บทที่ 4 ยาคุมฉุกเฉิน
“ไม่รู้ เมื่อคืนกูก็เมา ขึ้นห้องมาหลับเลย”
“อะ เออใช่! พี่เขานอนห้องพี่ตุลย์ไง!” ฉันรีบแทรกขึ้นมาเสียงดัง ทุกสายตาบนโต๊ะหันมองมาที่ฉันเป็นตาเดียว เวรแล้วไง... มัวแต่ดีใจที่เห็นพี่ตุลย์เปิดช่องโหว่ให้ โคตรมีพิรุธเลยไอ้สวยเอ๊ยยย
“รู้ได้ไงวะสวย”
“ก็... เอ่อ ก็สวยเห็นไง!” ฉันทำตาใสซื่อ เรื่องโกหกเนี่ย ข้าวสวยก็ไม่เป็นรองใครนะคะ พี่สิงห์สอนมาดีเว่อร์พูดเลย “ตอนที่สวยออกมาเข้าห้องน้ำไง สวยเห็นพี่เขาเดินออกมาจากห้องพี่ตุลย์”
นะ เนียนไหม... ฉันแถเนียนไหมอ่าาา!
“งั้นมั้ง” พี่ตุลย์ตักข้าวกินต่ออย่างไม่ใส่ใจจะคิด พี่ธันย์กับพ่อเสือก็เลิกสนใจเช่นกัน จะมีก็แต่พี่สิงห์ที่ยังจ้องจับผิดฉันไม่เลิก ฉันเลยแสร้งหรี่ตาแล้วจ้องเขากลับบ้าง
คนเดียวในบ้านที่รู้ไส้รู้พุงรู้สันดานฉันดีกว่าใครก็คือพี่สิงห์นี่แหละ ถ้าฉันโกหกไม่เนียนจนโดนเขาหมายหัวละก็... ชีวิตนี้อย่าหวังจะได้พบความสงบสุขอีกเลย
ติ่งต่อง
“ใครมาแต่เช้าเลย”
ฉันถอนหายใจเฮือก ละสายตาออกจากพี่สิงห์ เขาเองก็เหมือนจะเลิกสนใจฉันแล้วกลับไปกินข้าวต่อ พี่ธันย์เดินออกไปเปิดประตูแล้วกลับเข้ามาพร้อมร่างสูงของใครคนหนึ่ง เมื่อเห็นหน้าหมอนั่น ฉันรีบดื่มน้ำแล้ววิ่งแจ้นไปหามันทันที
“ไคโร๊!! เราไปเรียนกันเถ๊อะ!! สวยไปก่อนนะพ่อ!” ฉันดึงแขน ‘ไคโร’ เพื่อนรักเพื่อนสนิทตั้งแต่มอปลายจนปัจจุบันให้ออกมาจากบ้าน ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้ฉันหลุดพ้นจากการจ้องจับผิดของพี่สิงห์จนได้
“ทำไมต้องทำเสียงสองเสียงสามวะ โคตรมีพิรุธ”
“ถามจริง?!” ฉันทำตาโต เมื่อกี้ฉันทำตัวมีพิรุธเหรอ? ไม่เห็นรู้เรื่องเลยอ่ะ!
“เออสิ มึงไปทำอะไรผิดมาป่ะเนี่ย” ไคโรยื่นหมวกกันน็อคให้ฉัน ฉันส่ายหน้าหวือรีบสวมหมวกปิดหน้า บนโลกนี้นอกจากพี่สิงห์ก็มีไอ้นี่อีกคนที่รู้สันดานฉันดีกว่าใคร ๆ มันแหกฉันแน่ถ้าทำตัวมีพิรุธให้เห็น
“บ๊าาา! กูเปล่าทำไรเลย”
“เนี่ย มึงทำเสียงสองอยู่”
“โอ๊ยมึง! กูเป็นหวัดเฉย ๆ เลิกเจ๋อเรื่องของกูแล้วไปเหอะ จะสายแล้วเนี่ย!” ฉันตบกระจกหมวกไคโรแรง ๆ ให้ปิดลง มันมองฉันอีกแป๊บก่อนหันกลับไปคร่อมรถบิ๊กไบค์คู่ใจของตัวเอง ฉันถอนหายใจดังเฮือกรีบรวบกระโปรงพรีชอย่างทะมัดทะแมงแล้วตามขึ้นคร่อมซ้อนท้ายมัน
สิบนาทีต่อมา ฉันกับไคโรหยุดยืนหน้าห้องเรียนอย่างทันเวลาเฉียดฉิว พูดเลยว่าการจราจรเมืองไทยทำอะไรความเร็วระดับนรกของไอ้บ้านี่ไม่ได้ ปกติจากบ้านฉันมามหาวิทยาลัยนี่ใช้เวลาต่ำ ๆ คือสิบห้านาทีนะ คิดดูว่าเมื่อครู่ฉันเฉียดนรกมาขนาดไหน เกือบเห็นยมบาลกวักมือเรียกหย็อย ๆ แล้วไหมล่ะ
“เฮ้ยไอ้สวย มีคนมาหาอ่ะ” ก้นฉันสัมผัสพื้นเก้าอี้ไม่ถึงห้านาที เพื่อนผู้ชายที่นั่งสุมหัวกันอยู่ใกล้ประตูตะโกนเรียก ฉันเลิกคิ้วมองไคโร
“ใครวะ”
“ไม่พ่อก็พี่มึงมั้ง ชีวิตมึงมีใครคบที่ไหนอีกนอกจากพวกกูอ่ะ”
“นี่ตอบหรือประชดกูวะไค” ฉันจิกตาใส่กะเอาให้เข้าเนื้อหนังด้าน ๆ ของมันไปเลย ชอบเอาความจริงมาพูดดีนัก ก่อนลุกขึ้นวางกระเป๋าแล้วเดินออกมาหน้าห้อง ปากกาที่ถือติดมือมาด้วยหล่นพื้นดังแป๊กทันทีที่เห็นว่าใครคือคนที่มาหา
โอ้...
