บทที่ 9 ยูกิ : 8
“เฮียแกก็ไม่เชิงไม่ชอบผู้หญิงหรอก เอาเป็นว่าก็คุยด้วยได้ แต่แค่ถ้าเลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง” ฉันพยัก มือยังคงปิดปากตัวเองไว้เหมือนเดิม
“ถ้าเธออยากตอบแทนบุญคุณเฮียยูจริงๆ ก็ตั้งใจทำงานแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะให้เธอเป็นคนดูแลเรื่องเกี่ยวกับเฮียยูกิทุกอย่างเอง”
“อื้ม หงส์จะทำสุดความสามารถเลย” ฉันตอบมอม้าด้วยใบหน้าจริงจัง
“แล้วหงส์อายุเท่าไหร่ ลูกเต้าเหล่าใคร” มอม้าซักประวัติฉัน
“คือ... ที่จริงแล้วหงส์ไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร พ่อแม่เป็นใคร เพราะตั้งแต่หงส์จำได้ หงส์ก็อยู่กับผู้ชายในภาพวาดที่นายเห็น เขาบอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของหงส์ เป็นคนบอกว่าตัวหงเองชื่ออะไร อายุเท่าไหร่”
“ความจำเสื่อม?” มอม้าทำคิ้วขมวดระคนตกใจ หลังจากที่ฉันเล่าประวัติตัวเองที่รู้คร่าวๆ ให้เขาฟัง
“ก็น่าจะ” ฉันพยักหน้าหงึกๆ ตอบ
“เฮ้อ! ทำไมผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบเธอถึงได้มาเจอเรื่องน่าสงสารแบบนี้นะ”
สีหน้ามอม้าบ่งบอกว่าเขาสงสารฉันจากใจจริง
“แล้วอายุล่ะ ฉันยี่สิบหก” มอม้าถามพร้อมกับบอกอายุตัวเอง
“ฉิงเฉาบอกว่าฉัน ย่างยี่สิบเอ็ดน่ะ” ฉันยิ้มมุมปากตอบมอม้า
“ห่างกันแค่ห้าปีเลย งั้นหงส์เรียกฉันว่าพี่มอม้าแล้วกัน”
“ได้ค่ะ แต่หน้าพี่ยังอ่อนกว่าอายุอยู่นะ”
ฉันพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับรอยยิ้มแซวขำๆ พี่มอม้าเองก็ยิ้มขำๆ ตอบฉันเช่นกัน
เขาใจดีจังเลยนะ ดีใจจังที่ชีวิตฉันได้เจอกับคนดีๆ แบบนี้
มอม้าพาฉันเดินดูทั่วทุกซอกทุกมุมของคาสิโน พร้อมกับแนะนำทุกคนให้ฉันรู้จัก สุดท้ายก็พาฉันมาพักที่ห้องเก็บของเก่าๆ ที่ถ้าเก็บกวาดดีๆ ก็ใช้เป็นที่ซุกหัวนอนได้
“พอดีเฮียยูแกไม่อนุญาตให้ใครขึ้นพักบนตึกคาสิโน แกไม่ชอบความวุ่นวาย หงส์อยู่ที่นี่ได้ใช่ไหม” มอม้าถามฉันด้วยสายตาเหมือนรู้สึกผิด
“สบายมาก เก็บกวาดนิดหน่อยก็อยู่ได้แล้ว ก่อนหน้ากินนอนข้างถนนหงส์ก็อยู่มาหมดแล้ว แค่นี้ถือว่าดีกว่าก่อนมากโข” ฉันยกยิ้มให้มอม้ากับความมีน้ำใสและขี้สงสารของเขา
“งั้นขาดเหลืออะไรบอกฉันได้นะ เดี๋ยวเย็นๆ จะพาไปซื้อเสื้อผ้า”
ฉันทำหน้าอ้ำๆ อึ้งๆ เมื่อมอม้าพูดถึงเรื่องนี้ สองตาเรียวรีมองลงไปที่กระเป๋าสะพายข้างสีชมพูใบเล็กที่เหลือเงินแค่ใบสีม่วงใบเดียว
“เรื่องเงินไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันออกให้ก่อน”
มอม้าคงจะสังเกตเห็นสิ่งที่ฉันกำลังกังวลเขาเลยเอ่ยปากอาสาช่วย
“งั้นหงส์ไม่เกรงใจนะ ถ้ามีเงินจะรีบคืนทันที” ฉันยิ้มกว้างให้กับความใจดีของผู้ชายตรงหน้า
หลังจากที่ใช้เวลาเก็บกวาดห้องเก็บของไปถึงสองชั่วโมง ฉันก็ได้ห้องใหม่ที่ทั้งสะอาดและน่าอยู่
“เธอคือหงส์ใช่ไหม?” เสียงแหบๆ ของผู้หญิงดังขึ้นที่หน้าประตูห้องที่ฉันเปิดค้างเอาไว้
“ค่ะ”
ฉันหันไปตอบผู้หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวได้เปรี้ยวเข็ดฟันสุดๆ เธอสวย หุ่นอวบอั๋น แถมท่าทางน่าจะใจดี ยืนส่งยิ้มหวานๆ มาให้
“ฉันชื่อลิชา เรียกเจ๊ลิก็ได้ พอดีคุณมอม้าให้มาช่วยพาเธอไปซื้อของใช้ส่วนตัวน่ะ” ผู้หญิงที่เพิ่งเรียกฉันเมื่อครู่แนะนำตัว พร้อมกับเดินเข้ามาภายในห้อง
“หงส์ค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะเจ๊ลิ” ฉันยิ้มหวานแนะนำตัวกับเจ๊ลิชา
เจ๊ลิชาพาฉันไปซื้อของที่ห้างไม่น่าจะไกลจากยุกกี้คาสิโนแห่งนี้เท่าไหร่เพราะเราใช้เวลาเดินทางแค่สิบห้านาทีด้วยการเดินเท้า
ตอนนี้ฉันก็กลับมาจัดข้าวของเครื่องใช้ที่เพิ่งซื้อมาจากห้างเข้าตู้เสื้อผ้าและเอาของใช้จำพวกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน แชมพูต่างๆ ไปไว้ในห้องน้ำ
โชคดีที่ห้องเก็บของนี้มีห้องน้ำในตัวด้วยสงสัยก่อนหน้าคงจะเคยเป็นห้องนอนของใครสักคน
“เป็นไงมาไงถึงได้มากับคุณมอม้าได้ล่ะ” หลังจากเดินเข้ามาในยุกกี้คาสิโนเพื่อจะมาช่วยงานคนอื่นๆ เจ๊ลิชาก็เอ่ยถามฉัน
“พอดีหงส์มีหนี้บุญคุณต้องทดแทนคุณยูกิ แล้วโชคดีเจอกับพี่มอม้า เขาเลยพาหงส์มาที่นี่แล้วก็ช่วยพูดให้ได้ทำงานที่นี่อีกแรงค่ะ”
ฉันเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้เจ๊ลิชาฟัง เพราะตอนไปห้างเธอมัวแต่พาฉันเดินเลือกซื้อของเราแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย
“เหมือนพรหมลิขิตเลยเนอะ ผู้หญิงตามหารักแท้”
“เจ๊คะ หงส์ว่ามันคนละเรื่องแล้วค่ะ หงส์บอกว่าจะมาตอบแทนบุญคุณไม่ได้ตามหารักแท้อะไรนั่นสักหน่อย” ฉันรีบอธิบายให้เจ๊ลิชาฟังเพราะเธอกำลังจะเข้าใจเจตนาของฉันผิด
“ฮ่าๆ เออนั่นแหละ เจ๊พูดไว้เผื่อว่ามันจะพลิกผลันยังไงล่ะ” ฉันส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับความคิดที่แสนจะเลยเถิดของเจ๊แสนสวยตรงหน้า
“เด็กเส้นอีกแล้วเหรอ ครั้งนี้สวยนี่” เสียงแหลมๆ ของผู้หญิงปากแดงๆ ที่เพิ่งเดินเข้ามานั่งโต๊ะที่บาร์เหล้าที่ฉันกับเจ๊ลิชานั่งอยู่ก่อนหน้าเอ่ยขึ้น
“น้อยๆ หน่อยคำพูดคำจา” เจ๊ลิชาว่าให้ผู้หญิงปากแดงที่เพิ่งมาถึง เธอเบะปากให้เจ๊ลิชาพร้อมกับจ้องมองฉันตาเขม็ง
“หวังว่าจะไม่ได้มาอ่อยคุณยูกิหรือคุณมอม้าหรอกนะ”
ผู้หญิงคนเดิมยังคงเอ่ยน้ำเสียงกระแหนะกระแหนใส่ฉัน
“ไม่มีการมีงานทำหรือไง ถึงได้มาเที่ยวแขวะชาวบ้านเขา” เจ๊ลิชาว่าให้ผู้หญิงคนเดิม
“เปล่า! ก็แค่เตือนว่าอย่าคิดไปอ่อยใครเขาเข้า เดี๋ยวจะตายไม่รู้ตัว”
เธอพูดพร้อมกับมองหน้าฉันขึง ทำเหมือนเกลียดอะไรฉันมากทั้งๆ ที่เราเพิ่งจะเคยคุยกัน
“ก็ดีนะที่หัดเตือนคนอื่น! แต่ฉันว่าหล่อนควรจะบอกตัวเองมากกว่ามั้งยัยจ๋า เพราะคนที่คิดจะทำแบบนั้นก็คงมีแค่หล่อนกับสมุนของหล่อนเท่านั้นแหละ”
“เจ๊!!”
