บทที่ 3 EP.2
เสียงเบสดังหนัก ๆ จนสะเทือนผนัง แสงไฟแฟลชสาดกระทบกำแพงลายกราฟฟิตี้สีดำแดง สร้างอารมณ์ลึกลับเร้าใจที่เข้ากับเพลงจังหวะกลางพอดี
โซนวีไอพีด้านบนสุดของไนท์คลับตกแต่งด้วยโซฟาหนังสีเข้ม รอบด้านมีม่านดำกั้นเป็นสัดส่วน พื้นที่ตรงนั้นไม่มีใครขึ้นไปได้ง่าย ๆ นอกจากจะได้รับอนุญาต
“พี่คีย์ของยัยส้มโอโคตรหล่อเลยอะ!” ฟ้ากระซิบกับน้ำอิงเบา ๆ ขณะมองผู้ชายรูปร่างสูงในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงสแลคเข้ารูปที่ยืนคุยกับบาร์เทนเดอร์
“นี่น่ะเหรอหนึ่งในสี่หนุ่มวิศวะมหา'ลัย เราที่ร่ำลือกันว่าเทพบุตร” น้ำอิงพูดนิ่ง ๆ แต่สายตาแอบมองเหมือนกัน
พี่คีย์ยิ้มบาง ๆ ให้พวกเธอ ก่อนเดินมาหาส้มโอแล้วกอดไหล่แฟนสาวอย่างถือสิทธิ์
“ตามสบายเลยนะ พี่จัดทุกอย่างไว้ให้แล้ว”
โต๊ะวีโอพีในคลับของพี่คีย์อยู่ในมุมที่มองเห็นฟลอร์เต้นรำทั้งชั้น แสงจากไฟหัวโต๊ะตกลงบนแก้วค็อกเทลในมือของสาว ๆ พอดี
น้ำอิงนั่งไขว่ห้าง ยกแก้วขึ้นจิบไวน์แดงอย่างสง่างาม เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่มาเที่ยวที่แบบนี้บ่อย ๆ แต่คืนนี้...ถือว่าเพื่อนเปิดตัวแฟนทั้งที
เมื่อเพลงเปลี่ยนจังหวะ แดนเซอร์ก็รีบขึ้นฟลอร์พร้อมเสียงกรีดกร๊าด แต่ก็ไม่สามารถแย่งความสนใจจากสายตาของหนุ่ม ๆ หลายคนที่เริ่มหันมาทางโต๊ะของพวกเธอได้
“พวกน้อง ๆ นี่ไม่ธรรมดาเลยนะ” คีย์เอ่ยขึ้นเมื่อจับสังเกตุได้ว่าสายตาหลายคู่กำลังให้ความสนใจสาว ๆ โต๊ะนี้ที่ทั้งสวยและดึงดูด ขนาดตัวเขาเองยังตกหลุมพลางจัง ๆ
"สวยแซ่บทุกคนใช่ไหมคะพี่คีย์?" ฟ้าเลิกคิ้วถาม
"ครับ" คีย์ตอบตามตรง ในขณะที่ฟ้ายิ้มรับตาหยี ส้มโอก็เอียงหน้าซบไหล่แฟนหนุ่มอย่างไม่เกรงใจสายตาเพื่อน เว้นแต่น้ำอิงที่ได้แต่ยิ้มบาง ๆ และไม่ได้ตอบอะไรต่อ เธอไม่ใช่คนเฟรนด์ลี่ในที่แบบนี้นัก แต่เธอก็รู้วิธีรักษาความสุภาพในแบบของเธอเอง
ระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุย หัวเราะ และดื่มกันเบา ๆ ประตูทางเข้าชั้นวีไอพีก็เปิดออก กลุ่มผู้ชายอีกสามคนเดินตรงเข้ามาทางนี้ราวกับการเปิดตัวของไอดอลเกาหลี
แสงไฟหัวบริเวณบันไดจับเสี้ยวหน้าคมของพวกเขาพอดี สามหนุ่มสามสไตล์แค่เพียงแค่เดินผ่าน...ก็มีสายตาหลายคู่ต้องหันตาม โดยเฉพาะสาวชุดดำโต๊ะนี้
น้ำอิงชะงัก! เธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในวินาทีนั้นกำลังส่งผลให้จังหวะหัวใจเปลี่ยนไป เมื่อคนสุดท้ายที่เดินเข้ามาคล้ายกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน และเสี้ยวหน้าแบบนั้นที่ “โคตรจะเหมือนใครบางคน”
เธอเหลือบตาไปมองจ้องโดยอัตโนมัติ และทันทีที่สายตาเธอจับภาพเขาได้ชัดเจน
“เหนือเมฆ!!”
