บทที่ 6 ยูกิ : 5
แอ้ด~
“เข้ามาสิ”
ฉันที่ยืนรอหน้าห้องนั้นได้ไม่นาน มอม้าก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับเรียกให้ฉันเข้าไปภายในห้องเชือดตรงหน้า
[Yuuki’s part]
ทำไมวันนี้ตาขวาผมกระตุกแปลกๆ ตั้งแต่เช้าแล้ววะ นี่ขนาดนั่งดูพวกบัญชีรายรับ-จ่าย ของยุกกี้คาสิโนที่ผมเป็นเจ้าของมาเกือบชั่วโมงแล้ว แม่งยังไม่หายกระตุกเลยมีแต่ยิ่งกระตุกถี่ๆ ขึ้นซะอีก
ก๊อกๆ
อยู่ๆ เสียงประตูห้องก็ถูกเคาะด้วยฝีมือใครสักคน เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาแบบที่ไม่ต้องรอผมเอ่ยบอก สันดานแบบนี้มีไม่กี่คนหรอกครับ
“ผมพาคนมาหา”
ว่าแล้วถ้าไม่ใช่เพื่อนผมก็ไอ้มอม้า ลูกน้องคนสนิทมือขวาของผมที่ผมรักมันเหมือนกับน้องในไส้
“ใคร?” ผมถามมันด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ตาก็ยังคงจดจ่อกับพวกตัวเลขตรงหน้าเหมือนเคย
“ผู้หญิง โคตรน่ารักอะเฮีย”
พรึ่บ!
ผมปิดแฟ้มเอกสารทันที หลังจากที่ไอ้มอม้าบอกว่ามีผู้หญิงมาหาผม ปกติผมไม่เคยมีลูกค้าหรือแขกผู้หญิงสักคน แล้วใครที่ไอ้นี่มันพามา
“ให้ผมพาเข้ามาเลยแล้วกันเนอะ เฮียจะได้เลิกคิ้วเป็นปมแบบนั้น”
ไอ้มอม้าพูดเองเออเองอยู่คนเดียว แล้วเดินไปเปิดประตูให้ใครสักคนเข้ามา
“มาแล้วครับเฮีย”
เสียงไอ้มอม้าบอกผม พร้อมกับร่างผู้หญิงที่ดูเด็กมาก กะจากระยะสายตาน่าจะสูงประมาณ 165-170 เซนฯ ได้
“สวัสดีค่ะ” เสียงเล็กๆ ใสๆ ฟังนุ่มหู แต่ผมกลับรู้สึกรำคาญดังขึ้นพร้อมกับสองมือน้อยๆ ยกไหว้ผมแบบมีมารยาท
“คนนี้?”
ผมเลิกคิ้วถามไอ้มอม้า ที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้หญิงผมยาวหยักศกสีน้ำตาลอ่อนๆ ถึงกลางหลัง ใบหน้าขาวใส ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล ดูแปลกตา
“อ้าว! เฮียจำเธอไม่ได้เหรอ ก็ไหนเธอบอกว่าเฮียช่วยชีวิตเธอไว้”
อะไรของไอ้มอม้ามันวะ!
ผมทำหน้างุนงงใส่มัน พร้อมกับปรายตาเฉี่ยวคมของตัวเองมองหน้าผู้หญิงที่อ้างตัวว่าผมเคยช่วยเหลือเธอ
เพ่งพินิจตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะมองยังไง ผมก็ไม่ยักกะจำได้ว่าเคยไปช่วยหรือเจอเธอที่ไหนมาก่อน
“เราเคยเจอกัน?” ผมถามผู้หญิงตาสีฟ้าด้วยเสียงนิ่งๆ
“ค่ะ ที่ตรอกนั่น” เธอตอบเสียงฉะฉาน
“ตรอกนั่น ตรอกไหน วันไหน”
ผมรัวคำถามออกไปด้วยน้ำเสียงปนหงุดหงิด ผมไม่ชอบเสวนากับพวกผู้หญิง แค่เห็นหน้ามันก็ดูขัดหูขัดตายังไงไม่รู้บอกไม่ถูก แต่ก็ยกเว้นบางคน
“เอ่อ...” เธอพูดเสียงติดขัด หันไปมองหน้าไอ้มอม้าด้วยแววตาละห้อย
“เฮียอย่าทำหน้าตาเหมือนจะฆ่าหงส์แบบนั้นสิ”
ไอ้มอม้าบ่นให้ผมเสียงเอือมๆ ผมเลยมอบสายตาพิฆาตให้มันไป
“เล่ามา เสียเวลา”
ขี้เกียจเปิดศึกน้ำลายกับไอ้ลูกน้องปีนเกลียวข้างๆ เลยหันไปไล่บี้เอากับผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าแทน
“คือ... วันนั้นที่ตรอก ฉันไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน แต่...”
ยัยตัวเล็กพูดเสียงแผ่วเบา คล้ายกับกำลังนึกชื่อสถานที่
“ช่างสถานที่มัน เล่าเหตุการณ์มาเผื่อจำได้”
ผมบอกปัดไปตามอารมณ์ที่เริ่มจะรำคาญการพูดคุยกับเพศแม่แบบนี้
“วันนั้นฉันกำลังจะโดนรุมข่มขืน แต่โชคดีที่คุณเข้ามาช่วยจัดการไว้ได้ทัน แต่ฉัน... ฉันยังไม่ทันขอบคุณ คุณก็เดินหนีออกมาก่อน”
ฟังดูคุ้นๆ นะ เหมือนเมื่ออาทิตย์ก่อนผมจะไปตามหาไอ้หนอนบ่อนไส้ที่กล้ามาล้วงคองูเห่าถึงถิ่นด้วยการเอายามาปล่อยให้คนที่มาเสี่ยงดวงที่คาสิโนผม
ผมตามสืบจนรู้ว่ามันไปกลบดานอยู่แถวๆ อู่ขนส่งไทย-ฮ่องกง ของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผมพอจะรู้จักมักจี่
ผมรอมันอยู่เกือบสามชั่วโมงแต่ไม่เห็นแม้แต่วี่แววของมัน สงสัยมันจะมุดหัวอยู่ใต้ดินหรือไม่ก็หนีหางจุกตูดกลับไปฟ้องไอ้พ่อหมาที่ส่งหมาเลียแข้งแบบไอ้ดำมาเป็นไส้ศึกที่ถิ่นผมแล้ว
“แล้วยังไง เธอตามหาฉันเพื่อ?”
เข้าใจว่าเคยช่วย แต่ไม่เข้าใจว่าเธอจะตามหาผมทำไม
“เอ๊า! ผมก็บอกเฮียแล้วไงว่าน้องหงส์จะมาตอบแท...”
ผมปรายตาดุๆ มองหน้าไอ้มอม้าที่มันกำลังเสือกเล่าในสิ่งที่ผมไม่ได้ถาม
“แฮ่ๆ ลืมตัว มันอึออัดอะเฮีย”
อึดอัดกับผีสิ!
ผมใช้สายตาด่ามัน แล้วส่ายหัวให้มันเบาๆ กับความขี้เสือกของไอ้มอม้า
