บทที่ 5 บทที่ 4 คนใจร้าย

บทที่ 4 คนใจร้าย

"ทำไมชอบด่าว่าหนูแรด หนูแรดตรงไหน?" กอดอกถามเสียงสงสัย พร้อมเอียงคอมองคนตรงหน้าอย่างรอคำตอบ ชายหนุ่มได้แต่ก้มหน้าพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ นิ้วโป้งมือกับนิ้วชี้บีบนวดหว่างคิ้วอย่างคิดไม่ตก

"ทำตัวแบบนี้เขาเรียกแรด!"

"แรดตรงไหน หนูยังไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยนะคะ หนูทำแบบนี้กับพี่นัทคนเดียวและคนแรกด้วย" มนัสทำหน้าระอากับคำพูดของเด็กสาวเจ้าของรอยยิ้มไร้เดียงสา แต่การพูดการจาของเธอมันช่างร้ายเดียงสาเสียจริง

"ไปไกลๆ หน่อยไปปวดหัว" เขาสะบัดมือไล่ แล้วเดินหนีมาที่ระเบียงห้อง แล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ควันบุหรี่สีขาวพวยพุ่งออกทางปากและจมูก บุหรี่ที่ถูกดูดแค่สองสามครั้งก็หมดเพื่อดับอารมณ์หงุดหงิดเขาตอนนี้

"ดูดบุหรี่เหมือนพี่ชายหนูเลยค่ะ แต่ตอนนี้พี่ชายหนูเลิกแล้วเพราะแฟนขอเอาไว้" มนัสปลายตามองเจ้าของเสียงเจื้อยแจ้วแล้วเบนสายตามาเหม่อมองไปยังท้องฟ้าอย่างไร้จุดหมาย

"หนูง่วงนอน ขอนอนได้ไหมคะ หายมึนแล้วจะกลับบ้าน"

"ความมึนของเธอมันซึมเข้าในเส้นเลือดแล้วมั่ง เด็กแก่แดด" มนัสพึมพำในลำคอในตอนที่เด็กสาวเดินออกไปแล้ว เขาอัดบุหรี่อีกมวนแล้วเดินเข้ามาในห้อง หางตาของเขาเหลือบเห็นประตูห้องนอนที่เปิดอ้าไว้เพียงนิด คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม

"ทำอะไรวะ!" ตะเบ็งเสียงถามจนคนที่กำลังเคลิ้มหลับไปต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา เธอใช้แขนค้ำยันตัวเองขึ้นมา มือบางขยี้ตาเบาๆแล้วเพ่งมองเจ้าของเสียงดุๆนั้นอย่างงัวเงีย

"นอนได้ไหมหนูง่วง~" ทำปากยื่นๆ แล้วคลานเข่าเข้ามาหาชายหนุ่ม ยกมือขึ้นมากุมไว้แน่นในระดับอกสองขาแบะออกกวงตากลมโตหรี่ปรือกระพริบตาปริบๆอย่างออดอ้อน

"ไม่ได้!!" ตะเบ็งเสียงใส่อย่างเหลืออด "ทำไมถึงได้ดื้อด้านแบบนี้วะ!" เลิกผ้าห่มสีขาวสะอาดตาออกจากเรือนร่างอรชร แล้วบีบแขนเรียวเล็ก ออกแรงดึงเพื่อให้เธอลุกขึ้น

"อึก...อึก~" ก้มหน้ากลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกมา พร้อมกับลุกขึ้นยืนบนที่นอนนุ่มๆ ทำให้น้ำตาหยดแรกหยดลงถูกปลายจมูกโด่งของมนัส เขาชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นคนตรงหน้ากำลังกลั้นเสียงร้องไห้ ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงก่ำ ดวงตากลมโตปิดสนิท ขนตายาวงอนเปียกไปด้วยน้ำตา

"หนูกลับบ้านก็ได้" ทำปากยื่นอย่างน้อยอกน้อยใจ พร้อมกับสะบัดแขนเพื่อให้มือชายหนุ่มหลุดออกจากแขนตัวเอง ขาเรียวยาวก้าวลงจากเตียงนอนหนานุ่มอย่างอ้อยอิ่ง

"จะไปส่ง"

"ไม่ต้อง หนูกลับเองได้" ปฏิเสธแบบไม่หันมาสบตากับเจ้าของคำพูดเสนอตัวเมื่อสักครู สายฟ้าเดินย่ำเท้าเปลือยเปล่ามายังห้องนั่งเล่น มือบางหยิบกระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาสะพาย แล้วยกมือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ

"ไปแล้วนะ ไม่ต้องตามง้อหนูนะ"

"..." ยืนมองนิ่งๆ ยังงงๆว่าใครจะไปง้อว่ะ!