หัวใจเธอหยุดเต้นครึ่งวินาที ก่อนจะเต้นแรงขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อสามหนุ่มเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่โต๊ะของเธอ น้ำอิงรีบหันขวับหลบหน้าออกไปอีกฝั่ง
“ขอโทษที พวกเรามาช้า” หนึ่งในคนที่เดินมาถึงพูดพร้อมพาสมาชิกในกลุ่มนั่งประจำที่
“นี่เพื่อนพี่ พี่กันต์ พี่โยธา แล้วก็พี่เหนือเมฆ” คีย์ผายมือแนะนำด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ทันทีที่อ่านแววตาเสือร้ายในกลุ่มออกโดยไม่ต้องพูดอะไรสักคำ
"น้องฟ้า น้องน้ำอิง ส่วนนี่แฟนกูส้มโอ" ก่อนจะหันมาแนะนำบรรดาสาว ๆ ต่อ
"ดีค่ะพี่ ๆ" ฟ้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สบตากับส้มโออย่างรู้ทันกัน ส่วนน้ำอิงยังคงนั่งนิ่ง เพียงหันหน้ามายิ้มบาง ๆ ตามมารยาทเท่านั้น
“เป็นอะไร?” ฟ้ากระซิบข้างหูเบา ๆ เมื่อเห็นความไม่ปกติของเพื่อน เธอยกมือขึ้นอังหน้าผากน้ำอิงเมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวทั้งเม็ดเหงื่อก็ผุดขึ้นเต็มกรอบหน้า
“เปล่า แค่...มึน ๆ” น้ำอิงตอบเสียงเรียบ เรียบจนแทบจะเรียกได้ว่าไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ในอกกลับเหมือนถูกคลื่นซัดเข้าใส่แบบไม่ทันตั้งตัว
เพื่อนสนิทของเธอทั้งสอง ไม่มีใครรู้ว่าเธอกับใครบางคนเคยมีอดีตร่วมกัน ไม่มีใครในโต๊ะนี้เคยเห็นน้ำอิงในเวอร์ชันเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อ้วน ๆ ที่คอยแต่จะวิ่งตามรุ่นพี่ ม.6 คนหนึ่งด้วยหัวใจทั้งดวง
และไม่มีใครรู้ว่า...เขาเคยเป็นคนเดียวที่เธอ กล้าบอกชอบ แต่กลับได้รับการ ปฏิเสธ
เธอยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอีกครั้ง แสร้งทำเป็นมองไปทางฟลอร์ด้านล่าง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ
“ใจเต้นแรงทำไม เขาไม่สมควรได้รับความรู้สึกพวกนี้อีกแล้ว” แม้จะบอกตัวเองแบบนั้นซ้ำ ๆ แต่ในใจเธอก็รู้ดีว่าเขายังมีผลกับความรู้สึกเธออยู่ดี
บรรยากาศในโต๊ะค่อย ๆ คลายความตึงเครียด เสียงหัวเราะของส้มโอกับพี่คีย์ช่วยดึงจังหวะทุกอย่างให้ผ่อนลง ฟ้าหัวเราะกับโยธาเรื่องเพลงแปลก ๆ ที่ดีเจเปิด ส่วนกันต์นั่งฝั่งตรงข้ามน้ำอิง เขาหยิบเบียร์ขึ้นจิบ ก่อนเอียงคอเหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง
“ว่าแต่ เหมือนเราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่าอะครับ?” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมขมวดคิ้วเบา ๆ
น้ำอิงเงยหน้าขึ้น หางตาเห็นว่า “เหนือเมฆ” ที่นั่งข้างกันต์เหมือนชะงักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“หรือพี่จำผิดหว่า?” กันต์หัวเราะเบา ๆ ในขณะที่น้ำอิงยิ้มบาง ๆ แล้วตอบเสียงเรียบว่า
“น่าจะจำผิดค่ะ คนอย่างอิง ไม่ใช่คนที่จะน่าจดจำนักหรอก” คำพูดนั้นเงียบไปแค่เสี้ยววินาที แต่ในใจของเธอกลับสะเทือนเหมือนถูกกระแทกเอง
"พูดเหมือนน้อยใจใครเลยนะครับ" โยธาเสริมขึ้นอีกคน ก่อนที่เหนือเมฆจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาน้ำอิงโดยไม่ตั้งใจ
เขาแค่...มองผ่านไปเหมือนทุกครั้ง และนั่นแหละ คือสิ่งที่ทำให้น้ำอิงอยากลุกออกจากโต๊ะเดี๋ยวนั้น
“ไปห้องน้ำแป๊บนะ” น้ำอิงหันไปบอกฟ้ากับส้มโอ ก่อนจะลุกขึ้นเดินเลี่ยงออกมาโดยไม่หันกลับ
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นกระเบื้องดังพอจะให้ใครบางคนได้ยิน กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ของเธอลอยผ่านตรงหน้าเหนือเมฆออกไป
ร่างบางยืนอยู่ตรงหน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำหญิง กระจกที่ไม่ได้ส่องให้เห็นแค่ความสวยของเธอ แต่มันกลับส่องเข้าไปถึงในความรู้สึกของหัวใจ และส่งผ่านออกมาทางแววตาแดงก่ำ
"ทำไมโลกต้องเหวี่ยงฉันกับเขาให้มาพบกันอีก ทำไม!!"
