บทที่ 9 Bro. ล้ำเส้น -7-

ล้ำเส้น

7

DingDong! ~

เฮือก!

ผมผวาตื่น ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน เสียงออดที่ประตูทำให้ผมต้องลุกขึ้นเดินงัวเงียมาเปิดประตู แต่ผมลืมคิดไปว่าถ้าเป็นพี่ไนท์เขาคงไม่กดออดห้องตัวเองหรอก ความสะเพร่านั้นทำให้ผมลืมส่องดูคนที่ยืนอยู่ด้านหลังประตู เปิดออกไปแบบไม่ทันคิด

“พี่... กันต์?”

หัวใจผมกระตุกวูบ! ก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัวเมื่อปะทะสายตาเข้ากับแววตาคมกริบของคนตรงหน้า

ทะทำไม...

“เอิร์ธ! ทำไมมาอยู่นี่?” เสียงพี่กันต์ทำให้ผมได้สติ รีบดึงประตูปิดแต่เขายื้อเอาไว้ทันที

“ทำบ้าอะไรของมึงวะ”

ผมก้มหน้างุด ถอยห่างจากประตูทันทีที่รู้ว่าขัดขวางเขาไม่ได้ ร่างสูงสืบเท้าเข้ามาใกล้ผมหลังหนีจนหลังชนผนัง รู้สึกได้ถึงสายตาคมกริบที่จ้องมองลงมาอย่างคาดคั้น

“เมื่อกี้ปิดประตูใส่กูใช่ไหม”

“ผะผม”

“แล้วทำไมมึงมาอยู่ห้องไอ้ไนท์”

“คะคือเรื่องนั้น”

“แล้วตอนนี้ไอ้ไนท์อยู่ไหน! ” พี่กันต์กวาดตามองไปรอบๆ ด้วยท่าทางหัวร้อนจัดก่อนดึงสายตากลับมาจ้องผมเขม็ง ผมหลบสายตาเขาอย่างลนลานไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี เล่นยิงออกมาเป็นชุดแบบนั้นผมที่กำลังหวาดหวั่นในตัวเขาสมองจะประมวลผลทันได้ยังไง

“พะพี่ไนท์ไปทำงาน”

“หา?” พี่กันต์ทำเสียงไม่อยากเชื่อ ก่อนผละออกห่างผมเดินเข้านอกออกในห้องพี่ไนท์จนทั่ว คิดว่าผมเอาพี่ไนท์ไปซ่อนอยู่หรือไงกัน

ผมทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาเงียบๆ ไม่นานพี่กันต์ก็เดินหน้าตึงกลับมา ร่างสูงนั่งลงข้างๆ ผมเขยิบออกห่างเว้นระยะจากเขาทันที พี่กันต์มองท่าทางมึนตึงของผมแววตาขวางก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ

“มึงมาทำอะไรที่ห้องไอ้ไนท์”

“....”

“เฮ้ย! ไม่มีปากเหรอ”

“ผมบังเอิญเจอกับพี่ไนท์” ผมตอบออกไปส่งๆ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะยังไม่พอใจเท่าไหร่

“บังเอิญเจอได้ไงวะ กูเป็นเพื่อนมันยังเจอตัวมันยากเลย”

ผมนิ่งเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

“แล้วมึงทำไมหลบหน้ากู”

“ผมไม่ได้หลบ”

“ขนาดพูดยังไม่มองตากูเลย เป็นอะไร แล้วเสื้อผ้ามึงไปไหนหมดห้ามตอบกูว่าส่งซักรีด! ”

ผมอ้าปากค้างกับคำถามที่มาเป็นชุด สูดหายใจเข้าปอดลึก ละล่ำละลักตอบไม่เต็มเสียง

“ผมมีงานพี่ ก็เลยจะขอไปค้างกับตะวันสักพัก”

“โกหก! ”

“...!!! ”

“บอกกูว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน...” พี่กันต์คาดคั้นเสียงแข็งแต่จู่ๆ เขาก็หยุดพูดเอาดื้อๆ ดวงตาคมกริบจ้องหน้าผมนิ่งราวกับกำลังคิดอะไรสักอย่าง

“เมื่อคืน?”

ผมมองตอบสายตาของคนตรงหน้าอย่างใจหายใจคว่ำ

“เกิดอะไรขึ้น ไอ้ไนท์บอกกูว่าพวกมึงแบกกูกลับห้อง แล้ว...”

