บทที่ 7 ไม่โทษตัวเอง

นี่คงจะเป็นสิ่งที่เค้าทรมานฉันอย่างแรกสินะ เพราะตั้งแต่ที่ผู้ชายคนนั้นออกไปจากกระท่อม เค้าก็ไม่กลับมาอีกและไม่มีวี่แววใครมาที่นี่ด้วย แต่ที่ฉันว่าเค้าทรมานฉันก็คือตอนนี้ฉันหนาวไง ข้าวฉันก็ยังไม่ได้กิน น้ำก็ยังไม่ได้กินไม่ได้อาบ แถมตอนนี้มือกับตาก็ยังไม่ได้ถูกแก้ด้วย

“ฮึก!” ปกติฉันไม่ใช่คนอ่อนแอแบบนี้หรอกนะ แต่ที่ฉันร้องไห้เพราะฉันเจ็บขามาก และที่สำคัญฉันกลัวไง มันเลยรุมเร้าไปหมดจนน้ำตาไหล

แล้วที่น่าเศร้าที่สุด เวลาแบบนี้ฉันกลับร้องไห้หาคนที่ฉันรักไม่ได้ คนอื่นเวลาเค้ากลัวอาจจะได้ร้องเรียกหาพ่อแม่หรือใครสักคนที่ตัวเองรัก แต่ฉันได้แต่เก็บเสียงร้องไห้ไว้คนเดียวไม่มีใครให้ร้องหาได้

ทำไมฟ้าแกล้งฉันแบบนี้นะ

“เธอ เธอ” เสียงเรียกพร้อมแรงเขย่าทำให้ฉันรู้สึกตัวตื่น

“อื้อ!” ฉันพยายามยกหัวและเปลือกตาที่หนักอึ้งไปหมดขึ้นเพื่อดูว่าใครกันที่มาเรียกฉัน แต่ก็ทำไม่ได้

“ตัวร้อนจี๋เลยค่ะ” เสียงที่ดังอยู่ข้างหูทำให้ฉันรู้ว่าเค้ายังไม่ไปไหน แต่ก็จับใจความไม่ค่อยได้หรอกว่าพูดอะไร

“หนาว” นี่คือสิ่งที่ร่างกายฉันรับรู้ได้ตอนนี้ มันหนาวไปหมด หนาวจนสั่น

“อืม รู้แล้วๆ” เสียงพูดตอบกลับมา

“หนาว” ไม่รู้จะทำยังไงให้หายหนาว กอดตัวเองก็แล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม

พรึ่บ! สักพักความความหนาวก็ลดลง แต่มันยังไม่พอกับที่ต้องการ มันยังหนาวอยู่

“นี่ลุกมากินยาก่อน” เสียงพูดดังอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ได้ดังอย่างเดียว แต่ยังยกฉันให้ลุกด้วย

“อืม” ฉันครางรับออกมา มันก็พอรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง แต่ก็พยายามจะรับรู้กับสิ่งรอบตัวให้ได้

“อ่ะๆ กินยาก่อน” ฉันเข้าใจแล้ว รสชาติขมๆ ที่ถูกยัดเข้ามาในปาก มันเป็นอะไรไม่ได้ รสชาติที่ฉันไม่ชอบแบบนี้มันคือยา

“ขม” รับรู้และก็พูดออกมา ฉันไม่ชอบกินยาที่สุดเลย

“เออขมก็ต้องกิน เดี๋ยวไม่หาย” แต่ก็ยังยัดเยียดมันเข้ามาให้ฉันเหมือนเดิม

“อึก อึก” เมื่อปฏิเสธไม่ได้ฉันก็ต้องกลืนมันลงไปตามด้วยน้ำให้เยอะๆ ตอนนี้ฉันพยายามลืมตามาดูกับคนที่ป้อนยาให้ฉัน

“ให้รสเช็ดตัวให้เธอเลยไหมคะนาย” อืมได้ยินชัดแล้ว เสียงคุยกันผู้หญิงสินะ

“ไม่ต้อง” เสียงนั้นหลุดออกจากปากของผู้ชาย

“แต่เธอตัวร้อนมากนะคะ ถ้าปล่อยไว้อาจจะช็อกได้” ผู้หญิงคนนี้ยังคงแย้งกลับไป

และ...

ซ่าาาาาา!!!

