บทที่ 1 บทนำ

ณ.ผับหรูใจกลางเมือง ตึกใหญ่สามคูหา ที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก ด้านล่างนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติกำลังสนุกสนาน ทั้งเต้นทั้งดื่ม

อคิน บูระกิจ เจ้าของผับหรูที่ตอนนี้เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเอง ก่อนสบถออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

“ฝีมือใคร” พลางนึกไปถึงแก้วสีอำพันที่ตัวเองเพิ่งดื่มไปตอนนั่งที่เคาเตอร์บาร์ด้านล่าง ก่อนที่จะได้สั่งให้คนสนิทควานหามือคนทำ อยู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขี้น

“ใคร”

“เอ่อ ผู้จัดการให้เอาเครื่องดื่มมาให้ค่ะ” นิ่ม หรือ วิลาสินี ลักษณ์วงศ์ สาวน้อยในวัยเบญจเพส บอกออกไป

“เข้ามา” เสียงจากในห้องเอ่ยอนุญาตทำให้ร่างบางค่อยๆ เปิดประตูเข้าไป แต่แล้วอยู่ๆ ก็มือหนาคว้ามาที่แขนโดยไม่สนใจว่าถาดเครื่องดื่มจะร่วงแตก

ร่างบางที่ลอยหวือเข้าปะทะกับอกแกร่ง ถึงกับยืนนิ่ง ก่อนละลำละลักเอ่ยปากออกไป

“คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ”

“ฉันแค่เอาเครื่องดื่มมาให้แทนพี่ลิฟท์” ร่างบางพูดออกไปตามความจริง ใช่ที่จริงคนที่ควรจะเอาเครื่องดื่มขึ้นมาห้องนี้ได้ต้องมีคำสั่งจากเจ้าของผับและผู้จัดการเท่านั้น อยู่ๆ ลิฟท์ที่โดนลูกค้าเรียก ก็หันมาบอกเธอให้เอาเครื่องดื่มขึ้นมาส่งที่ห้องVIPแทน

“ฉันไม่ได้เป็นคนสั่งให้เอาขึ้นมา อ้อ นี่เธอคงจะสมรู้ร่วมคิดกับยายนั่นสินะ”

“แต่แปลกนะ ทำไมยายนั่นไม่เข้ามาดูผลงานด้วยตัวเองล่ะ” อคินที่ตอนนี้กำลังอดกลั้นอย่างหนักเพราะฤทธิ์ยาที่โดน ประกอบกับร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขน มีกลิ่นแป้งเด็กหอมอ่อนๆ ทำให้คนตัวโตสูดความหอมเข้าเต็มปอด

“แต่ก็ดีต่อให้เข้ามาฉันก็แตะไม่ลง” อคินที่ตอนนี้พยายามตั้งสติก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนในอ้อมแขน วงหน้าหวาน ผมหยักโศกที่ทำให้คนตรงหน้าดูเย้ายวนโดยไม่ต้องทำอะไรเลย

“ส่วนเธอ นี่คือบทลงโทษของคนที่สมรู้ร่วมคิด” ร่างบางถึงกับตะลึงเมื่อได้ยินคนตัวโตพูดจบ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อคนตัวโตโยนเธอลงบนเตียงกว้างที่อยู่อีกห้องนึง

“คุณ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่รู้เรื่อง ฉันทำตามหน้าที่ของฉันเท่านั้น” ร่างบางละล่ำละลักพูดออกไป

“อย่าเสียเวลาดีกว่า” เสียงรูดซิปกระโปรงดังขึ้นนิ่มถึงกับดิ้นหนีมือหนาที่พยายามจะดึงกระโปรงให้หลุดพ้นจากขาเรียว ก่อนจะเงยหน้ามองคนตัวโตด้วยสายตากรุ่นโกรธ

“อย่าดิ้นให้เหนื่อยเลย” อคินยื่นมือไปลูบที่กรอบหน้าหวานที่พราวไปด้วยเหงื่อและคราบน้ำตา ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรง

“หึ รู้ไหมยิ่งเธอทำแบบนี้ ฉันยิ่งชอบ ดูสิจะพยศได้นานแค่ไหน” อคินที่เห็นท่าทางของคนใต้ร่าง เพราะเป็นคนชอบเอาชนะ ยิ่งมาเจอแบบนี้ ยิ่งทำให้คนอย่างเค้าถูกใจ ก่อนจะก้มลงไปที่ริมฝีปากสีสด ค่อยๆ บดจูบขบเม้มทีล่ะนิด มือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างบาง เพราะฤทธิ์ยาทำให้อคินเองก็ทนได้ไม่นาน จนเมื่อความอดทนสิ้นสุดลง มือหนากระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ร่างบางสวมอยู่จนกระดุมกระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง ก่อนจะก้มลงไปสูดความหอมที่อกอิ่ม ริมฝีปากหนากดจูบไปทั่วพร้อมฝากรอยสีกุหลาบไปทั่วอกอิ่มก่อนจะเอื้อมมือไปปลดตะขอหลังอย่างชำนาญ

นิ่มถึงกับผวาก่อนจะพลิกตัวหันหลังหนีเพื่อให้พ้นจากสายตาคมที่มองไปทั่วร่างก่อนจะพยายามเขยิบหนีจนชิดหัวเตียง

อคินที่ปล่อยให้ร่างบางถอยหนี ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างถูกใจเมื่อเจอเข้ากับดวงตาหวานที่มองมาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ

“อย่าหนีให้เหนื่อยเลย ห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวของฉัน ถ้าฉันไม่อนุญาตใครก็เข้ามาไม่ได้”

“ฉันไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คุณว่า คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องเจ้าของผับนะ” อคินเมื่อได้ยินร่างบางพูดถึงตัวเองก็ได้แต่ยิ้มอย่างถูกใจ

“หมดเวลาเล่นเกมส์เเมวจับหนูแล้วล่ะ” เมื่อพูดจบอคินก็ลากข้อเท้าบางเข้าหาตัวอย่างแรงก่อนจะ บดจูบอย่างเร้าร้อนเอาแต่ใจ

“ไม่ คุณอย่าทำแบบนี้เลยนะ ฉันไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับใครทั้งนั้น” นิ่มที่ดิ้นรนให้หลุดจากอาการหวาบหวามที่คนตัวโตมอบให้อย่างสุดความสามารถ ก่อนจะยื่นมือบางปิดหน้าคนตัวโตไว้ อคินถึงกับส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจก่อนจะรวบมือบางให้ขึ้นไปอยู่เหนือหัว

เมื่อหนีไปไหนไม่ได้และไม่รู้จะจัดการกับอารมณ์ที่คนตัวโตก่อขึ้นมาได้ยังไง ได้แต่หลับตายอมรับบทรักที่ตัวเองไม่ต้องการ

“อย่า”

นิ่มห้ามปรามเสียงสั่นพร่า แต่คนตัวโตที่ตอนนี้โดนฤทธิ์ยาครอบงำเงยหน้าขึ้นมองร่างบางที่ตอนนี้ตัวแดงเถือกบิดหนีอารมณ์หวามที่เค้าเป็นคนปลุกขึ้นมา ก่อนจะก้มหน้ากลืนกินยอดอกของเธออย่างรุนแรง ทิ้งสัมผัสร้อนผ่าวไปทั่วร่างบาง มือหนายังคงสำรวจไปทั่วร่างก่อนจะเลื่อนมือไปที่สะโพกกลมกลึง ค่อยๆ ใช้นิ้วลากแพนตี้ตัวจิ๋วออกอย่างช้าๆ

“อย่า อ๊า” ร่างบางบิดเร้าเมื่อคนตัวโต ก้มหน้าสัมผัสใจกลางร่าง ลิ้นร้อนซอกซอนดูดด์มกลีบกุหลาบของเธอ ร่างบางสั่นระริก ความรู้สึกที่พุ่งสูง ร่างบางหอบหายใจ พยายามเปล่งเสียงเอ่ยห้าม แต่เสียงที่ออกมากลบเป็นเพียงเสียงครางหวานๆ เท่านั้น

“อ๊า คุณ”

“เรียกผมอคิน” คนตัวโตบอกออกไปเบา

บทถัดไป