“แล้วอะไรพี่”

“แล้วมีใครมาอีกหรือเปล่า”

“พี่หมายถึงใคร”

“ก็...” พี่กันต์หยุดคิดครู่หนึ่ง ใบหน้าคมคายมีอาการสับสน “...คนที่กูนอนด้วยน่ะใคร”

ผมเสียวต้นคอวาบ จ้องดวงตากระหายใคร่รู้ของพี่กันต์อย่างกลั้นหายใจไปชั่วขณะ

“พี่... จำไม่ได้เหรอ”

“สัส มึงนี่ถามเหมือนไอ้ไนท์เลยว่ะ ถ้าจำได้จะมานั่งถามให้เสียเวลาทำไม”

อึ้ง ผมไม่รู้จะโล่งใจหรือเสียใจดี เขาจำอะไรไม่ได้จริงๆ เหรอ? จู่ๆ ผมก็นึกถึงคำพูดพี่ไนท์ก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ ‘ไอ้กันต์มันมีนิสัยชอบมีเช็กส์เวลาเมา’ หรือว่าจะลืมจริง ขนาดคืนแรกเขายังไม่รู้เลยว่าทำอะไรเอาไว้ผมถึงต้องหนีไปนอนโซฟา

หรือผมจะใช้โอกาสนี้บิดเบือนความจริงดี แต่พี่กันต์หน้าตาไม่ใช่คนโง่เขาจะเชื่อผมเหรอวะ

“ผมไม่รู้ครับพี่ พี่ไล่ผมออกจากห้อง โกรธที่ผมห้ามไม่ให้มีเรื่องในผับ แถมยังด่าแม่ผมด้วย ผมทนไม่ไหวก็เลยเก็บกระเป๋าออกมา”

“กูด่าน้าแอร์... ด่าว่า?”

“ผมไม่พูดหรอก พูดไปก็เหมือนด่าแม่ตัวเอง”

“เอ้า! กูด่าอะไรวะ หรือมึงเป็นคนใจบาง”

“ใช่ผมมันคนใจบาง! ”

“อ้าวเฮ้ยเอิร์ธเดี๋ยวสิวะ!? ”

ผมลุกออกจากโซฟาอย่างรู้สึกเจ็บซ้ำข้างใน ใจจริงอยากต่อยหน้าเขาแรงๆ สักหมัดสองหมัดด้วยซ้ำให้สาสมกับที่ทำเอาไว้กับผม ให้ตายเถอะ คนบ้าอะไร ลืมได้แม้กระทั่งเรื่องของคนที่นอนด้วย

- พี่กันต์ -

ผมมองร่างที่เดินออกไปอย่างไม่พอใจ โมโหที่มันไม่เชื่อฟัง คิดจะไปก็ไป ทำใจน้อยเป็นผู้หญิงไปได้ ตัวก็โตเป็นควายอยู่แล้ว ถึงมันจะตัวเล็กกว่าผมก็เถอะ

ผมจะตามไปลากตัวไอ้เด็กเอิร์ธกลับมาแต่ก็นึกได้ว่ายังไม่ได้บอกไอ้ไนท์เรื่องที่ผมอยู่ห้องมัน ผมไปหามันที่ผับแล้วรอบหนึ่งแต่เด็กที่ร้านบอกผมว่ามันไม่อยู่ พาใครไม่รู้กลับห้อง ตอนนั้นผมไม่คิดจริงๆ ว่าคนที่ไอ้ไนท์พามาจะเป็นเจ้าเด็กเอิร์ธน้องชายบุญธรรมของผมเอง

กันต์ : มึงอยู่ไหน ตอนนี้กูอยู่ห้องมึง

ไนท์ : มึงอยู่ห้องกูเหรอ

กันต์ : มึงพาไอ้เด็กนั่นมาที่ห้องทำไมไม่บอกกูวะ

ไนท์ : บังเอิญโว้ย

บังเอิญเหรอ? ผมมองข้อความที่เด้งบนหน้าจอแล้วกระตุกมุมปากอย่างฉุนๆ หมั่นไส้ยังไงบอกไม่ถูกที่มันสองคนดันพูดเหมือนกันเป๊ะ

ไนท์ : แล้วมึงไปทำอะไรที่ห้องกูวะ

กันต์ : มาหามึงไง

ไนท์ : อ่อ ถึงว่าเด็กที่ร้านบอกกูว่ามึงมา

กันต์ : ใช่ กูไปหามึงที่ร้านแต่มึงไม่อยู่ไง พนง.มึงบอกกูว่ามึงกลับมาที่ห้องกูก็เลยตาม แต่สงสัยคงสวนทางกันว่ะ

ไนท์ : เออ แล้วมึงจะเอายังไงกับน้องวะ

กันต์ : น้องไหน

ไนท์ : พูดอย่างกับมึงมีน้องหลายคน

กันต์ : ทำไมกูต้องเอายังไงกับมันวะ มันบอกกูว่าจะอยู่กับเพื่อน

ไนท์ : เออ กูทำงานก่อน

แล้วไอ้ไนท์ก็เงียบไปเลย ผมจ้องหน้าจอมือถือจนกระทั่งไฟดับลงก็ตะโกนเรียกไอ้เด็กนั่น มัวไปเดินเพ่นพ่านอยู่ไหนวะ เข้าออกห้องคนอื่นตามอำเภอใจแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน ผมกดลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่งก่อนลุกขึ้นเดินหาไอ้เด็กเอิร์ธ แต่มันดันเดินออกมาพอดี

“ไปไหนมา เดินลอยชายในบ้านคนอื่นสบายใจเลยนะมึง”

“เข้าห้องน้ำ”

ดูมัน ขนาดพูดยังทำหน้าขุ่นเคืองใส่ผมอีก ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าผมด่าอะไรน้าแอร์แม่ของมัน มันถึงได้โกรธฝังใจแบบนี้

“เออ เสร็จแล้วก็กลับ”

“กลับไปไหน”

ผมหันหลังจะเดินออกมาแต่ไอ้เด็กนั่นกลับยืนนิ่งอยู่กับที่ ชักสีหน้าแตกตื่นเหมือนได้ยินว่าโลกจะแตกวันนี้พรุ่งนี้อย่างงั้นแหละ

“ก็กลับห้องสิวะ”

“ตะแต่ผม...”

“จะพูดอะไรก็พูด อึกอักอยู่นั่น”

“ปะเปล่า พี่จะไปส่งผมห้องตะวันใช่ไหม”

“เออ” ผมพูดแล้วก็เดินนำมันออกมา ไอ้เด็กนั่นเดินตามต้อยๆ ก้มหน้ามองพื้นเหมือนคนขาดความมั่นใจเห็นแล้วโคตรน่ารำคาญเลยครับ ไม่รู้เป็นอะไรของมัน จำได้ว่าก่อนหน้านี้ยังดูร่าเริงเหมือนคนที่ไม่เคยมีเรื่องทุกข์ร้อนใจอยู่เลย

“พี่กันต์! พี่ไม่เลี้ยวแยกเมื่อกี้ล่ะ”

“เออ ลืมว่ะ”

ผมบอกหลังจากเลยแยกที่ต้องเลี้ยวไปหอไอ้ตะวันเพื่อนมัน ผมง่วงครับ ลืมจริง แถมขี้เกียจวนรถหลายรอบด้วย บอกไอ้เด็กข้างๆ ว่าคืนนี้นอนห้องก่อนพรุ่งนี้เช้าถ้ามันอยากไปหาเพื่อนก็ค่อยไป ทันทีที่ผมพูดจบมันก็โวยวายจะให้ผมไปส่งห้องเพื่อนตอนนี้ให้ได้ หนักข้อเข้าถึงขั้นบอกให้ผมจอดรถกลางทาง มันจะเหิมเกริมเกินไปแล้วนะโว้ย!

“พี่กันต์! ผมบอกให้จอดไง”

“เงียบสักทีเหอะว่ะ รำคาญ! ”

“อึก...”

ผมขึ้นเสียงใส่ทีเดียวไอ้เด็กนั่นถึงกับชะงักงัน ทำปากขมุบขมิบไม่กล้าพูดอะไรอีก

จนกระทั่งถึงห้อง

เอิร์ธตรงดิ่งไปที่โซฟาทันที ผมมองมันเหยียดขาลงนอนแล้วเอาหมอนอิงมากอดต่างผ้าห่มอย่างงงๆ

“มึงทำอะไร?”

“นอน”

ตอบเสียงแข็งพร้อมกับทำตาค้อนใส่ผมเนี่ยน่ะ เฮ้ย! มันคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ เด็กห้าขวบหรือไง

“จะนอนก็ไปนอนที่เตียงดิวะ แต่ก่อนนอนอาบน้ำด้วย”

“ผมไม่มีเสื้อผ้า”

มันเถียงกลับมาทันควัน กอดหมอนแน่นแล้วหลับอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

เหอะ! ผมสบถเสียงฉุนก่อนเดินเข้าไปกระชากแขนมันให้ลุกขึ้นมาอย่างเหลืออด

“มานี่! ”

“โอ๊ย! พี่กันต์... ผมเจ็บ”

“เอ้า เลือกเอา”

ผมดึงร่างบางเข้ามาในห้อง ผลักมันไปที่ตู้เสื้อผ้า ไอ้เด็กนั่นหันมาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ผมเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าแบบส่งๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างเจ็บใจ

เอากับมันสิ แค่บอกให้อาบน้ำอะไรจะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนั้น เออ... แล้วทำไมผมต้องมาคอยเจ้ากี้เจ้าการกับมันด้วยวะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมไม่คิดจะไยดีมันสักนิด

------------------------------------------------------

ขอบคุณสำหรับการติดตามและคอมเม้นท์ค่ะ >///<

เขินจุง <3

บทก่อนหน้า
บทถัดไป