“เฮือก!!!” ฉันสะดุ้งตื่น จากที่หนาวอยู่แล้วก็ยิ่งหนาวเข้าไปอีก อยากเห็นคนสาดน้ำใส่ฉันแต่ก็มองไม่เห็นเพราะผ้ายังคงปิดอยู่ที่ตา

“นายเธอไม่สะ...” เสียงผู้หญิงคนเดิมดังขึ้นอย่างตกใจ

“ไม่ตายง่ายๆ หรอก ให้กินยาไปแล้วนี่” อย่างน้อยฉันคงต้องขอบคุณเค้าใช่ไหม ที่ยังใจดียอมให้ยาฉันกิน

ตุบ!!!

“อ๊ะ” ฉันตกใจจากเสียงโยนของลงพื้น แล้วเค้าจะโยนทำไมกันนะ

“กว่าจะลุกได้” ผู้ชายที่คนนั้นพูดขึ้นเสียงเรียบ

“แค่กๆๆ” ฉันที่กำลังจะพูดแต่ก็ต้องไอออกมาก่อน ตอนนี้มันรู้สึกคอแห้งมาก

“อย่ามาสำออย” ผู้ชายคนนั้นที่เห็นฉันไอเลยว่าให้ฉัน แล้วฉันจะสำออยไปเพื่อ

“คุณมีอะไรคะ” ฉันถามเค้าไปด้วยความสงสัยด้วยเสียงที่แหบแห้ง

“ฉันไม่ได้ไปพาเธอมานอนเล่น ลุกไปทำงาน” เค้าตอบฉันกลับมา

“คุณช่วยแก้มัดให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ” ฉันขอเค้าไป

“เธอไม่มีสิทธิ์ขออะไรจากฉัน ลุกได้แล้ว” เค้าตอบกลับมาเสียงแข็งเหมือนไม่พอใจ แต่จะให้ฉันลุกยังไงล่ะ

“.....” ฉันที่กำลังพยายามลุก แต่ตอนนี้ร่างกายฉันมันหนักไปทุกส่วนจนลุกไม่ขึ้น โดยเฉพาะหัว

“ฉันบอกให้ลุก!” ไม่ต้องทำเสียงแข็ง ฉันก็อยากลุกแต่ลุกไม่ไหวจริงๆ

“.....” เมื่อลุกไม่ไหวก็ขอนั่งนิ่งมันอยู่แบบนี้แล้วกัน

“อยากลองดีกับฉันเหรอ” ฉันก็ยังอยู่เฉยๆ แค่แรงจะลุกยังไม่มี แล้วจะเอาอะไรไปลองดีกับเค้า

“นายคะ แต่อาการของเธอยังไม่ดีเลยนะคะ” ผู้หญิงที่อยู่อีกคนพูดบอกผู้เป็นนายตัวเอง

“เธอกลับไปได้แล้ว” ผู้ชายคนนั้นไม่ฟังที่ผู้หญิงคนนั้นพูดและสั่งให้เธอกลับไปไหนก็ไม่รู้

“ค่ะ” ก็คงไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของเค้านั่นแหละนะ

“ที่นี้จะลุกได้หรือยัง”

“.....” ฉันค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นตามคำสั่งของเค้า แต่พยายามยังไงมันก็ลุกไม่ไหวไง

“ทำอะไรให้มันเร็วๆ หน่อย อย่ามาสำออย” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นเมื่อฉันทำไม่ทันใจเค้า ลองมาป่วยเหมือนฉันดูไหมล่ะ

“ถ้าคุณจะให้ฉันลุกก็แก้มัดให้ฉันก่อนได้ไหมคะ ฉันลุกไม่ได้” ขาก็เจ็บ แทนที่จะมีมือช่วยพยุงตัวแต่ก็ทำไม่ได้เพราะถูกมัด

“เรื่องมาก!” เค้าว่าออกมาอย่างอารมณ์เสีย แต่ก็เหมือนจะยอมให้ฉันนะ

“คุณ!” เมื่อผ้าถูกเปิดออกฉันก็ปรับแสงนิดหน่อย ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“ไง” คุณพายุทักฉันพร้อมแสยะยิ้มให้ก่อนจะแกะเชือกที่มือให้ฉัน

“คุณทำแบบนี้ทำไม” ฉันถามคุณพายุกลับไป

“เธอนี่ความจำไม่ดีจริงๆ สินะ” คุณพายุพูดออกมา สีหน้าตอนนี้ฉันเดาอารมณ์เค้าไม่ออกจริงๆ

“ถ้าคุณหมายถึงเรื่องอุบัติเหตุวันนั้น ฉันไม่ได้ทำ” ฉันยืนยันออกไป ทำไมเค้าต้องคิดว่าฉันทำ เพียงแค่คำพูดของผู้ชายคนนั้นเหรอ

