บทที่ 3 ยูกิ : 2
‘แล้วทำไมล่ะ?’
คำถามอื่นๆ เริ่มจะผุดขึ้นมาในหัวน้อยๆ คิดยังไงก็คิดไม่ตก
หรือว่าเขาจะทิ้งฉันไปแล้วงั้นเหรอ? แต่เขาจะลงทุนพาฉันมาปล่อยไว้ที่ต่างเมืองขนาดนี้เพื่ออะไรล่ะ เขาไม่น่าจะใช่คนแบบนั้น ความรู้สึกฉันมันบอกว่าเขาเป็นคนดี
“ฉันจะต้องออกตามหาเขา ใช่แล้วหงส์ เธอจะต้องออกไปตามหาเขา”
เมื่อตัดสินใจได้ ฉันเลยเก็บข้าวของซึ่งมีเพียงกระเป๋าสพายใบเล็กๆ สีชมพูอ่อน ที่ติดตัวมาตอนที่ฉิงเฉาลากฉันเหมือนกับวิ่งหนีอะไรสักอย่างที่ฮ่องกง
“อ้าวแม่หนู จะออกไปข้างนอกเหรอ” ทันทีที่เดินลงมาชั้นล่างของบ้านเช่า ลุงที่ร่างท้วมๆ ที่เป็นเจ้าของห้องก็ทักขึ้น
“เอ่อ พอดีจะออกไปข้างนอกหน่อยค่ะ” ฉันตอบเสียงเบาให้กับเจ้าของบ้าน ไม่ชอบสายตาโลมเลียที่เขามองมาเลย มันดูไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้
“ออกไปหาผัวเหรอแม่หนู” ลุงอ้วนทุ้ยคนเดิมยังคงชวนฉันคุยต่อ
“ค่ะ ขอตัวนะคะ”
ฉันไม่อยากปฏิเสธว่าฉิงเฉาไม่ใช่สามีของฉัน แต่การที่บอกไปแบบนั้นมันดีกว่าบอกความจริงแน่ อย่างน้อยเขาคงไม่กล้ายุ่งกับคนที่มีสามีแล้ว
หลังจากที่เดินออกมาจากบ้านเช่าหลังนั้น ฉันก็ยืนมองสี่แยกที่ตัวเองยืนอยู่ตรงกลางแบบมืดแปดด้านไปหมด ไม่รู้จะเริ่มต้นจากที่ไหนก่อน
การที่ต่างบ้านต่างเมือง แถมยังไม่รู้อีกว่าที่นี่คือที่ไหน แล้วฉิงเฉาเขาออกไปตามหาญาติของแม่ที่ไหน ชื่ออะไร มันยิ่งยากกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีก
“เอาวะ! ลองหมุนตัวสักรอบสองรอบตรงทางไหนก็ไปทางนั้นแล้วกัน”
มึน!!
ความรู้สึกแรกหลังจากที่หยุดหมุนตัวสองรอบ มันเหมือนพื้นเอียงๆ ฉันเลยพยายามทรงตัวให้นิ่ง
จากนั้นก็ค่อยๆ ลืมตาชั้นเดียวของตัวเองทีละนิดๆ เพื่อปรับให้รับแสงสว่างจากแดดเมืองไทยที่ค่อนข้างจ้า
“ทางนี้สินะ” ฉันสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ หลังจากที่ได้เส้นทางที่จะเดินไปข้างหน้าแล้ว
แต่! ทำไมมันค่อนข้างน่ากลัวยังไงไม่รู้สิ ยิ่งเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ สภาพแวดล้อมข้างๆ มันยิ่งมีแต่ตึกสูง ตึงร้างเต็มไปหมด
“นายอยู่ที่ไหนนะฉิงเฉา”
สองมือกำสายกระเป๋าสพายข้างตัวเองแน่น กวาดสายตามองหาบุคคลที่กำลังตามหาไปด้วย ขอให้เจอทีๆ ฉันท่องคำนี้ตลอดก้าวย่างที่เดิน
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้ฉันมาโผล่อยู่ที่ไหน รอบข้างเริ่มมืดเพราะท้องฟ้าเริ่มจะปิดแล้ว แสงแดดที่เคยจ้าจัดตอนนี้มืดครึ้ม
น่ากลัว!
ความรู้สึกฉันมันบอกมาแบบนี้ ลางสังหรณ์บางอย่างมันบอกว่า...
‘อย่าก้าวเดินไปข้างหน้า’
กึก!!
แค่สองก้าวหลังจากที่รู้สึกหัวใจวูบไหวแปลกๆ จากลางสังหรณ์ก่อนหน้า ก็ทำให้สองเท้าน้อยๆ ที่สวมรองเท้าส้นสูงสองนิ้วหยุดชะงัก
น่ากลัว! สองคนนั้นน่ากลัวจัง!
เสียงในหัวมันกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง กับภาพชายสองคนที่กำลังมองตรงมาทางฉันด้วยสายตาเหมือนต้องตาเหยื่อชิ้นดี
“เฮ้! ดูสิพวกเราเจออะไร”
“สวยซะด้วย หุ่นแม่งน่ากินฉิบหาย”
‘หยาบคาย’
ฉันคิดกร่นด่าให้กับผู้ชายสองคนตรงหน้าหลังจากได้ฟังคำพูดนั้น สองเท้าน้อยๆ ค่อยๆ ก้าวถอยหลังออกมาทีละก้าว ทีละ...
“ว๊าย! ปล่อยนะ”
เร็วเกินไปแล้ว!!
ไอ้ผู้ชายร่างสูง หน้าบากๆ ผอมแห้งเหมือนพวกติดยา ตรงมาคว้าหมับเข้าที่สองมือเรียวเล็กของฉัน จับไพล่หลังไว้เหมือนตำรวจจับกุมนักโทษ
“จะทำอะไร ปล่อยฉันเถอะนะ ฉันแค่มาตามหาสามี”
ฉันรีบเอ่ยปากร้องขอด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว
“อ้าว! มีผัวแล้วว่ะไอ้แห้ง” เสียงผู้ชายผอมๆ ที่จับฉันอยู่ร้องบอกเพื่อนอีกคนที่กำลังเดินตรงดิ่งเข้ามาหาฉัน
ชื่อแห้ง แต่ทำไมตัวถึงได้อ้วน แผลเป็นเต็มตัว ช่างน่าเกลียดน่ากลัวอะไรแบบนี้
“ก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องสอน ลีลาคงดี”
ฉันสั่นหัวไปมา ดีดดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการที่กำมือฉันแน่น แต่ยิ่งดิ้น เหมือนคนพันธนาการยิ่งเพิ่มแรงบีบและกดจิกเล็บลงมาแรงกว่าเดิม
“งั้นกูให้มึงก่อน กูชอบแบบลื่นๆ”
พวกนี้คุยอะไรกัน คิดว่าฉันจะยอมให้เขากระทำป่าเถื่อนกับร่างกายฉันง่ายๆ เหรอ ใครก็ได้ช่วยฉันที
“ชะ ช่ว... อุ้บ”
จุก!
กำลังจะตะโกนให้คนช่วย แต่ไอ้ตัวอ้วนที่ชื่อแห้งต่อยเข้ามาที่ท้องฉันหนึ่งที มันรู้สึกจุกมากกว่าเจ็บสะอีก
“ไม่ร้องสิจ๊ะ คนสวย เปลี่ยนจากเสียงร้องเป็นเสียงครางให้พวกพี่ฟังดีกว่า หน้าสวยๆ หุ่นแซ่บๆ แบบนี้ เสียงครางจะหวานโดนใจขนาดไหนน้า~”
หยาบคาย สถุล ฉันไม่รู้จะด่าคนพวกนี้ด้วยคำไหนแล้ว พ่อคะ แม่คะ ใครก็ได้ช่วยหงส์ที
ในใจกู่ร้องอ้อนวอนถึงสิ่งที่สมองน้อยๆ ของตัวเองคิดออก ถ้าฉันยังพอมีบุญวาสนาเหลืออยู่ พระเจ้าโปรดส่งใครก็ได้มาช่วยฉันที แล้วฉันจะตอบแทนพระคุณของคนผู้นั้นแม้แต่ชีวิตนี้ก็ยอม
“มามะ มาให้พี่กินซะดีๆ”
“กรี้ด!!!”
ฉันรีบหลับตาปี๋ หลังจากที่ไอ้อ้วนพุ่งร่างน่าเกลียดของมันตรงมาจะฉีกกระชากเสื้อผ้าของฉันออก
มันจะจบลงตรงนี้งั้นเหรอ?
ร่างกายที่บริสุทธิ์ของฉันจะตกอยู่ในเงื้อมมือพวกสัตว์เดรัจฉานสองคนนี้จริงๆ ใช่ไหม
ตุ้บ ผลั้วะ อัก
อ๊าก!!!
“มึงเป็นใครวะ แส่ไม่เข้าเรื่อง”
ตอนที่ฉันกำลังถอดใจว่าครั้งนี้คงไม่รอดเงื้อมมือเดรัจฉานสองคนนี้แน่ๆ ก็ได้ยินเสียงดัง ตุบ ตับ คล้ายเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นเบื้องหน้า
เสียงนั้นดังอยู่ไม่ถึงสองนาทีก็เงียบไป รับรู้ได้ว่าร่างกายตัวเองหลุดพ้นจากการพันธนาการก่อนหน้านี้แล้ว เลยรีบหอบอากาศหายใจเข้าแรงๆ
