บทที่ 4 คุณคนน่ารัก (3) จบตอน

แต่อึดอัดมีดสปาต้าในกางเกงชะมัด ขวดจิ๊ปากเซ็ง ก่อนที่จะล้วงด้ามมีดปลายแหลมดึงออกมาจากกางเกงยีนส์ต่อหน้าต่อตาคนตัวเล็กที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่มุมห้อง

“อะ... เอ่อ” สวดมนตร์ทำหน้าตาตื่น เหลือบมองมีดปลายแหลมที่ถูกซ่อนไว้ด้วยฝักมีด แต่แค่นั้นก็รับรู้ได้ถึงความยาวของปลายมีด พร้อมกับกรูไปชิดกับผ้าม่านริมหน้าต่างอย่างจนปัญญาจะหนีเอาตัวรอด “มะ... มีด ทำไมพี่ถึงมีมีดคะ”

“พี่พกไว้เป็นอาวุธป้องกันตัวค่ะ” จริงๆ ถ้าพูดแบบไม่เสนาะหูคนฟังหน่อยก็คือเขาพกพาไว้มีเรื่องโดยเฉพาะนั่นแหละ แต่พูดไปเดี๋ยวผู้หญิงจะกลัวเอาเปล่าๆ ขวดแก้ต่างสร้างความเป็นคนดีให้ตัวเอง “ก็อย่างว่า วิทยาลัยพี่ถ้าไม่มีเรื่องมีราวก็ถือว่าแปลกแยก”

“...”

“ว่าแต่ถามทำไม?” ท้ายประโยคชายหนุ่มในทรงผมสกินเฮดสีทองสว่างหันไปสบสายตาอีกฝ่ายแบบไม่คิดอะไรมากนัก พอเห็นว่าเธอเริ่มขยับตัวหนี เขาจ้องใบหน้าสวยหวานนั่นครู่หนึ่ง ก่อนที่ขวดจะสาวเท้าอาดๆ และ...

ปึง

“พะ พี่” เขาวางฝ่ามือท้าวแขนกับกระจกข้างตัวเธอ ยิ่งชิดใกล้กันแบบนี้ สวดมนตร์จึงสัมผัสได้ว่าขวดทั้งตัวสูงและตัวใหญ่มาก ยิ่งเมื่อคนต่างเพศตรงหน้าที่ใกล้ยิ่งกว่าใครในโลกพยายามสำรวจตรวจตราเธออย่างเอาเป็นเอาตาย ทำเอาน้องมนตร์ถึงกับหลับตาปี๋ “ยะ... อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ”

ขวดไม่ได้เปิดปากพูดอะไร หากแต่ไล่สำรวจตั้งแต่ใบหน้ารูปไข่เรียวเล็ก จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอมชมพูที่แทบดูไม่ออกว่าทาลิปมาบ้างหรือเปล่า หรือปากเธอมันชมพูตั้งแต่แรกเกิดอยู่แล้ว พร้อมกับร่างกายผอมบาง ผิวที่ขาวสว่างอมชมพู

ไม่ว่าจะมองกี่ที เธอก็สวย ทั้งน่ารักและสวย สวยจนหยุดเวลาได้

ขวดนั้นไม่มีประสบการณ์ เขาทำไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น พอคิดว่าแก้มของเธอจะนุ่มขนาดไหน ก็เผลอเอามือไปแตะ

“กะ... กรี๊ด” สวดมนตร์กรีดร้องเบาๆ ขุนลุกพรึ่บทั่วตัว และนี่คือครั้งแรกที่เธอถูกคนต่างเพศสัมผัสตัวเนื้อแนบเนื้อกันแบบนี้ ฝ่ามือหนาทั้งหยาบและกร้านนั้นลูบแก้มเธอ ก่อนที่จะจิ้มมันจนผิวนุ่มนิ่มนั้นบุ๋มลงไปราวกับมาชเมลโล่

แก้มโคตรนิ่ม

แล้วปากล่ะ ปากชมพูขนาดนี้ ทาลิปมาหรือเปล่า

คิดแบบนั้นเขาจึงทำตามสัญชาตญาณโดยไม่สนถูกผิดของตัวเองอีกครั้ง หัวใจของขวดเต้นแรงจนเจ็บ ในขณะที่ปลายนิ้วโป้งจะเกลี่ยกลีบปากเล็กเบาๆ

ไม่มีร่องรอยของลิปสติก นี่มันสีปากธรรมชาติ

หน้าอกสวดมนตร์หอบถี่ขึ้นลงเป็นจังหวะเพราะแรงสั่นกลัว ขวดไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อหลุบตาลงมองปราดเดียวก็รู้ได้ในทันทีว่าน่าจะคัพเอเพราะหน้าอกน้องเล็กกว่าที่คิดไว้

แต่ไม่เป็นไร พอดีว่าเขาชอบผู้หญิงนมเล็กอยู่แล้ว

จนในจังหวะหนึ่ง

“เฮือก” คนตัวเล็กดันหอบเฮือกออกมาเหมือนกลัวจัดจนต้องกลั้นหายใจ และตอนนี้กำลังจะขาดอากาศ ขวดรีบผละมือออกทันที “มะ... ฮึก”

จังหวะนั้นมนตร์ก็เริ่มสั่นจนหอบถี่ขึ้น คราวนี้เหมือนเป็นโรคหอบ จนทำให้ตะขวดรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำอะไรที่ไม่ดีมากๆ ลงไป

“ยาพ่น ยาพ่นอยู่ไหน” นึกขึ้นได้ว่าคนเป็นโรคหอบต้องมียาพ่น เขาเลยถามเธอ

“นะ... ในกระเป๋ากระโปรงของหนูค่ะ” ขวดไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นการถือวิสาสะหรือไม่ เขารีบล้วงกระเป๋ากระโปรงของเธอที่เริ่มหอบหนักขึ้น เมื่อเจอยาพ่นพกพาจึงส่งให้สาวเจ้าที่พยายามพ่นยาลดอาการหอบของตนเองจากความตกใจกลัว สวดมนตร์มีอาการที่ดีขึ้น เธอค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งยองๆ แล้วกอดเข่าตัวเอง

“ไม่เป็นไรใช่ปะเนี่ย”

“ดะ... ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ” ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายทำให้กลัวขนาดนี้แท้ๆ แต่เธอยังใจดีไปขอบคุณเขาอีก สวดมนตร์รู้สึกท้อแท้กับความขี้เกรงใจของตัวเอง ในขณะที่ขวดจับหน้าอกข้างซ้ายที่เต้นแรงของเขาไว้ ก่อนจะล้มตัวลงนั่งบนเตียง

“แปลว่าไม่เคยจริงอะดิ” ท่าทางยิ่งชัดเจนขนาดนั้น เขากล้าถามได้ยังไงในเมื่อตัวเขาเองก็ยังไม่เคย

“มะ... ไม่เคยเลยค่ะ” สวดมนตร์เสียงสั่น เธอกลัวจนไม่กล้ามองหน้าเขา “... หนูไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย แล้วก็ยังเรียนอยู่ มันไม่เหมาะสม”

“งั้นเหรอ” ขวดครางรับสั้นๆ รู้สึกแปลกใหม่นิดหน่อย พอๆ กับมีความคิดที่ว่า “แปลว่ากับพี่นี่ก็ไม่ไหวใช่ปะ”

น้องมนต์ส่ายหน้าหวือจนหัวแทบหลุด “นะ หนูจะมีหลังจากที่แต่งงานแล้วเท่านั้นค่ะ”

ขวดชะงักไป ถึงเขาจะมั่นใจในตัวเองสุดโต่งและมีความคิดขวาจัดแบบผิดๆ แต่คราวนี้เริ่มนั่งคิดหนักกับตัวเอง วัยหัวเลี้ยวหัวต่อทำให้เขาไม่คำนึงถึงผิดชอบชั่วดี

แต่เขาก็ไม่อยากทำอะไรกับผู้หญิงที่ไม่ยินยอม

พอดีว่าหน้าของไอ้โบว์มันผุดขึ้นมาน่ะ อีกอย่างเขาก็มีพี่สาวด้วย ถึงแม้จะไม่ถูกกันก็ตาม

ถึงจะเหม็นขี้หน้าพี่ตัวเอง แต่ถ้ามีผู้ชายคนไหนทำแบบนี้กับมัน ก็คงอยากซัดหน้าสักเปรี้ยงเหมือนกัน

“ก็ได้” ขวดหยัดกายออกจากตัวเธอ เขาไม่ได้มีความกล้าพอที่จะนอนกับใครก็ได้ เพราะถึงจะมั่นใจและขวางโลกแค่ไหน จุดอ่อนของขวดก็ยังอยู่ที่ผู้หญิงอยู่ดี ขนาดแฟนเก่านอกใจให้เห็นตำตา เขายังไม่คิดจะไปเอาเรื่องอีกฝ่ายเลย “หรือเอางี้ดี”

“... คะ?”

“เรียนจบมาแต่งกันไหม” เพราะเขาชอบมาก ชอบจนสาธยายเป็นคำพูดไม่ถูก เรียกได้ว่านอกจากตรงสเปคมาก ยังล้มแชมป์คนเก่าจนแทบไม่เห็นฝุ่น สวดมนตร์คือผู้หญิงในฝันของเขา “พอดีพี่ชอบหนูมาก เห็นครั้งแรกก็แบบตกหลุมรักเลยอะ แบบรอได้ ถ้าจะได้สปาร์คจอยด้วย”

“...”

“ถือว่าวันนี้เราเข้าม่านรูดด้วยกัน เป็นแฟนกันแล้วนะ” เขาทึกทักเอาเอง เพราะชอบแล้วก็ต้องได้ ไม่อยากให้ใครมาแย่งชิง อีกอย่างก็ไม่เคยมีแฟนเป็นจริงเป็นจัง ขวดยังซิงแถมไร้เดียงสารู้จักแค่โลกต่อยตี เลยไม่รู้ว่าควรต้องจีบผู้หญิงยังไง “ฝากไปบอกพ่อเธอด้วย”

“...!!”

ก็เขาสปาร์คตั้งแต่แรกพบอะ ถ้าไม่ได้เป็นแฟนคงไม่ยอมแน่ๆ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป