”

เธอพาฉันเดินผ่านส่วนหลักของร้านอาหารออกไปทางด้านหลัง ทันทีที่เราก้าวออกมาข้างนอกอีกครั้ง ฉันถึงกับหยุดนิ่งด้วยความตกตะลึง สวนดอกไม้เตี้ยๆ ทอดยาวอยู่เบื้องหน้า ถูกจัดไว้อย่างประณีตและสว่างไสวด้วยแสงไฟที่ซ่อนไว้ซึ่งทำให้กลีบดอกไม้เรืองรองอย่างนุ่มนวลในอากาศยามเช้า มีแม้กระทั่งสระน้ำเล็กๆ ที่ผืนน้ำนิ่งสงบสะท้อนแสงอาทิตย์ มันให้ความรู้สึกเหมือนก้าวเข้ามาในอีกโลกหนึ่ง โลกที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว และสวยงามจนน่าใจหาย

พนักงานเสิร์ฟพาฉันไปที่บันไดเตี้ยๆ ตรงทางเข้า มีองครักษ์สองคนยืนตัวตรงแน่วอยู่สองข้างทาง สีหน้าของพวกเขาเรียบเฉยจนอ่านไม่ออก แต่แค่การปรากฏตัวของพวกเขาก็ทำให้ท้องของฉันบีบเกร็งด้วยความไม่สบายใจ พนักงานเสิร์ฟหยุดชั่วครู่ “เขาอยู่ข้างในค่ะ ดิฉันต้องขอตัวก่อน” เธอพูดโดยไม่สบตาฉัน ก่อนจะรีบเดินจากไปโดยไม่รอคำตอบ

ฉันสูดหายใจลึก รวบรวมสติ แล้วเดินเข้าไปหาองครักษ์คนหนึ่ง ดวงตาของเขาสบกับตาฉัน แข็งกร้าวและเย็นชา ราวกับจะบดขยี้ฉันได้ด้วยสายตาเพียงครั้งเดียว ฉันบังคับเสียงตัวเองให้สงบนิ่ง

“ฉันมาขอพบคุณคารูโซ่ค่ะ” ฉันพูด

เขามองสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ดวงตาหรี่ลงราวกับกำลังประเมินฉันทุกกระเบียดนิ้ว “เธอเป็นใคร” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคำสั่งมากกว่าคำถาม

“วาเลนติน่า เด ลูก้า ค่ะ” ฉันตอบ “ฉันคือคนจากตระกูลเด ลูก้า เขาได้รับแจ้งเรื่องที่ฉันจะมาแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็พยักหน้า แต่ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉย “รอตรงนี้” เขากล่าว ก่อนจะหันหลังแล้วเดินขึ้นบันไดเล็กๆ หายเข้าไปในพื้นที่เปิดโล่ง ฉันพอจะมองเห็นพื้นที่ที่มีหลังคาคลุมอยู่เบื้องหน้า ซึ่งมีทางเข้ากว้างเปิดโล่งสู่สวน ที่ซึ่งองครักษ์คนที่สองกับฉันยืนอยู่ในความเงียบ

ฉันสูดหายใจลึกอีกครั้ง มือสั่นเล็กน้อยขณะกำกระเป๋าไว้แน่น ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ

แค่ปีเดียวเท่านั้น ปีเดียวแล้วฉันก็จะเป็นอิสระจากเรื่องนี้

แต่แม้จะพูดอย่างนั้น ฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าหนึ่งปีจะรู้สึกยาวนานแค่ไหนภายใต้น้ำหนักของสัญญาแบบนี้

ขณะที่ยืนอยู่ตรงนั้น ฉันก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยให้ความคิดล่องลอยไป ฉันพยายามจินตนาการว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องไปอยู่กับลูก้า คารูโซ่ ชายที่ฉันได้ยินเรื่องซุบซิบมามากมายแต่ไม่เคยเห็นหน้า ในสัญญาไม่ได้ระบุอายุของเขาไว้ แต่ฉันก็คาดเดาไปเอง จากข่าวลือ เรื่องเล่าอันน่าสะพรึงกลัว และวิธีที่ผู้คนพูดถึงเขา ฉันต้องเชื่อว่าเขาแก่แล้ว

เขาต้องแก่แน่ๆ

ผู้ชายประเภทเขา—ผู้ชายประเภทที่จัดการแต่งงานผ่านสัญญา โดยมีอำนาจและเงินทองเป็นเดิมพัน—ไม่มีทางเป็นคนหนุ่มสาว ในหนัง ในข่าวลือ มักจะเป็นชายแก่บางคนที่มีอิทธิพลล้นฟ้าแต่ไร้ซึ่งความอบอุ่น ใครบางคนที่กำลังมองหาภรรยาด้วยเหตุผลที่ฉันไม่อาจคาดเดาได้ บางทีอาจเพื่อทายาท หรือเพื่อการควบคุม ไม่ว่าจะทางไหน ฉันก็ได้เตรียมใจรับมือกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดแล้ว นั่นคือชีวิตเคียงข้างชายที่แก่กว่าฉันมาก คนที่มองฉันเป็นเพียงหมากอีกตัวหนึ่งในอาณาจักรธุรกิจของเขา

ฉันจ้องมองพื้นหินขัดมันใต้ฝ่าเท้า พยายามข่มความหวาดหวั่นที่ก่อตัวขึ้นในช่องท้อง ฉันจะใช้ชีวิตแบบนั้นได้จริงๆ หรือ ฉันจะทนอยู่หนึ่งปีโดยผูกมัดกับคนที่ไม่เห็นฉันเป็นอะไรมากไปกว่าเครื่องมือสู่เป้าหมายของเขาได้หรือ

ก่อนที่ฉันจะจมดิ่งลงไปในความคิดลึกกว่านั้น องครักษ์คนเดิมก็กลับมา สีหน้าของเขายังคงเหมือนเดิม—เย็นชาและไร้ความรู้สึก—และน้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้ช่วยให้ความวิตกกังวลของฉันลดลงเลย

“เข้าไปได้แล้ว” เขาพูด

ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ จัดชุดให้เข้าที่ แล้วก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัว แต่ทันทีที่ฉันก้าวเข้าไปข้างใน แล้วเดินไปยังร่างของคนที่อยู่ใกล้โต๊ะสำหรับสองที่ ผู้ชายที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงนั้น ไม่ใช่คนที่ฉันคาดหวังไว้เลยแม้แต่น้อย

เขาไม่ใช่ผู้ชายคนที่ฉันเตรียมใจไว้ว่าจะต้องเจออย่างแน่นอน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป