บทที่ 6 สารเสพติดชนิดร้ายแรง
เวลา 18.00 น. รถยนต์ประจำตัวของมารุตแล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์จิรประทีปต์ โยษิตาพร้อมสาวใช้จึงก้าวออกมารอต้อนรับเพราะได้รับคำสั่งว่าแขกพิเศษเดินทางมาถึงก่อนกำหนด
ทันทีที่ร่างของทั้งคู่ก้าวออกมายืนเคียงข้างกัน แววตาคู่งามของโยษิตาก็ไหววูบ หากเมื่อได้สบตาคมเข้มของมารุตดวงตาคู่งามจึงหลุบลง แล้วหันไปพยักหน้ากับสาวใช้รุ่นน้องให้ช่วยกันขนกระเป๋าของสาวสวยซึ่งหล่อนมั่นใจว่าเป็นแขก ‘พิเศษ’ ของมารุตนำไปเก็บที่ห้องรับรองแขก
“บ้านคุณสวยจังค่ะ” ณิชาเปรยขณะกวาดสายตามองไปรอบๆ คฤหาสน์ของคนข้างกาย แล้วยกมือขึ้นกอดแขนเขาเอาไว้พลางหยุดชะงัก มองสาวสวยที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าของตนและมารุต
“แม่บ้านน่ะ” เขาบอกยิ้มๆ แต่สายตาไม่คลาดจากใบหน้าเนียนที่เชิดขึ้นน้อยๆ ทันทีที่เขาแนะนำหล่อนเช่นนั้นกับเพื่อนคนพิเศษของเขา
“อุ๊ย! แหม ที่นี่คัดหน้าตาแม่บ้านด้วยหรือเปล่าคะรุต ถึงได้สวยขนาดนี้” ณิชากวาดตามองและยอมรับกับตนเองว่าแม่บ้านของมารุตสะดุดตาหล่อนเหลือเกินไม่ใช่แค่สวยหรอก แต่บุคลิกคนตรงหน้าเรียกว่า ‘สง่า’ เลยก็ยังได้ เพราะใบหน้าเรียวสวย เครื่องหน้าละมุน ลำคอบ่าไหล่ตั้งตรง หุ่นแบบนี้ไม่น่ามาเป็นแม่บ้านเลยสักนิด
มารุตหลุบมองสายตาของณิชายิ้มๆ ก่อนจะเอ่ยแนะนำคนข้างกายให้โยษิตารู้จัก
“รู้จักคุณณิชาเสียสิ เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง”
โยษิตาเลื่อนสายตาไปหยุดที่สาวสวยนามว่าณิชา รอยยิ้มปรากฏขึ้นพร้อมกับยกมือไหว้อีกฝ่ายตามหน้าที่
“ยินดีต้อนรับค่ะคุณณิชา ดิฉันเตรียมห้องเอาไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้วค่ะ”
ณิชาหันไปสบตาชายหนุ่ม ก่อนจะยิ้มหวานให้เขาแล้วแขย่งปลายเท้าขึ้นพร้อมกับจูบแก้มสากของชายหนุ่มหนักๆ จนคนที่ยืนมองต้องหลุบตาลงต่ำ มองเพียงปลายเท้าของตน หัวใจกระตุกวาบ ความเจ็บแปลบค่อยๆ แทรกซ่านเข้ามาในใจ
“งั้นณิขอตัวก่อนนะคะ อยากอาบน้ำด้วย” ณิชากระซิบบอกเขาเบาๆ ราวกับสิ่งที่พูดออกมาจะไม่มีใครล่วงรู้นอกจากเขา ทว่าโยษิตาได้ยินเต็มสองหู…
มารุตหลุบตามองแม่บ้านสาวของตน ก่อนจะยิ้มให้ณิชาแล้วหันมาสบตาแม่บ้านของตนอีกครั้ง
“ช่วยพาคุณณิไปส่งที่ห้องพักด้วย”
ณิชาหันไปมองโยษิตา อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นยิ้มให้แขกพิเศษของมารุต
“เชิญทางนี้ค่ะ” บอกพลางก้าวนำสาวสวยเข้าไปภายในคฤหาสน์ โดยมีสายตาของมารุตมองตามจนลับตา
ที่ห้องรับรองแขก…
“ได้ข่าวว่าแขกคนพิเศษมาถึงแล้วหรือคะคุณรุต” วารุณีก้าวมาดักหน้าร่างสูง ห่างกันไปเพียงไม่กี่ก้าว ทำให้มารุตต้องหยุดนิ่ง
“ใช่”
วารุณีมองเครื่องหน้าคมคายและหยุดนิ่งที่ริมฝีปากได้รูปของเขา ขยับเข้าไปใกล้ ยกมือหมายจะแตะบนใบหน้าเข้ม ทว่าร่างสูงขยับถอยหลัง สีหน้าเรียบขรึม ดวงตาที่มองหล่อนแสดงออกถึงความดูแคลนอย่างชัดเจน
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัว” พูดจบร่างสูงก็เดินผ่านหน้าวารุณีไปทันที ทำให้หญิงสาวหมุนตัวมองตามเขาด้วยสายตาวาววับ แต่เพียงครู่เดียวแววตากราดเกรี้ยวก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหม่นหมอง
ภายในห้องนอนของแขกคนพิเศษ โยษิตายืนกุมมือนิ่งอยู่ที่กลางห้อง ปล่อยให้ณิชาก้าวไปสำรวจรอบๆ ด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“ขอบใจนะที่ช่วยจัดห้องให้ฉัน” หันมายิ้มให้แม่บ้านสาวสวย ที่มองอย่างไรก็ไม่น่าจะเป็นเพียงแม่บ้านธรรมดาๆ เลยสักนิด
“ยินดีค่ะ เชิญคุณณิชาพักผ่อนตามสบายนะคะ หากต้องการสิ่งใดเพิ่มเติม กดกริ่งเรียกได้เลยค่ะ”
โยษิตาก้าวไปหยุดที่กริ่งซึ่งถูกติดตั้งเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียง
“จ้ะ งั้นฉันขออาบน้ำก่อนแล้วกัน” พูดจบณิชาก็ตรงไปยังตู้เสื้อผ้า ที่มีเสื้อผ้าของหล่อนถูกจัดเรียงเอาไว้เรียบร้อยโดยสาวใช้ก่อนหน้านี้ โยษิตามองสาวสวยอีกแวบหนึ่งก่อนเลี่ยงออกมาจากห้องพักรับรองแขกสาว
ร่างบางก้าวเข้าไปในครัวด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง บอกไม่ถูกว่าอะไรมากกว่ากันระหว่างความเจ็บปวดและความว่างเปล่าที่พยายามสร้างขึ้นให้ชินกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้
แม่ครัวอายุสี่สิบห้าเงยหน้าขึ้นจากเนื้อหมูที่กำลังหั่น
“มีอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าคะคุณโย ถ้ามีบอกป้าได้เลยนะ ป้าจะได้เตรียมของ” ประนอมบอกด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม โยษิตามองตาอีกฝ่ายแล้วยิ้มตอบ
“ไม่มีหรอกจ้ะป้า ไหมจ๊ะ ช่วยเตรียมน้ำส้มคั้นแล้วนำขึ้นไปให้คุณณิชาบนห้องด้วยนะ” หันไปบอกกับไหมที่กำลังช่วยแม่ครัวหั่นผักอยู่ใกล้ๆ
“ได้ค่ะพี่โย” พูดจบก็ผุดลุกตรงไปยังตู้เย็น จัดการรินน้ำส้มคั้นใส่แก้ว เตรียมยกขึ้นไปให้กับแขกสาวคนพิเศษของมารุต โยษิตามองฝ่ายนั้นจนก้าวออกจากห้องครัวจึงนั่งลงแทนที่ แล้วลงมือช่วยแม่ครัวหั่นผัก
“คุณโยไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวไอ้ไหมมันก็กลับมาแล้ว”
โยษิตาได้รับความรักจากทุกคนในบ้านตั้งแต่สมัยที่คุณผู้หญิงคนเก่ายังมีวิตอยู่ และสั่งให้ทุกคนเรียกขานหล่อนด้วยถ้อยคำสุภาพมาตั้งแต่นั้น และความน่ารักรู้ตัวดีของเด็กน้อยทำให้ทุกคนไม่มีใครรังเกียจ ยิ่งเกิดความสงสารเมื่อบิดาของหล่อนต้องเสียชีวิตไป และถูกวางตัวให้เป็นคนดูแลบ้านแทนแม่บ้านคนเก่าที่เสียชีวิตลงด้วยโรคชราทันทีแม้หลายคนจะรู้ดีว่าหญิงสาวมีความต้องการออกจากคฤหาสน์จิรประทีปต์มากเพียงใด แต่เมื่อประมุขของบ้านไม่อนุญาต โยษิตาจึงไม่อาจไปไหนได้ตามที่ใจปรารถนา
