บทที่ 3 คุณคนน่ารัก (2)
แน่นอนว่าทันทีที่ได้ยินสวดมนตร์ก็อึกอักพูดอะไรต่อไม่ถูก เพราะถ้าจะให้ตอบว่าไม่ได้ก็ไม่รู้จะมีชะตากรรมอย่างไร ตั้งแต่เกิดจนอายุสิบแปดปีเมื่อไม่กี่อาทิตย์ ยังไม่เคยเจอคนที่เข้าหาแบบนี้เลย อาจเพราะเรียนโรงเรียนนานาชาติ เพื่อนส่วนใหญ่จึงค่อนข้างเกรงใจและมีมารยาททางสังคมกันมากจนเธอไม่คุ้นชินกับการเข้าหาที่ค่อนข้างอุกอาจแบบนี้
“คือ...”
“ได้ไหม ได้ปะ ขอจีบได้ปะ ชอบมากอะ โคตรน่ารักเลยอะ”
พลั่ก!
“เฮ้ย!!” เจที่เห็นว่าเพื่อนเริ่มออกแนวคุกคามผู้หญิง แน่นอนว่าถึงเขาจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้แต่ก็ถูกสอนว่าควรให้เกียรติเพศแม่ให้ดี เพราะผู้หญิงทุกคนควรได้รับการปกป้อง จึงจัดการเขกกะโหลกเพื่อนรักไปหนึ่งที “ไอ้เจ มึงตบหัวกูทำไมเนี่ย!”
“ตลกดีนะไอ้ขวด ไม่เห็นหรือไงว่าน้องเขากลัวมึงหมดแล้ว” เจตบหัวโล้นๆ นั่นอีกที แต่ฝ่ามือก็โดนจับไว้ก่อน ดูเหมือนว่าขวดจะเจ็บหนักกับรอบแรกพอแล้ว “คุกคามงี้น้องเขาแจ้งตำรวจได้นะไอ้สัส”
“เมียเก่าไม่ให้สปาร์ค แต่กูไม่แคร์ กูจะหาคนสปาร์คใหม่” ขวดลูบหัวทรงสกินเฮดของตัวเอง เสียหน้าเลย หักหน้าเขาต่อหน้าผู้หญิงหน้าตาน่ารักแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเป็นเพื่อนอาจต้องมีหมัดมวยกันสักยก “พอดีว่าสนใจคนนี้ กูอยากได้ มีปัญหาป่าว”
“ถามความสมัครใจเด็กก่อนไหม” เพื่อนของเขาคลึงขมับตอนที่พูดอย่างมีเหตุมีผล แน่นอนว่าท่าทางของเด็กสาวดูประหม่าและสั่นกลัวมาก ดูท่าเพื่อนเขาคงไม่ต่างกับขยะในสายตาเธอ ซึ่งก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ตะขวดค่อนข้างพิเศษ เขาสมาธิสั้นและเป็นคนที่ไม่ค่อยเกรงใจคนอื่น แต่เนื้อแท้ก็เป็นคนดี... มั้ง
แต่ยิ่งแสดงออกแบบนั้น ก็แบ่งแยกผ่านสายตาของสวดมนตร์ได้ชัดเจน ว่าเจดูน่าจะคุยง่ายกว่าผู้ชายคนนี้
“นะ... หนูมีเงินค่ะ” เธอตระหนักได้หนึ่งอย่าง อาจเพราะชุดที่สวมใส่นั้นมาจากโรงเรียนนานาชาติที่ฐานะทางบ้านของนักเรียนส่วนใหญ่ค่อนข้างมีฐานะ พวกเขาน่าจะเข้าหาจากเรื่องนั้นหรือเปล่า เธอเลยเลือกที่จะหันไปคุยกับเจเพราะเขาดูท่าทางพูดจารู้เรื่อง “หนูมีอยู่สามร้อยค่ะ... ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ”
“เหยดโด้ น้องรวยจังอะ” แต่นั่นไม่ได้อยู่ในทางเลือกที่ขวดมีในใจ เขาชอบเธอจริงๆ และดูเหมือนไม่ได้อยากได้เงินด้วย “แต่พี่มีตังค์อยู่แล้ว อีกอย่างที่คุยเนี่ยคือจะจีบ ไม่ได้จะขอตังค์”
“แต่หนูไม่ได้ที่จะ...”
“เฮ้ย ไอ้เจ” แต่ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กกว่าจะทันได้พูดอะไรออกไป ขวดก็เอื้อมแขนไปกอดคอเจแล้วกระแทกแทรกเสียงดังฟังชัด ไม่ยอมใส่ใจที่จะฟังคำอ้อนวอนของอีกฝ่าย “สรุปกูไม่ไปตีกับไอ้เหี้ยเต้ละนะ พอดีว่ามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการ”
“อะไร มึงอย่ามาปัญญาอ่อนไอ้เหี้ยขวด” เอาอีกแล้ว เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้เลย เจคิ้วกระตุกข้าวขวายิบๆ ดูเหมือนจะมีลางร้ายซะแล้ว
“มึงก็รู้ เรื่องหญิงสำคัญกว่าศักดิ์ศรี” ชายหนุ่มทรงผมสกินเฮดฉีกยิ้มจนตาหยี “ค่อยเคลียร์หลังกูคลาดกับน้องแล้ว เคไหม”
“มึงนี่มันสันดานเสียจริงๆ ไอ้ขวด” เจแสนเอือมระอาแต่คงพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะขวดคือเพื่อน อีกอย่างมันก็เป็นตัวตั้งตัวตีของกลุ่มด้วย ส่วนใหญ่พวกน้องๆ จะฟังมัน และเขาเองก็มีนิสัยเสียเรื่องตามใจเพื่อนไม่อยากขัด เพราะไอ้ขวดมันหัวแข็งและรั้น ถึงไม่ยอมมันก็ไม่ฟังอยู่ดี “กูจะเป็นหัวนำเอง ส่วนมึงจะไสหัวไปไหนก็ไป”
ทนความกดดันที่ส่งผ่านรังสีอำมหิตของพี่ขวดไม่ไหว เจยอมโบกธงยอมแพ้ ไม่รู้ว่าชะตากรรมของน้องคนสวยจะเป็นยังไง ยิ่งอยู่กับไอ้คนที่โคตรจะพิเศษคนนี้
“เพื่อนรัก” ขวดรู้อยู่แล้วว่ามันจะตามใจเขาจึงฉีกยิ้มกว้างกว่าเก่า สมใจเขาจริงๆ ยิ่งสวดมนตร์รู้ว่าการเจรจากับเจไม่เป็นผลเพราะเขาคือพวกเดียวกันก็แทบจะน้ำตาร่วง “เออ มึงพาเมียมึงไปโรงแรมบ่อยนี่ แถวไหนม่านรูดถูกๆ บ้างวะ”
“ไอ้เหี้ยเอ้ย”
“บอกกูหน่อยนะเพื่อน”
“ไม่ดีมั้ง กูไม่แนะนำ” เจรู้ดีว่าเพื่อนเขาคิดอะไรอยู่ ทำแบบนี้เหมือนคุกคามทางเพศเพราะอีกฝ่ายไม่ยินยอม เขาเองก็มีหน้าที่ต้องชักจูงเพื่อนให้เข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้องเหมือนกัน เพราะนั่นคือหน้าที่ของเพื่อนสนิท เจจึงกระซิบข้างหูขวดอย่างมีนัยยะ
และนั่นทำให้ชายหนุ่มทรงผมสกินเฮดสีทองสว่างตาลุกวาว
“มึงนี่มันความคิดดีจริงๆ” พี่ขวดยักคิ้วให้เจที่พยักหน้าน้อยๆ ก่อนที่เขาจะหันมามองสวดมนตร์ที่ยืนหน้าซีดเซียวอยู่เพราะเธอยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์นัก
ม่านรูด... แค่ได้ยินก็ขนลุกแล้ว
ของแบบนั้นถึงเธอจะไม่มีประสบการณ์และไร้เดียงสา แต่สถานที่แบบนี้ใครๆ ก็รู้ดีว่าเขาเอาไว้ทำอะไรกัน!
