บทที่ 4 ความสงสัย
จนวันที่พาลูกไปฉีดวัคซีนตอนสองขวบ คุณหมอแนะนำให้พาคู่แฝดตรวจไอคิว เพราะท่าทางที่โตเกินวัย แถมการพูดจาของทั้งคู่ที่ดูโตกว่าเด็กวัยเดียวกันมาก
ผลออกมาคือทั้งคู่ไอคิวสูงกว่าเด็กปกติทั่วไป แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร ทำให้คนเป็นแม่เบาใจลงมาได้อีกระดับนึง
ใจหนึ่งก็คิดว่าแฝดพี่คงได้นิสัยน้องสาวมามากแต่คนน้องนี่คิดได้อย่างเดียวคงเหมือนฝั่งพ่อแน่ ๆ แต่ก็นั่นแหล่ะจนถึงตอนนี้ นิ่มก็ยังไม่เอ่ยปากเกี่ยวกับพ่อของคู่แฝด
“พี่หนึ่งคะ พี่หนึ่ง”
“ฮะ ฮะ อ้าว ยายนิ่ม มีอะไร”
“ก็เห็นพี่หนึ่งยืนนิ่ง ๆ” นิ่มบอกพลางมองหน้าคนตรงหน้าอย่างสงสัย
“อ๋อ พี่คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะ”
“ว่าแต่เรามีอะไรหรือเปล่า” หนึ่งถามออกไปพลางยกตะกร้าเปล่าขึ้นมาถือไว้
“นิ่มจะเอารถไปส่งคุณป้าที่ไร่ข้างๆ นะคะ”
“ดูท่าแล้ว ไม่น่าวางใจเท่าไหรค่ะ” นิ่มบอกพลางหันไปมองคนแก่ที่นั่งจิบยาหอมอยู่เงียบ ๆ
“อืม ไปสิ ดูท่าแล้วก็ไม่น่าจะปล่อยให้กลับเอง” นิ่มเองเมื่อเดินไปบอกพี่ชายตัวเองเสร็จก็เดินมาหาคนแก่ที่นั่งอยู่คนเดียวอีกครั้ง
“คุณป้าค่ะ เดี๋ยวนิ่มจะขับรถไปส่งที่ไร่นะคะ” นิ่มบอกออกไปเบา ๆ เมื่อเดินเข้ามาใกล้
“ไม่เป็นไรหรอกหนูเดี๋ยวป้ากลับเองได้”
“พอได้ยาหอมไปก็รู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ” คุณวิภาตอบกลับก่อนจะส่งยิ้มมาให้
“ให้ยายนิ่มไปส่งเถอะครับ”
“อากาศแบบนี้กว่าจะเดินถึงผมว่าคุณป้าจะไม่ไหวเอา” หนึ่งที่เดินมาได้ยินคนแก่พูดพอดี เลยเอ่ยสำทับไปอีกเสียง
“เฮ้อ งั้นป้ารบกวนด้วยนะหนู” คุณวิภาเองเมื่อได้ยินเจ้าถิ่นถึงสองคนพูดมาแบบนี้ก็คงได้แต่ยอมจำนนต่อเหตุผลที่สองพี่น้องตรงหน้าให้มา
“แฝด เดี๋ยวแม่นิ่มจะไปส่งคุณป้าที่ไร่ข้าง ๆ”
“อยู่กับลุงหนึ่งแปบนึงนะครับ” นิ่มเดินเข้าไปเอากุญแจรถที่เคาน์เตอร์กาแฟก่อนจะหันไปบอกคู่แฝดที่นั่งดูการ์ตูนที่เก้าอี้เอนใกล้ ๆ
“ไปด้วย” สองเสียงพูดออกมาพร้อมกันเล่นเอาคนเป็นแม่ถึงกับเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ เพราะปกติทั้งคู่ถ้าดูการ์ตูนอยู่จะไม่ค่อยขอตามออกมาด้วย
“หืม?”
“น้องขอไปด้วย” นาย นิล เมื่อพูดจบก็หันไปปิดไอแพคก่อนจะลุกจากเก้าอี้เอนพลางเดินนำหน้าคนเป็นแม่ หนึ่งเองเมื่อเห็นหลานเดินนำออกไป ก็แปลกใจก่อนจะส่งสายตาเป็นคำถามมาถึงคนเป็นน้อง
นิ่มเองก็ได้แต่ส่ายหน้าเพราะปกติคู่แฝดจะไม่เป็นแบบนี้ หนึ่งเองก็ทำได้แค่ส่งยิ้มตอบกลับมา
“อ้าว น้องนาย น้องนิล จะไปไหนกันครับ” คุณวิภาเองก็เเปลกใจที่เห็นคู่แฝดมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“จะไปกับแม่ด้วย” น้องนิลที่เป็นคนตอบพลางยื่นมือไปกุมมือเหี่ยวของคนแก่ตรงหน้าไว้ นิ่มเองก็ถึงกับพูดไม่ออกยิ่งเมื่อเป็นคนน้องพูดด้วยแล้ว
“ครับ ครับ ไปด้วยกันนะ” คุณวิภาเองก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกยิ่งเมื่อคู่แฝดยื่นมือมาจับมือเธอด้วย
จากนั้นคู่แฝดก็จูงมือคนแก่เดินออกไปจากร้านเพื่อไปขึ้นรถของคนเป็นแม่ที่จอดอยู่ด้านหน้าร้าน โดยแฝดพี่เดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ผิดกับแฝดน้องที่เดินมาเงียบ ๆ อย่างไม่รู้อารมณ์ เมื่อมาถึงรถนิ่มก็แปลกใจอีกรอบ เพราะคู่แฝดพาคนแก่ไปนั่งด้านหลังโดยที่คู่นั่งประกบซ้ายขวา
“หนูป้าขอถามอะไรหน่อยสิ” คุณวิภาเอ่ยถามออกไปพลางยกมือลูบหัวเด็กตัวเล็กทั้งสองคนเบาๆ
“คะ”
“หนูพาคู่แฝดมาที่ร้านบ่อยไหม”
“มาทุกวันค่ะ” นิ่มตอบกลับไปพลางส่งยิ้มไปให้คู่แฝดที่นั่งนิ่ง ๆ อยู่ข้างหลังด้วย
“เอ่อ ถ้าป้าจะขอมาหาเด็ก ๆ ที่ร้านบ่อย ๆ จะได้ไหม” คุณวิภาที่รู้สึกรักและถูกชะตากับคู่แฝดอย่างประหลาดพลางเอ่ยขอคนเป็นแม่ที่กำลังขับรถอยู่อย่างมีความหวัง
“หนูนึกว่าเรื่องอะไร ได้สิค่ะ”
“คุณป้าเพิ่งย้ายมาอยู่คงจะเหงา”
“ถ้าว่างก็แวะมาที่ร้านได้เลยค่ะ” เมื่อนิ่มตอบออกไป คุณวิภาถึงกับยิ้มเต็มหน้า
ขับรถมาได้สักสิบนาที รถนิสสันมาร์ชสีเทาก็จอดอยู่หน้าบ้านทรงไทยหลังใหญ่กลางไร่ นิ่มจอดรถให้สนิท ก่อนจะเปิดประตูลงรถเพื่อออกมาสวัสดีคนแก่ที่ตัวเองออกมายืนข้าง ๆ รถ โดยมีคู่แฝดลงตามไปด้วย
“งั้นหนูสามคนกลับก่อนนะคะ”
“น้องนาย น้องนิล สวัสดีคุณยายก่อนครับ” นิ่มเมื่อยกมือไหว้คนแก่ตรงหน้าแล้วก็หันไปบอกกับคู่แฝดที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทันที
“สวัสดีครับ” คู่แฝดยกมือไหว้ก่อนจะพาตัวเองขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังก่อนจะดึงเข็มขัดนิรภัยออกมาคาดตามที่คนเป็นแม่สอน เพราะปกติรถคันนี่จะมีคาร์ซีทติดมาด้วยตลอด
แต่วันนี้นิ่มเอาลงตอนที่มาถึงร้านเพราะพี่ชายจะเอารถไปส่งขนม ปกติก็ต้องใช้กะบะแต่วันนี้ลูกค้าสั่งไม่มากเลยเอาคันเล็กไป
“หนูสอนลูกดีมากเลยนะ” คุณวิภาเอ่ยชมคนตรงหน้าอย่างจริงใจ เมื่อเห็นรถเคลื่อนออกไปแล้ว ก็หันหลังเตรียมจะเดินเข้าบ้าน แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อได้ยินเสียง ๆ หนึ่งเรียกไว้ก่อน
“คุณค่ะ” จินดา คนเก่าคนแก่ของบ้านบูระกิจ เอ่ยทักขึ้นมาก่อน
“อ้าวนม ไปไหนมาล่ะนั่น” คุณวิภาหันไปเห็น ก็รีบเดินเข้าไปหาทันที
“นมได้ยินว่าคุณออกไปเดินดูรอบไร่ แล้วหายไปนาน”
“นมเลยเป็นห่วง”