“ถ้าเธอไม่ได้ แล้วไอ้นั่นมันจะพูดแบบนั้นทำไม!” ฉันจะไปรู้กับไอ้นั่นของคุณไหม

“ฉันไม่รู้ แต่ฉันไม่ได้ทำจริงๆ” ก็ฉันไม่ได้ทำ ต่อให้ผู้ชายคนนั้นเค้าจะยืนยันยังไง มันก็เปลี่ยนให้ฉันทำไม่ได้หรอก

“เลิกแก้ตัวแล้วยอมรับผิดมาเถอะ ฉันอาจจะใจดีแล้วเธออาจจะไม่ทรมานก็ได้” ทำไมเค้าดูน่ากลัวแบบนี้นะ คนแต่งตัวดีๆ ที่นั่งสัมภาษณ์งานฉันตอนนั้นถึงจะดูน่าเกรงขามแต่ก็ไม่ได้น่ากลัวแบบนี้

“ฉันบอกว่าไม่ได้ทำจะให้ฉันยอมรับได้ยังไง คุณไม่มีหลักฐานจะมาโทษฉันแบบนี้ไม่ได้” ใช่หลักฐานก็ไม่มีแล้วจะมากล่าวหาฉันแบบนี้ไม่ได้

“ใช่ เพราะฉันไม่มีหลักฐานไง แต่ฉันมีพยาน ซึ่งฉันก็ต้องเชื่อมันอยู่แล้ว” พยานเหรอ ตลกเหอะ

“คุณเรียกคนที่ขับรถชนลูกคนว่าพยานงั้นเหรอ” นี่เค้ายังสติดีอยู่ไหม

“เธอไม่ต้องห่วงหรอก เพราะฉันจัดการมันไปก่อนเธอแล้ว และมันก็ยังยืนยันกลับมาเหมือนเดิมว่าเห็นเธอผลักลูกฉัน ฉะนั้นเตรียมตัวตาย ทั้งเป็นได้เลย” คุณพายุพูดออกมาเสียงแข็งสายตาดุดันกว่าเดิม มันน่ากลัวมาก มากจนฉันไม่กล้าที่จะพูดอะไร ก่อนเค้าจะเดินออกไป

“แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้” ฉันเถียงกลับไป

“ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง โดยเฉพาะลงโทษคนผิดอย่างเธอ”

“ทุเรส! ต่อให้คุณฆ่าฉันให้ตายฉันก็ยังยืนยันคำเดิมว่าฉันไม่ได้ทำ” นี่ฉันไม่ได้แก้ตัว ไม่ได้เถียง แต่บอกให้รู้ว่าฉันไม่ได้ทำจริงๆ

“อย่าคิดว่าฉันไม่กล้า” คุณพายุกัดฟันพูดออกมาเหมือนพยายามระงับอารมณ์

“ทำไมคุณไม่โทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ละเลยหน้าที่บ้าง แต่กลับโทษแต่คนอื่นแบบนี้เหรอ คุณมันขี้คลาด!” ใช้ได้ที่ไหน ความผิดตัวเองไม่เห็น เห็นแต่ความผิดของคนอื่น

“รวงข้าว!” คุณพายุพูดออกมาเสียงยะเยือก

“.....”

“อยากลองดีมากใช่ไหม มานี่!” เค้าพูดกับฉันก่อนจะก้มมากระชากแขนฉันให้ลุกเดินไปตามแรงกระชากของเค้าออกไป

อย่าเรียกว่ากระชากเลย เรียกว่าลากออกมากับพื้นดีกว่า เพราะฉันเจ็บขามากจนเดินไม่ทันเค้าแล้วล้มไปกับดิน แต่เค้าไม่สนใจและกระชากให้ฉันลุกเดินไปตามเค้า รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คุณพายุก็ลากฉันลงมากลางทะเลเรื่อยๆ

“คุณจะทำอะไร” ฉันถามออกไปอย่างหวั่นๆ เพราะสีหน้าเค้าตอนนี้น่ากลัวมาก แต่คุณพายุยังพาเดินไม่หยุดและลึกขึ้นเรื่อยๆ

“ก็จะทำให้เธอยอมสารภาพไง” คุณพายุพูดพร้อมกับยื่นมือมาจับที่หลังหัวฉันแน่น

“คะ...คุณพา...อื้อ!” ฉันที่ยังพูดไม่จบก็ต้องกลืนคำพูดลงคอทันที เพราะคุณพายุจับหัวฉันกดลงไปในทะเลฉันพยายามจะดันหัวขึ้นแต่สู้แรงเค้าไม่ได้

“หึ!” เสียงคุณพายุดังขึ้นอย่างสะใจก่อนจะผ่อนแรงกด ฉันเลยโผล่พ้นน้ำมาได้แต่เค้าก็ยังไม่ปล่อยมือจากหัวฉัน

“แฮ่กๆๆ” ฉันพยายามสูดอากาศเข้าปอดอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ดำน้ำสนุกไหม?” คุณพายุเลิกคิ้วถามฉัน

“ปล่อย!” เมื่อลมหายใจเริ่มเข้าที่ฉันก็พูดออกไปทันทีและพยายามยื่นมือไปแกะมือเค้าออก

“จะยอมสารภาพกับฉันได้หรือยัง” คุณพายุถามกลับมา

“ฉันบอกแล้วว่าไม่ได้ทำไง!” ฉันตะคอกกลับไปอย่างเหลืออด ฉันไม่ได้ทำจะให้ฉันยอมรับเหรอ

“ได้” คุณพายุพูดแค่นี่ก่อนจะจับหัวฉันกดลงน้ำอีกรอบ แต่รอบนี้เค้าทำนานกว่ารอบที่แล้ว ฉันที่ตอนแรกพยายามดิ้นให้หลุดแต่ตอนนี้แรงเริ่มหมด พอคุณพายุเห็นแบบนั้นก็เลยปล่อยมือออกจากหัวฉัน

“เฮือก!!! แค่กๆๆ” ฉันที่โผล่พ้นน้ำมาก็สำลักน้ำและรีบสูดอากาศ แต่ยังไม่ทันที่อากาศจะเต็มปอดฉันก็ถูกกระชากโดยมือหนา พอขึ้นมาถึงฝั่งเค้าก็ผลักฉันล้มก่อนจะกอดอกยืนมองฉัน

“ในเมื่อให้โอกาสสารภาพแล้วไม่ยอม ก็เตรียมตัวรับความทรมานได้เลย” คุณพายุพูดพร้อมแสยะยิ้มร้ายและน้ำเสียงที่แสดงให้เห็นว่าเค้าไม่ได้พูดเล่น

“คุณจะให้ฉันยอมรับในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำให้ได้เลยใช่ไหม” ฉันถามกลับไปอย่างไม่เข้าใจและอยากรู้ว่าเค้าแค่ต้องการคำว่า ‘ฉันเป็นคนทำ’ แค่นี้เหรอ

“ฉันไม่ได้อยากให้เธอยอมรับในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำ แต่ต้องการให้เธอยอมรับความจริง” คุณพายุตอบก่อนจะเดินออกไป เมื่อฉันเห็นว่าเค้าเดินออกไปฉันเลยหันหน้าเข้าหาทะเลก่อนจะค่อยๆ พยุงอย่างลำบากเดินตรงไปที่ท้องทะเลกว้าง

ตอนนี้ฉันไม่คิดอะไรแล้ว อยู่กับเค้าต่อไปก็ไม่ต่างจากตาย แค่นี้เค้ายังทำฉันให้ทรมานแล้วนี่เค้ายังบอกว่าให้ฉันรับความทรมานอีกมันก็คงไม่ต่างจากตายหรอก ฉันสู้ตายไปตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่าทรมานแค่แป๊บเดียว ตอนนี้ฉันเดินลงมาลึกจนถึงคอและยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ จนมันพ้นน้ำ

แต่ฉันที่จมลงไปได้ไม่นานก็ต้องโผล่ขึ้นมาคืนเพราะฝีมือของคุณพายุ เค้าลงมาดึงฉันขึ้นจากใต้น้ำแล้วลากขึ้นฝั่งทันที นี่ขาฉันเจ็บเลยทำให้เดินช้าจนเค้าเห็นซะก่อนสินะ

“ปล่อย!” ฉันที่พยายามแกะมือเค้าออกจากมือฉันที่ถูกลากอยู่ร้องประท้วงเค้า

ฟุบ!!! ทันทีที่ขึ้นมาถึงฝั่งเค้าก็เหวี่ยงฉันล้มลงอีกรอบ

“เธอยังตายไม่ได้!” คุณพายุตะคอกใส่หน้าฉัน

“นี่ชีวิตฉัน!” ฉันตะคอกกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ คุณพายุย่อตัวลงมานั่งยองๆ ก่อนจะยื่นมือมาบีบคางฉัน

“ชีวิตเธอมันเป็นของฉัน ถ้าจะตายต้องตายเพราะมือฉัน!” คุณพายุพูดเสียงต่ำพร้อมแรงบีบที่คางก่อนจะสะบัดออกเมื่อพูดจบ

“.....”

“มานี่!” และกระชากฉันให้ลุกพร้อมเดินตามเค้าไปทางเดิมที่ไปกระท่อม

บทก่อนหน้า
บทถัดไป