“ทำดีๆ นะไอ้ขวด”
“เอาล่ะ ไปสปาร์คกันเหอะน้อง” พอเจรจากับเพื่อนของเขาจบ สิ่งที่มนตร์ไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุดก็มาถึง ร่างสูงโปร่งหันมากอดคอเด็กสาวอย่างไม่สนใจสายตาใครต่อใครที่มองมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นดูป้ายสถานีถัดไป
พอเห็นว่าถึงชานชาลาหนึ่งพอดี เขาก็กระดิกรองเท้าที่ดูเหมือนจะทำจากโลหะจนเกิดเสียงปึกๆ บนพื้นรถไฟฟ้า รอจนรถเคลื่อนตัวมาจอดสนิทตรงหน้าป้ายชานชาลา ขวดรั้งคอให้ร่างเล็กเดินตามมา แต่อีกฝ่ายขืนตัวไว้ แม้ว่าจะสู้แรงเขาไม่ได้ก็ตาม
“เป็นอะไรอะ?” เขาเลิกคิ้วถาม ตอนนั้นสวดมนตร์ถึงได้น้ำตาร่วงเผาะลงมา
“มะ... ไม่เอานะคะ เอาเงินหนูไปก็ได้ แต่อย่าพาหนูเข้าโรงแรมเลยค่ะ” ขวดเริ่มเปลี่ยนมาขมวดคิ้วที่บากเป็นลายทาง คนตัวเล็กที่ตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนเขากำลังสะอึกสะอื้นร้องขอความเห็นใจอย่างถึงที่สุด “... ขอร้องนะคะ ได้โปรดเถอะ หนูยังไม่พร้อมจริงๆ”
“เฮ้ย ครั้งแรกเหรอ” ขวดตะคอกเสียงดังอีกฝ่ายสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองทั้งน้ำตา เริ่มหวั่นใจว่าเขาจะทำร้ายกัน แต่ทว่า... “เอาจริงๆ ปะ นี่ก็ครั้งแรกของพี่เหมือนกัน”
มะ... หมายความว่ายังไงน่ะ
***** คำเตือนก่อนอ่าน *****
ในตอนนี้จะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระเอก
เเต่ไม่มีล่วงละเมิดเด็กอายุต่ำกว่า 18 เเละจะผันตัวเป็นคนดีในภายหลัง
ขอย้ำอีกทีว่าไม่สนับสนุนการกระทำคุกคามผู้หญิงในทุกๆ กรณีทั้งนั้น
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณล่วงหน้าค้าบ
แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ควันบุหรี่ตลบอบอวลที่ลอยละล่องอยู่ข้างตัวทำให้เด็กสาวย่นจมูก เธอไม่ค่อยถูกกับกลิ่นมลพิษพวกนี้ ในขณะที่อีกฝ่ายคีบมันมาสูบหน้าตาเฉยโดยไม่มีทีท่าว่าจะสังเกตเห็นสีหน้าเหยเกของอีกฝ่ายเลยสักนิด
สถานที่ตรงหน้าเป็นที่ที่ค่อนข้างแปลกตาสำหรับสวดมนตร์ และค่อนข้างแตกต่างจากลุคเจนจัดของอีกฝ่าย เพราะมันคือสวนสาธารณะที่ติดกับสนามเล่นเด็กที่ไม่ไกลจากสถานีนัก ชายหนุ่มที่นั่งยองๆ สูบบุหรี่นั้นผลักชิงช้าให้เธอจากด้านหลัง ในมือของเด็กสาวถือไอศกรีมที่เริ่มละลายตกลงพื้น
นี่มันคือการเข้าโรงแรมประเภทไหนกัน แล้วทำไมเขาถึงไม่ได้ทำในสิ่งที่เธอกลัวเลยสักอย่าง
“เอ่อ... คือ” สวดมนตร์ตัดสินใจโพล่งออกมาหลังจากทนความอึดอัดมาเนิ่นนาน ขวดหยุดผลักชิงช้าในทันที
“มีไร”
“คือ...” ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี แต่เขาซื้อไอศกรีมให้เธอด้วย “ขอบคุณสำหรับไอศกรีมค่ะ”
“แต่แม่งน่าเบื่อชิบหาย ปกติไอ้เจมันทำงี้กับเมียเหรอวะ” แต่อีกฝ่ายกลับพึมพำออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์ทั้งตัวเองและเพื่อนของเขา อาจเพราะขวดนั้นมีประสบการณ์ในการจีบผู้หญิงมาน้อยมาก เรียกได้ว่า ‘โบว์’ แทบเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาคบเป็นแฟนด้วย แต่ชีวิตขวดมีแต่เรื่องต่อยตี เขาจีบผู้หญิงไม่เป็น เน้นแค่ความมั่นใจแบบผิดๆ
และนั่นคือช่องโหว่ เพราะแม้แต่เสียตัวก็ยังไม่เคย เรื่องม่านรูดก็จำมาจากหนังเอวีทั้งนั้น แต่ถ้าไอ้เจบอกว่าไม่เหมาะ เขาก็จะฟัง เพราะอีกฝ่ายมีผู้หญิงข้างกายเยอะยิ่งกว่ากางเกงในเสียอีก
เขาในวัย 20 ปียังถือว่าน้องใหม่สำหรับเรื่องความรัก เขามักฟังคำแนะนำของเจเสมอ โดยไม่รู้เลยว่าครั้งนี้กำลังถูกเพื่อนเขาแกล้ง
สวดมนตร์เองก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน มันก็ดีที่ไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่กลัว แต่เธอก็ไม่ค่อยชินกับผู้ชายคนนี้ ท่าทางเขาดูไม่น่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเด็กหรือคนแก่ด้วย หน้าตาดุๆ มีแผลที่หางคิ้วขวา และทรงผมสกินเฮดสีทองสว่างที่โดดเด่นมากในแง่ของเด็กเกเร
อีกฝ่ายทิ้งมวนบุหรี่แล้วล้วงจากซองมาจุดอีกครั้ง นี่เป็นมวนที่สามแล้ว เขาเบื่อหน่ายถึงขีดสุด
“ไม่กินอ่อ ไอติมอะ” เด็กสาวที่นั่งชิงช้าหุบขาและพยายามอยู่ให้เงียบที่สุดสะดุ้งโหยง มองไอศกรีมที่เริ่มละลายเลอะมือตัวเอง ก่อนที่จะถูกฝ่ามือใหญ่ของอีกฝ่ายคว้าข้อมือที่เลอะไอศกรีมที่เริ่มละลายยกขึ้นสูง
ขวดเลียไอศกรีมจากด้านบนผ่านมือของเธอ แต่รสสตรอเบอร์รี่ไม่ใช่รสที่เขาชอบ เพราะมันหวานเกินไป
“แหวะ หวาน” เขาผละออกทันที ในขณะที่เด็กสาวยังนั่งตัวแข็งทื่อยู่ นี่แทบเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกผู้ชายถือวิสาสะจับตัวแบบไม่ทันตั้งตัว ความอุ่นวาบยังอยู่ ไอศกรีมที่เลอะมือก็ยังอยู่ “เบื่อแล้วว่ะ ไปโรงแรมกันเหอะ”
เพราะดูท่าแล้วไอเดียของไอ้เจไม่เวิร์คเท่าไหร่ เขาโคตรจะเบื่อ
“!!”
แต่นั่นก็ไม่ต่างกับฝันร้ายของสวดมนตร์เช่นกัน
สรุปเขาก็ยังจะไปเหรอเนี่ย!
“มะ... ไม่เอานะคะ ไม่เข้าโรงแรม ฮึก” การดึงดันให้เธอเดินตามมามันยากเย็น เพราะน้องมนต์คนสวยเอาแต่สะอื้นและรั้งแรงเขาไว้อยู่ท่าเดียว
หลังจากที่ขวดตัดสินใจว่าจะเข้าม่านรูด เขาก็ทำตามใจตัวเองทันที ไอ้เจเดาผิดแล้วที่ว่าเขาจะไม่พาเธอไปที่นั่น เพราะในหัวเขายังไงที่นี่ก็ตรงสไตล์ของเขาที่สุด
“เล่นตัวอะไรนักหนาอะ ผู้หญิงคนอื่นไม่เห็นจะรอ มีแต่จะเซย์เยสถ้าพี่พาไป” เขาพูดอย่างมั่นอกมั่นใจทั้งที่ความเป็นจริงไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าหาสักเท่าไหร่เพราะความอ้อนตีนแถมยังรักอิสระอย่างสุดตารางวัดของเขา หรืออีกอย่างคงเป็นเพราะขวดไม่ค่อยเข้าใจผู้หญิงเท่าไหร่ เขาโตมาแต่กับผู้ชาย เลยเป็นคนที่แข็งกระด้าง
แต่สวดมนต์ไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่เขาพยายามจะอวดอ้าง เธอทั้งขืนตัวทั้งร้องไห้เหมือนกำลังจะถูกอีกฝ่ายลากไปกระทืบหลังวัดก็ไม่ปาน
คนมองเต็มไปหมด
อย่าทำเหมือนไม่เต็มใจได้ป่าววะ รู้นะว่าในใจก็อยาก กูรู้ กูเรียนมา
ถึงชีวิตจริงเขาจะยังซิงก็ตามที
“ตะ แต่หนูเพิ่งอายุสิบแปด หนูยังไม่เคย ละ... แล้วหนูก็ไม่อยากเคยด้วย” คนตัวเล็กร้องไห้พูดเสียงสั่นเครือ ขืนแรงไว้สุดตัว แต่ก็ยังสู้แรงมหาศาลของเขาไม่ได้อยู่ดี ขวดออกกำลังกาย เขาชอบเล่นกล้าม ตัวของเขาเลยค่อนข้างหนาและแรงเยอะ
“ว่ายังไงนะ” สิบแปดนี่ยังไม่เคยเหรอ? ปกติใครๆ เขาก็เคยก่อนสิบแปดทั้งนั้น จากสังคมที่ขวดเห็นจนชินตาหล่อหลอมให้เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำ ถึงเขาจะยี่สิบแล้วแต่ยังเวอร์จิ้นก็เถอะ
“นะ... หนูไม่เคยจริงๆ ค่ะ” แต่นั่นไม่ใช่กับสภาพแวดล้อมอันเรียบร้อยที่สวดมนตร์อยู่ ท้ายประโยคคนตัวเล็กกว่าช้อนสายตาขึ้นมามองแบบไม่ได้ตั้งใจตอนที่ขวดหันขวับไปมองอย่างไม่เชื่อหูว่าหน้าตาสวยจนน่าจะหาผัวได้เป็นสิบแบบนี้เนี่ยนะยังไม่เคย? แต่ความคิดก็ตกตะกอนไปเมื่อเห็นดวงตากลมโตที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตา
ตึกตัก
สายตาราวกับสัตว์กินพืชที่มองมาทางผู้ล่าทำให้เขาใจละลายอีกรอบของวัน
ยังไงเด็กคนนี้ก็โคตรน่ารักจริงๆ
“ห้าชั่วโมง”
“สามร้อยบาทค่ะ ขอพร้อมบัตรประชาชนนะคะ” ขวดล้วงแบงค์ร้อยสามใบวางลงบนเคาน์เตอร์ ก่อนที่จะล้วงบัตรประชาชนในกระเป๋ากางเกงส่งให้พนักงานหญิงแก่ที่ยืนหน้าตึงอยู่ตรงเคาน์เตอร์เก่าๆ อย่างเก้ๆ กังๆ ดูผิดธรรมชาติ เพราะเขาไม่เคยมาที่แบบนี้มาก่อน
ป้าพนักงานผู้หญิงร่างท้วมคนนั้นยืนใบเอกสารเล็กๆ ให้เขาเขียนชื่อตัวเองลงไป ในขณะที่จะเหลือบมองไปทางสวดมนตร์ที่ยืนสะอื้นซิกๆ ทำตาปริบๆ อยู่ข้างหลังของชายหนุ่มในเสื้อช็อปสีเทา เมื่อกวาดสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าก็เห็นว่าเธอใส่ชุดนักเรียนและหน้าตานั้นดูอ่อนวัยมาก
“ไม่ทราบว่า...” ป้าอ้าปากพูดขึ้นมา “น้องผู้หญิงอายุถึงสิบแปดหรือยังคะ เห็นใส่ชุดนักเรียน ถ้าไม่ถึงไม่สามารถเปิดห้องให้ได้นะคะ”
“ถึงครับ” ขวดประหม่า เขาแถแบบงูๆ ปลาๆ เพราะไม่รู้ว่าควรเข้าโรงแรมตอนอายุเท่าไหร่ เพราะเขาเรียนรู้มาจากสื่อโซเชี่ยลล้วนๆ โดยไม่มีประสบการณ์ใดๆ “พอดีแฟนผมชอบแต่งชุดนักเรียนย้อนวันวาน จริงๆ ถึงแล้วครับ”
“อ๋อค่ะ” พนักงานมองใบหน้าตื่นๆ ของขวด เธอไม่ได้เชื่อเขาเต็มร้อยนัก แต่ขอแค่ได้เงิน เรื่องเทาๆ พวกนี้จะยอมปล่อยผ่านไปอย่างไม่แยแส ยังไงหลายๆ ที่ก็ทำกันแบบนี้ ร้านเหล้าบางที่ยังให้เด็กอายุไม่ถึงสิบแปดปีเข้าเลย ขอแค่ได้กำไร นี่แหละคือความจริงที่น่าสังเวชของโลกสีเทา “นี่กุญแจค่ะ เชิญที่ห้อง 209 ชั้น 2 ที่นี่ไม่มีลิฟต์ ขึ้นบันไดทางซ้ายมือ
“ขอบคุณครับพี่” ตะขวดถอนหายใจโล่งอก ในขณะที่จูงมือนุ่มๆ ของสวดมนตร์ขึ้นบันไดไปบนชั้นสอง
ม่านรูดเก่าๆ สมกับความปลอดภัยที่หละหลวม แถมยังเป็นตึกเล็กๆ สมกับรายได้ของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ขวดลากมนตร์ขึ้นมาจนถึงชั้นสอง และเดินตรงไปยังห้อง 209 ที่พนักงานเปิดห้องทำความสะอาดรอเอาไว้
สิ่งแรกที่เขาทำคือสำรวจตรวจตราห้องพักเป็นอย่างแรกเพราะไม่เคยมาแม้ว่าจะมีเพื่อนที่ช่ำชองเรื่องพวกนี้มากก็ตาม เริ่มด้วยการล็อคห้องแล้วเปิดห้องน้ำดู ที่นี่มีผ้าเช็ดตัว สบู่ก้อนเล็กๆ โง่ๆ และขวดน้ำยี่ห้อถูกๆ สองขวด ห้องน้ำแคบแสนแคบแถมยังสกปรกอีกต่างหาก
ครบสูตรเหมือนที่ฟังในเดอะโกxเลย
แต่อึดอัดมีดสปาต้าในกางเกงชะมัด ขวดจิ๊ปากเซ็ง ก่อนที่จะล้วงด้ามมีดปลายแหลมดึงออกมาจากกางเกงยีนส์ต่อหน้าต่อตาคนตัวเล็กที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่มุมห้อง
