บทที่ 10 บทที่ 9 วันนั้น

บทที่ 9 วันนั้น

เทียน่านอนเอามือก่ายหน้าผากครุ่นคิดเรื่องเมื่อตอนกลางวันอยู่นานจนเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืน เธอพลิกตัวนอนตะแคงซ้ายขวาก็แล้ว นอนหงายก็แล้วแต่ภาพยังติดตาและรู้สึกแปลกใจที่ตนเองกล้าทำแบบนั้น

“นี่เรา… ยิงปืนเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ” เธอพึมพำกับตัวเองเสียงเบาแต่ทว่าเสียงเปิดประตูจากห้องตรงข้ามก็ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้เธอเลิกคิดเรื่องนั้นแล้วลุกขึ้นเดินไปเอาหูแนบประตูห้องฟังเสียงข้างนอก

“ว่างมากหรือไงถึงได้โทร.มาป่วนคนอื่นแบบนี้”

(ก็เพิ่งจะว่าง คิดถึงพี่ชายเลยโทร.มาหาหน่อย)

“งั้นแค่นี้”

(เดี๋ยวสิ~) พายอาร์ทำเสียงอ้อนผู้เป็นพี่แล้วรีบถามถึงอาการของคนที่ไม่ได้อยู่ในสายด้วย (แล้วคนสวยของหนูเป็นไงบ้างคะ)

“มาดูเอง”

(พี่พีร์อย่ากวนได้ไหมเนี่ย)

“แค่นี้นะ” พีร์เจตั้งท่าจะวางสายแต่สายตาเหลือบเห็นเงาคนอยู่หลังประตูห้องนอนเขาจึงกดวางสายน้องสาวโดยไม่ได้บอกกล่าวและพายอาร์ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่พี่จะตัดสายไปแบบนี้ พีร์เจวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องนอนเทียน่า เขาจับกลอนประตูแล้วเปิดเข้ามาทำให้คนตัวเล็กหลบไม่ทันล้มพับลงกับพื้น “แอบฟังทำไม"

“ก็เห็นว่าดึกแล้ว นึกว่านอนหลับไปแล้ว"

“คิดแทนคนอื่นเพื่อ?” เทียน่าหลุบตามองพื้นก่อนที่จะยกมือขึ้นไปหมายจะให้เขาดึงลุกขึ้นแต่กลับไร้ซึ่งการช่วยเหลือจากพีร์เจ ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยจะขอความช่วยเหลือแต่แล้วเธอก็ลุกขึ้นเอง

“ปวดหัว”

“ไข้?”

“เปล่า”

“กินยาแล้วเข้าไปนอน” เขาบอกปัด ๆ ก่อนจะเดินกลับไปหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเอง กำลังจะเดินเข้าห้องแต่ถูกเทียน่ารั้งมือไว้แน่นจนต้องหันกลับมามองเธออีกครั้ง

“ปวดตรงนี้… เหมือนมันจะอักเสบเลย” เธอชี้ไปที่ฝ่ามือข้างที่เป็นแผล

“อืม” นายแพทย์หนุ่มพยักหน้ารับแล้วเปลี่ยนทิศทางการเดินไปหยิบกล่องพยาบาลมาทำแผลให้เทียน่าแทน “มานั่งตรงนี้” เขาออกคำสั่งเสียงเรียบพร้อมกับเปิดกล่องอุปกรณ์ทำแผล เทียน่านั่งลงข้างเขา เธอยกมือขึ้นไปวางบนหน้าขาพีร์เจอย่างรู้งานทำเอาคนที่กำลังเตรียมอุปกรณ์ถึงกับชะงักทุกการเคลื่อนไหวแล้วก้มมองฝ่ามือหญิงสาว

“แสบไหม”

“แสบ แต่ไม่มาก” สิ้นเสียงสำลีชุปแอลกอฮอล์ก็ทาวนรอบบาดแผลแดงที่บวมเล็กน้อย เธอสะดุ้งโหยงเมื่อแอลกอฮอล์ลากผ่านบาดแผล จากนั้นพีร์เจก็ประคองมือเธอขึ้น เขาทายาฆ่าเชื้อให้เธอเสร็จสรรพก็เอาผ้าพันแผลมาติดให้ “อย่าให้โดนน้ำ เดี๋ยวอักเสบ”

“อืม”

“กินยาด้วยเดี๋ยวเป็นไข้”

“เข้าใจแล้ว”

“…”

“ทำไมเหรอ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายหยุดมองเธอจึงถามกลับ

“เธอพอจะจำชื่อตัวเองได้บ้างไหม”

