บทที่ 2 Chapter 2
ประเทศไทย
'‘คุณกายค่ะ คุณกาย คุณกายอย่าเป็นอะไรนะคะ ฮือ..ฮือ”
เสียงสะอื้นไห้ของสตรีสาวสวยคนหนึ่งดังขึ้นหน้าห้องฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ไม่เพียงแค่เสียงของเธอเท่านั้น เสียงของ คุณหญิงมัลลิกาผู้เป็นมารดาของชาญวิทย์ก็ดังไม่แพ้กัน โดยข้างกาย ของนางมีร่างของรัฐมนตรีชาญณรงค์ผู้เป็นสามีปลอบประโลมไม่ห่าง
เวลาช่างผ่านไปนานเหลือเกินในความรู้สึกของบุหลัน ทั้งๆ ที่ ชาญวิทย์เพิ่งเข้าไปในห้องฉุกเฉินได้เพียงสิบนาทีเท่านั้น คนที่รอคอย ต่างหัวใจเจียนสลายกันแทบ'ทุกคน
“คุณหมอคะ ลูกชายของดิฉันเป็นยังไงบ้างคะ?”
การรอคอยของทุกชีวิตที่อยู่หน้าห้องจบสิ้น เมื่อประตูห้อง ฉุกเฉินถูกเปิดออก ร่างของนายแพทย์เจ้าของไข้เดินออกมา และนั้นทำ ให้คุณหญิงมัลลิกาโผวิ่งเข้าไปถามไถ่อาการของลูกชายทันที
“ปลอดภัยแล้วครับ พักดูอาการที่นี่ต่ออีกสักสองสามวันนะครับ รอให้หมอเช็คร่างกายของคุณกายให้ละเอียดก่อน หากไม่มีอะไรน่าเป็น ห่วงผมจะให้คุณกายกลับบ้านได้ครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ”
มัลลิกากล่าวขอบคุณนายแพทย์ด้วยความดีใจ หัวอกของคน เป็นแม่พองโตขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้ว่าลูกชายของตนปลอดภัย
“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ ขอตัวก่อนนะครับ”
นายแพทย์ขอตัว ก่อนจะเดินออกห่างห้องฉุกเฉินหลังจากหมด หน้าที่
“คุณหญิงป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ คุณกายปลอดภัยแล้วค่ะ”
บุหลันเดินมากุมมือของมัลลิกาพร้อมกับพูดให้อีกฝ่ายคลาย ความกังวลใจ ซึ่งเธอเองก็เพิ่งปลดแอกความรู้สึกนั้นไปแล้ว เมื่อได้ยิน คำพูดของนายแพทย์
“จะให้ป้าหมดห่วงได้ยังไง ในเมื่อกายยังเป็นอยู่แบบนี้ ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่จะหายชักที”
นางพูดด้วยนั้าเสียงสั่นเครือตราบใดที่ลูกชายยังไม่หายขาด นางคงถูกจองจำด้วยคำว่าเป็นห่วงไปจนชีพวาย ชาญวิทย์เป็นลูกคนโต ของตระกูลโยธินบรูภัทร เป็นทายาทที่จะสืบสานธุรกิจรีสอร์ททางเหนือ และทางใต้ของครอบครัว อีกทั้งชาญณรงค์ผู้เป็นพ่อยังหวังจะให้
ชาญวิทย์เดินตามรอยเท้าตน เล่นการเมืองดั่งที่ต้นตระกูลเคยปฏิปติมา
แต่ทว่าความหวังทั้งหลายสะดุดอยู่กลางคัน เนื่องจากชาญวิทย์ ป่วยด้วยโรคเนี้องอกในสมอง โรคที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกชาย เนี้อ งอกนี้ยังไม่เข้าข่ายเป็นมะเร็ง แต่ต้องรีบกำจัดมันทิ้งไปก่อนที่จะลุกลาม กลายเป็นมะเร็งร้าย โรคที่รักษาให้หายขาดได้ยากยิ่ง
การผ่าตัดนำเนี้องอกออกในครั้งแรกพวกเขาคิดว่าน่าจะ หายขาด ปรากฏว่าอีกหกเดือนต่อมา เนี้องอกก็เกิดขึ้นอีกครั้งแน่นอน ที่ว่าจะต้องตัดมันทิ้งเหมือนครั้งก่อน และงอกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ผลข้างเคียงในการผ่าตัดทำให้ความจำของชาญวิทย์สั้นลง มีอาการ ฉุนเฉียวบ่อยครั้ง
และสิ่งที่สองสามีภรรยาหนักใจมากที่สุดคือ เรองทายาท หาก ชาญวิทย์เป็นอยู่อย่างนี้ คงไม่มีทางมีทายาทสืบทอดตระกูลเป็นแน่แท้ ข้อนี้เองที่นำความกลัดกลุ้มมาให้กับพวกเขาไม่น้อย แต่ทว่าในความ กลัดกลุ้มยังมีทางออกเสมอ
“คุณกายต้องหายค่ะคุณหญิงป้า ต้องหายค่ะ” เธอพูดอย่างมี ความหวัง
“แล้วเรื่องที่เราคุยกันไว้ล่ะ จันทร์จะว่ายังไง ให้คำตอบป้าได้ หรือยัง?”