"ไปแล้วนะ ไปจริงๆแล้วนะ" สั่งลาอีกครั้งใบหน้ายังคงบูดบึ้งอย่างหนักเมื่อเห็นชายหนุ่มไม่สนใจเลย เธอเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูห้อง มือบางกำสายกระเป๋าแน่น ก่อนจะหันมามองเขาเป็นครั้งที่สาม

"จะไปก็ไป..สั่งลาอยู่นั้นแหละรำคาญ!"

"อือ!!!" กระแทกเสียงตอบรับในลำคออย่างไม่ชอบใจนัก แล้วเปิดประตูห้องออกไปทันที ทันทีที่ประตูห้องปิดลง มนัสก็บีบนวดขมับอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างเมื่อยล้า ความเมื่อยล้าทำให้เขาหลับไปในที่สุด

@หนึ่งชั่วโมงต่อมา

กริ๊ง~ กริ๊ง~

เสียงโทรศัพท์บ้านในห้องดังขึ้นปลุกมนัสที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย เขาหยัดกายลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะเล็กๆข้างโซฟา แล้วรับสายทันที

"ว่าไง"

(คุณมนัสครับ พอดีมีเด็กสาวคนหนึ่งนอนอยู่ที่เคาน์เตอร์ครับ ผมถามเธอเแล้วเธอบอกว่าคุณมนัสพาเธอมาครับ) ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆจากมนัส มีเพียงเสียงพ่นลมหายใจออก เขาวางโทรศัพท์ลงแล้วเดินไปที่หน้าประตู ชายหนุ่มหยุดคิดอยู่สักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูออกไปข้างนอก

ร่างสูงใหญ่เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินอาดๆ มายังเคาน์เตอร์ของคอนโดมิเนียมหรูที่เขาพักอยู่ สายคาสอดส่องหาร่างบอบบางของเด็กจอมจุ้น

"เด็กสาวคนนี้เธอบอกว่าคุณมนัสพาเธอมาครับ" ผายมือไปทางด้านหลังเคาน์เตอร์ที่มีโซฟาตัวยาว แล้วบนโซฟาก็มีเด็กสาวหน้าตาน่ารักกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ เขาถอนหายใจหนักๆ แล้วเดินเข้าไปด้านใน และไม่ลังเลที่จะอุ้มเธอขึ้นมาแนบอกแล้วพาขึ้นมาบนห้อง

"อื้อ~" งัวเงียซบหน้าเข้าหาอกแกร่ง ในจังหวะที่มนัสจะวางเธอลงบนเตียงนอน ทำให้เขาต้องชะงักแล้วอุ้มเธออยู่แบบนั้น เพราะเธอกอดคอเขาแน่นกว่าเดิมเกาะติดเหมือนลูกลิง

"ทำตัวเหมือนเด็กมีปัญหาหนีออกจากบ้าน" พึมพำเสียงเบา ทั้งที่สายตายังจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มและแก้มป่องๆ ที่แนบชิดกับหน้าอกเขาจนปากเธอเผยอขึ้นเล็กน้อย

"อื้อ~" ทำปากแจะๆ แล้วซบหน้าเข้าหาอกอุ่นๆ ราวกับเด็กทารก มนัสกลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ก่อนจะหันหลังแล้วเป็นคนนั่งลงขอบเตียงแทน ทั้งที่แขนทั้งสองข้างยังโอบอุ้มร่างเล็กเอาไว้

"ใจร้าย..อึก..ใจร้าย~" เสียงอู้อี้ดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่ม ทั้งที่เปลือกตาทั้งสองข้างยังปิดสนิท

"มันใช่ธุระกงการอะไรไหมวะที่ต้องมานั่งอุ้มยัยนกขุนทองนี่!!" สบถคำอย่างหัวเสีย เขาปรายตามองใบหน้าจิ้มลิ้มครั้งแล้วครั้งเล่า พอๆกับถอนหายใจหนักๆเพื่อระบายความหงุดหงิด

บทก่อนหน้า
บทถัดไป