บทที่ 4 ตอนที่ 4
อีกสองวันต่อมา
แม้ว่าโบว์ตั๋นจะตกใจกับแผนการท่องเที่ยวแบบกะทันหันของสามี ทว่าพอได้มาร่วมทริป มาสัมผัสความเขียวขจีของผืนป่าสุดร่มรื่นริมแน่น้ำในจังหวัดกาญจนบุรี ก็ทำให้รู้สึกสนุกสนาน ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติรอบตัว
“พี่ยักษ์… ตกปลาได้บ้างไหมครับ”
ตั้มตะโกนถามยักษ์ที่กำลังยืนเหวี่ยงเบ็ดอยู่ตรงเนินทรายกลางน้ำ อวดเรือนร่างกำยำไปด้วยมัดกล้าม เพราะว่ายักษ์สวมกางเกงขาสั้นสีเทาบางๆ เพียงตัวเดียว เปลือยอกช่วงบนอวดเส้นขนสีดำเป็นแพแผ่คลุมอกดูเซ็กซี่ ผิวสีน้ำตาลเข้มสมชายชาตรีจนตั้มนึกอิจฉาในความแมนของผู้ชายคนนี้
“ได้แล้ว… แต่อยากได้ตัวใหญ่กว่านี้ เชื่อมือเถอะน่ะ… รับรองว่าค่ำนี้มีปลาเผาแกล้มเหล้าอย่างแน่นอน”
ยักษ์ตะโกนตอบเสียงดัง ทำให้โบว์ตั๋นที่กำลังจัดข้าวของอยู่ในเต็นท์ เดินออกมาตรงที่ยักษ์กำลังตกปลาอยู่ริมน้ำ
“ทำอะไรอยู่คะพี่ตั้ม”
หญิงสาวตะโกนถามสามี
“ดูพี่ยักษ์ตกปลา… เออ… โบว์อยากลองตกปลาบ้างมั้ย? เดี๋ยวให้พี่ยักษ์ช่วยสอนให้… พี่ยักษ์ตกปลาเก่งนะ”
ไม่รู้ทำไม… ตั้มจึงนึกอยากให้โบว์ตั๋นมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับยักษ์
“จะดีหรือจ๊ะ… รบกวนพี่ยักษ์เปล่าๆ”
หญิงสาวตอบพลางเหลือบมองร่างกำยำไปด้วยมัดกล้ามของคนที่กำลังยืนเหวี่ยงเบ็ดอยู่กลางน้ำ
“ไม่เป็นไรหรอกน่ะ… พี่ยักษ์ใจดี… พี่ยักษ์ช่วยสอนโบว์ตกเบ็ดได้ไหมครับ”
ตั้มบอกพลางตะโกนริมน้ำ
“ได้สิ… มาเลยน้องโบว์”
ยักษ์เหลือบมองมายังเรือนร่างเซ็กซี่ของเมียเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“งั้นพี่ขอตัวไปนั่งดื่มกับเพื่อนๆ นะ… ”
ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่…
แต่ตั้มก็รีบเปิดทางให้เมียสาวของตนเดินไปหาพี่ยักษ์ที่กำลังจะช่วยสอนหล่อนตกปลา
ในเวลาต่อมา
ตั้มเดินมานั่งร่วมวงกับเพื่อนๆ อีกหลายคนที่กำลังดื่มเบียร์กันอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ติดกับเต็นท์ที่พัก
และในระหว่างนั่งดื่มเบียร์ สายตาของตั้มก็แอบมองภาพของเมียรักที่กำลังให้พี่ยักษ์ช่วยสอนตกปลา กำลังสอนกันเหวี่ยงเบ็ด
“เหวี่ยงแบบนี้นะจ๊ะ… พี่ขออนุญาตทำให้ดูเป็นตัวอย่างนะ”
เสียงที่ดังแว่วมาจากริมลำธาร ทำให้ตั้มอดมองไม่ได้ เห็นภาพของพี่ยักษ์กำลังสวมกอดโบตั๋นด้วยสองมือ
‘คุณพระ… ’
ตั้มอุทานในใจ ทั้งสองใกล้ชิดกันมากกว่าที่คิด ลำตัวของยักษ์เบียดชิดกับโบว์ตั๋น กึ่งกลางกายแนบชิดสะโพกของหล่อนที่สวมเพียงกางเกงขาสั้นบางๆ
ยักษ์จับจำต้องสวมกอดโบว์ตั๋นและรวบมือหล่อนจับคันเบ็ด ก็เพื่อจะสอนทักษะการเหวี่ยงเบ็ดที่ถูกต้อง แต่ตั้มรู้… ว่ายักษ์แอบคิดอะไรกับเมียของตนมากกว่าการสอนตกเบ็ดอย่างแน่นอน
ภาพของหญิงชายที่ใกล้ชิดกันอยู่ริมลำธาร ทำให้ตั้มมองด้วยความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
นี่เราคิดบ้าอะไร?
ตั้มนึกตำหนิตัวเองอยู่ในใจ ไม่อาจหักห้ามความคิดบ้าๆ และจินตนาการต่ำช้าที่ผุดวาบเข้ามาในหัว ความคิดที่ว่าโบตั๋นคงจะมีความสุขนะ… ถ้าเปลี่ยนให้พี่ยักษ์ลองมาทำน้าที่ ‘ผัว’ ให้หล่อน
กระทั่งมีจังหวะ…
ตั้มไม่รอช้า รีบหาโอกาสเข้ามาคุยกับยักษ์เป็นการส่วนตัว
“พี่ยักษ์ชอบเมียผมใช่ไหม”
ตั้มถามเมื่อได้โอกาส
“เฮ้ย… ไอ้บ้า… เอ่อ… ถ้าภาพที่กูสอนเมียมึงตกปลาเมื่อครู่ทำให้มึงเข้าใจผิดคิดมาก… กูคงต้องขอโทษ เอ่อ… กูไม่ได้คิดอะไรนะโว้ย”
ยักษ์รีบแก้ตัว…
ทั้งที่รู้ว่าตัวเองกำลังโกหกคำโต
“แหม… ปากแข็งนะพี่ยักษ์… ปากบอกว่าไม่คิดอะไรกับเมียผม แต่เมื่อกี้ตอนสอนเมียผมเหวี่ยงเบ็ด แหม… ผมเห็นน้องชายพี่แข็งขึ้นมาเป็นลำเชียว”
คำพูดที่ได้ยิน… ถึงกับทำให้พี่ยักษ์จอมหื่นที่แอบมองโบว์ตั๋นมานาน… ถึงกับสะอึก
“เอ่อ… ”
ทว่าไม่ทันได้พูดอะไร ตั้มก็กล่าวขึ้นว่า
“ผมเข้าใจนะ… พี่ตั้มก็ผู้ชาย… แล้วเมียผมก็ทั้งสวยและเซ็กซี่ขนาดนี้ ใครอยู่ใกล้แล้วไม่มีอารมณ์คงแปลก”
ตั้มกล่าว
“เออ… มึงก็เข้าใจผู้ชายนี่หว่า”
ยักษ์รู้สึกโล่งใจ กับคำพูดและท่าทางไม่ถือสาของตั้ม ก่อนจะต้องตกใจกับอีกประโยคที่ตามมา
“พี่ยักษ์อยากเอาเมียผมมั้ย?”
ตั้มมองซ้ายมองขวาจนมั่นใจว่าจะไม่มีใครได้ยินประโยคนี้ จากนั้นก็ยิงคำถามที่ทำเอาพี่ยักษ์ตกใจแทบช็อก
“เฮ้ย… ไอ้เหี้ย… มึงถามอะไรแบบนี้วะ”
ยักษ์มองหน้าตั้ม…
ไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามเหลือเชื่อนี้ ตั้มนึกด่าตัวเองอยู่ในใจว่าก็คงจะมีแต่ผัว ‘เหี้ย’ ๆ อย่างกูนี่แหละหนา ที่อยากให้เมียได้มีความสุขกับผู้ชายอื่น
“ผมถามจริงครับ… ”
ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของตั้ม ไม่ได้บอกว่าพูดเล่นเลยสักนิด เรื่องนี้มันคิดจนตกผลึก ไม่เช่นนั้นคงไม่ตัดสินใจพาเมียมาร่วมทริป
“ถ้ากูตอบตามตรงมึงอย่าโกรธนะโว้ย”
คำพูดที่ได้ยินจากปากของตั้ม ทำเอาผู้ชายอกสามศอกอย่างพี่ยักษ์เริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับข้อเสนอที่คาดไม่ถึงของตั้ม นี่มันคงเพี้ยนไปแล้วกระมัง?