คนที่ถูกถามอึ้งไปชั่วขณะเมื่อได้ยินคำถามที่บาดหัวใจสาว เรอง ที่ว่านั้นก็คือ ชาญณรงค์และมัลลิกาขอร้องให้เธอแต่งงานกับชาญวิทย์ เพื่อที่จะได้มีทายาทสืบสกุล คำขอร้องของผู้มีพระคุณทำให้เธอตกใจ และอึ้งไปในคราวเดียวกัน ตามติดมาด้วยความหนักอึ้งของหัวใจ
มันเป็นการตัดสินใจที่ยากยิ่งสำหรับบุหลัน พระจันทร์ที่แสน สวยงาม เธอจะแต่งงานกับชาญวิทย์โดยที่ไม่มีความหนักใจ ไม่มีความ เสียใจเลย หากเธอไม่มอบหัวใจให้ใครคนหนึ่งไปแล้ว และที่สำคัญ ร่างกายก็ตกเป็นของเขาคนนั้นแล้วด้วย
หากไม่ทำตามร้องขอ บุหลันก็จะกลายเป็นคนอกตัญณูไป ในทันที เนื่องจากตระกูลโยธินบรูภัทรมีบุญคุณกับเธอมาก จะพูดได้ว่า เธอและครอบครัวเป็นทาสรับใช้ตระกูลนี้มาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุ คน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นชาญณรงค์กับมัลลิกาไม่ได้เร่งรัดอะไรเธอ เพราะท่าน ทั้งสองรู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยากยิ่ง
สาเหตุที่มัลลิกาเลือกบุหลันมาเป็นลูกสะใภ้ มากกว่าเลือก ลูกหลานของคุณหญิงคุณนายคนในระดับเดียวกับนาง เป็นเพราะหญิง สาวรู้วิธีปฐมพยาบาลหากชาญวิทย์ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน รู้จักวิธีดูแล ลูกชายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรองอาหาร เรองยา อีกทั้งบุหลันยังเป็นเด็ก ในปกครองควบคุมง่าย และที่สำคัญที่สุดชาญวิทย์รักบุหลัน ด้วยเหตุผล หลายประการทำให้นางและสามีเลือกบุหลันมาเป็นลูกสะใภ้ เลือกมา เป็นแม่ของหลานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“ว่าไงจันทร์ จะให้คำตอบป้าได้หรือยัง?”
นางถามอีกครั้ง นางเองก็ไม่ต้องการบีบคั้นบุหลันมากเกินไป แต่ทว่าวันนี้มัลลิกาจำต้องพูดออกไป เนื่องจากอาการของชาญวิทย์เรม แย่ลงทุกวัน นางกลัวว่าหากช้าไปกว่านี้ อาจจะสายเกินไป บุหลันตกอยู่ ในสภาวะกดดันอีกครั้ง หนึ่งเดือนมาแล้วที่ผู้มีพระคุณพูดเรองนี้กับเธอ หากแต่เธอบ่ายเบี่ยงมาตลอด วันนี้คงจะทำเช่นนั้นไม่ได้แล้ว อาการของ ชาญวิทย์ไม่ล้ดีนักในรอบหนึ่งสัปดาห์มานี้ บุหลันกำลังคิดไม่ตกว่าจะ เลือกสิ่งใดระหว่าง
ความรักกับความกตัญญ
“ค่ะคุณหญิงป้า จันทร์ตกลงแต่งงานกับคุณกายค่ะ”
และแล้วเธอก็เลือกความกตัญญ รอยยิ้มของมัลลิกาเฉิดฉาย เต็มดวงหน้า คำตอบนี้เองที่นางรอคอยมานานหนึ่งเดือน ในที่สุดฝันก็ เป็นจรงเสียที
“ขอบใจมากนะจันทร์ป้าขอบใจจันทร์มากๆ”
มือที่ยังเต่งตึงของคุณหญิงมัลลิกาเอื้อมมากุมมือของบุหลัน พร้อมกับขอบใจในคำตอบที่นางได้รับ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณหญิงป้า มันเป็นหน้าที่ของจันทร์อยู่แล้วค่ะ”
เธอตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ ราวกับว่าคำตอบที่เอ่ยออกไปนั้น เป็นความต้องการของตนเอง เปล่าเลย...หัวใจดวงน้อยๆ กำลังชํ้าชอก อย่างหนักกับคำตอบที่เปล่งออกไป แต่ต้องกืเนทนความรู้สึกทั้งหลาย เอาไว้ เพียงเพื่อคำว่ากตัญณู