“…” เทียน่าส่ายหน้าให้เขา

“อืม เข้าไปพักได้แล้ว” นายแพทย์หนุ่มเก็บอุปกรณ์ลงกล่องแต่เมื่อเห็นเทียน่ายังนั่งอยู่กับที่เขาจึงเงยหน้ามองอย่างเป็นคำถาม

“ถ้าเกิดฉันจำอะไรขึ้นมาได้ทุกอย่าง นาย… จะยังให้ฉันอยู่ที่นี่ไหม”

“เธอเองก็คงมีบ้านและคงไม่อยากให้คนที่ไม่รู้จักอยู่ในบ้านหรอก” ริมฝีปากบางเม้มแน่นกับคำตอบที่ได้รับ เขาก็บอกชัดแล้วว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เธอจำได้หมดทุกอย่างก็ต้องย้ายออกไปจากห้องนี้ทันที

“เข้าใจแล้ว” เธอตอบกลับพีร์เจในตอนที่เขาลุกขึ้นแล้วเดินจากไป เทียน่าพรูลมหายใจออกพรืดใหญ่อย่างทุกข์ระคนสับสน เธอเองก็อึดอัดใจที่อยู่กับเขาแต่ทำอย่างไรในเมื่อความจำยังไม่กลับมา หรือว่าเธอควรหาอะไรแข็ง ๆ มากระแทกศีรษะตัวเองเผื่อความทรงจำจะกลับมาในเร็ววันนี้ “เฮ้อ~” เธอถอนหายใจออกอีกครั้งก่อนจะข่มตานอนและหลับไปเพราะฤทธิ์ยา

05:40 น.

พีร์เจตื่นมาออกกำลังกายในยามเช้าในรอบหลายวัน และเมื่อออกกำลังกายเสร็จเขาก็สั่งโจ๊กหมูและน้ำเต้าหู้มาให้เทียน่าด้วย

ก๊อก ก๊อก

“ถ้าตื่นแล้วก็ออกมากินข้าวกินยาด้วย” ไม่รู้ว่าคนข้างในได้ยินไหมแต่เขาก็มองเห็นเงาของคนตัวเล็กเคลื่อนไปมาผ่านช่องประตูด้านล่าง พูดจบพีร์เจก็ไปทำงาน

“ปวดท้อง…” เทียน่าชะเง้อมองประตูห้องนอนพร้อมกับกุมหน้าท้องไปด้วย สีหน้าเธอแสดงออกถึงความวิตกกังวลชัดเจนเพราะวันนี้เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับการเป็นประจำเดือน ท้องน้อยเจ็บหน่วงอย่างทรมานจนไม่อาจนอนหลับได้สนิทเช่นทุกวันที่ผ่านมา เธออยู่ในสภาพอิดโรยเบื้องล่างมีผ้าขนหนูพันรอบเอวไว้แน่น แม้จะนั่งลงก็กลัวว่าเลือดประจำตนเองจะทำให้ห้องสวย ๆ สกปรก “ทำไมต้องมาเป็นตอนนี้ด้วยเนี่ย ผ้าอนามัยก็ไม่มีแล้วนี่… จะทำยังไงต่อ”

19:00 น.

พีร์เจเปิดประตูเข้ามาในห้องพัก เขาวางถุงกับข้าวที่ซื้อมาให้เทียน่าลงบนโต๊ะแต่กลับต้องหยุดชะงักที่เห็นโจ๊กที่ตนเองเตรียมไว้ให้หญิงสาวยังอยู่สภาพเดิม ไม่แม้แต่จะถูกขยับเขยื้อนไปไหน เขามุ่นคิ้วแล้วเดินไปเคาะประตูห้องนอนเธอทันที

“เพี้ยน! ทำไมไม่กินข้าวกินยาตามที่ฉันสั่ง” จากที่เคาะประตูเบา ๆ เขาก็เปลี่ยนเป็นใช้ฝ่ามือทุบลงกับบานประตูแรงขึ้นจนคนข้างในสะดุ้งเฮือก เทียน่านั่งกอดเข่าตัวเองอยู่ข้างเตียงลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่สุข

“มะ… ไม่หิว”

“ออกมา!” เสียงเข้มปนด้วยความหงุดหงิดสั่งเธอให้ออกมาข้างนอก

“มะ… ไม่ได้”

“จะมาเปิดเองหรือให้ฉันเปิดเข้าไปเอง” น้ำเสียงพร่าที่แฝงด้วยความโกรธทำเอาไรขนอ่อนตามร่างกายเธอลุกซู่ เทียน่าบีบมือตัวเองแน่นกวาดสายตามองรอบห้องนอนแล้วลุกขึ้นยืน เธอดึงผ้านวมมาห่อตัวแล้วรีบไปเปิดประตู