ร่างสูงในชุดช็อปสีเลือดหมูยืนหันหลังอยู่ แต่ไม่เห็นหน้าฉันก็รู้ว่าเขาคือใคร ผมสีแดงโกเมนแบบนี้มีอยู่คนเดียวที่ฉันรู้จัก แถมยังเพิ่งเจอหน้ากันมาหมาด ๆ เมื่อชั่วโมงก่อนด้วย
ใบหน้าหล่อ ๆ หันกลับมา เขาชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นฉัน ดวงตาคมจ้องตากันนิ่ง บรรยากาศอึดอัดระหว่างเราเข้มข้นขึ้นทันที
“เอ่อ... รุ่นพี่มาหาฉันเหรอ?” ฉันก้มเก็บปากกาแล้วเงยหน้าขึ้นถาม พี่ฌอนกระแอมเบา ๆ ท่าทางเขาดูแปลก ๆ อย่างเห็นได้ชัด ถุงกระดาษใบเล็กถูกยื่นมาตรงหน้า ฉันขมวดคิ้วมองมันโดยที่ยังไม่ได้รับ
“รับไปสิ”
“อะไรอ่ะ?” รับมาเปิดถุงดู มันคือกล่องยาเล็ก ๆ กล่องหนึ่ง ชะงักเล็กน้อยตอนขวดน้ำถูกยื่นมาตรงหน้า คิ้วฉันขมวดแน่นกว่าเดิม “ฉันไม่หิว”
“ไม่ได้ให้ดื่มเพราะหิว แต่จะให้กินยา” เขาถอนหายใจใส่ เดินเข้ามาใกล้แล้วแย่งถุงยาในมือฉันไป จัดแจงแกะยาจากแผงมาส่งให้ฉันหนึ่งเม็ดพร้อมน้ำ
เอาจริง ๆ นะ ฉันนี่มึนตึ๊บเลย งงมากว่าพี่ฌอนเขาเป็นอะไร
“กินสิ หรือต้องให้ป้อน?”
“หะ? ไม่ต้อง...” กินก็กินวะ เขาคงไม่เอายาพิษมาให้ฉันกินหรอกมั้ง ฉันกลืนยาลงคอตามด้วยน้ำด้วยความรวดเร็ว พอเห็นว่าฉันกินยาเสร็จเขาก็คืนถุงยาให้ฉัน ดวงตาคมหลุบมองมันเล็กน้อย
“ตอนนี้เก้าโมง อย่าลืมกินเม็ดที่สองตอนสามทุ่มล่ะ ห้ามเกินนี้”
“เอ๊ะ... ต้องกินอีกเม็ดเหรอ? นี่มันยาอะไรอ่ะ ฉันไม่ได้ป่วยสักหน่อย” ฉันถามอย่างไม่เข้าใจ พี่ฌอนทำหน้าเหนื่อยใจใส่ ก่อนขยับเข้ามาใกล้แล้วก้มลงกระซิบข้างหูราวกับกลัวว่าใครจะได้ยิน
“ที่ฉันให้เธอกิน... มันคือยาคุมฉุกเฉิน”
“...!” ฉันนิ่งค้างเงยหน้ามองเขาอย่างตกใจ ใบหน้าหล่อเหลาไร้แววล้อเล่นผิดไปจากปกติของเขาทำฉันเผลอเม้มปากแน่น
อะไรนะ... ไอ้ยานี่คือยาคุมฉุกเฉินงั้นเหรอ... นี่เขา...
“คราวนี้เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมถึงต้องกิน”
ร่างสูงถอยตัวออกห่าง มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าท่าทางสบาย ๆ ก่อนหันหลังเดินจากไปโดยทิ้งคำพูดประโยคสุดท้ายไว้ให้ฉัน
“ถ้าไม่อยากเจอเรื่องยุ่งยาก อย่าลืมกินอีกเม็ดล่ะ”










































