“อ๊ะ!” พีร์เจมือค้างเพราะกำลังจะทุบประตูอีกครั้งแต่เทียน่าเปิดประตูออกมาก่อน เขาขมวดคิ้วมองเธอด้วยต้องการคำอธิบายว่าทำไมเธอไม่กินโจ๊กและไม่กินยา แถมยังเอาผ้านวมคลุมตัวออกมาเจอเขาอีก “ไม่หิว…”

“แผลเธอ” เขาพูดไปพลางขบกรามแน่น ดวงตาดุดันจดจ้องเข้ามาในนัยน์ตาเธอจนเทียน่าขนลุก หญิงสาวเสสายตามองไปทางอื่นด้วยเพราะไม่อยากทำให้เขาหงุดหงิดไปมากกว่านี้จึงจะเดินไปกินโจ๊ก ทว่าพีร์เจกลับคิดว่าเทียน่าจะเดินหนีเขาจึงคว้าผ้านวมไว้แล้วกระชากออกจากตัวเธอ

“เธอเจ็บตรงไหน!” พีร์เจถามด้วยความตกใจที่เห็นเลือดสีแดงซึมออกจากเสื้อเชิ้ต เทียน่าไม่ได้ตอบแต่เธอรีบดึงผ้านวมกลับมาห่อตัวเองไว้เหมือนเดิม “ฉันถามก็ตอบสิวะ!” คราวนี้เขาตะเบ็งเสียงใส่หญิงสาวอย่างเอาเรื่องพร้อมกับจับแขนเทียน่าแน่น

“ฉัน… ไม่ได้เป็นอะไร แค่เป็น… ประจำเดือน” พอได้รับคำตอบพีร์เจก็ปล่อยแขนเธอแล้วเท้าเอวมองหญิงสาวพลางพรูลมหายใจออก เขาก็ลืมคิดไปว่าเธอเองก็ต้องมีเรื่องพวกนี้เป็นปกติ “ไม่มี… ผ้าอนามัย” พวงแก้มนวลเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายและรู้สึกกระดากปากมากที่ต้องพูดเรื่องพวกนี้ต่อหน้าผู้ชาย

“ไปซื้อเอง… ไม่สิ เธอไปสภาพนี้ไม่ได้” นายแพทย์หนุ่มเดินไปหยิบโทรศัพท์แล้วกดโทร.หาน้องสาว รอสายไม่นานพายอาร์ก็รับสาย

(ว่ายังไงคะพี่ชาย)

“ว่างยัง”

(ว่างอะไรของพี่ทำงานหัวหมุนอยู่เนี่ย แล้วมีไรโทร.มาหาน้องตอนนี้) พายอาร์เอ่ยถามพี่ชายทั้งลุ้นกับคำตอบมาก

“เธอว่างก็…”

(พี่พีร์แค่นี้ก่อนนะคะ พายส่งงานให้อาจารย์หมอก่อน) พายอาร์วางสายไปทันที พีร์เจถือโทรศัพท์แนบหูอยู่ในท่าเดิมก่อนจะชำเรืองมองเทียน่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

“เดี๋ยวฉันมาแล้วกัน” เขาเดินไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจแล้วออกไปจากห้องพักทันที พีร์เจขับรถมาจอดหน้ามินิมาร์ท เขาหยิบตะกร้าแล้วเดินไปทางโซนขายของใช้สำหรับจุดซ่อนเร้นสุภาพสตรีแล้วหยิบครีมอาบน้ำ น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นแล้วก็เดินไปทางโซนขายผ้าอนามัย หมอหนุ่มยืนกวาดสายตามองทุกยี่ห้อก่อนจะหยิบใส่ตะกร้าสี่ห่อใหญ่ ไม่ลืมที่จะซื้อชุดชั้นในสำรองไปให้เทียน่าด้วย พอได้ของครบเขาก็กลับห้อง

พรึบ!

เขาวางของที่เพิ่งซื้อมาลงบนโต๊ะแล้วหันไปมองเทียน่าที่ยังยืนอยู่หน้าห้องนอนตัวเอง

“เอาไปเปลี่ยน” เขาบอกเสียงเข้ม เมื่อเธอหยิบของทุกอย่างไปหมดแล้วก็นั่งลงบนโซฟา ถอนหายใจออกอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่คิดไม่ฝันว่าตนเองจะได้ทำเรื่องแบบนี้ให้ผู้หญิงที่ไม่ใช่แม้แฟนและภรรยา “บ้าบอสิ้นดี!”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป