บทที่ 5 บทที่ 4 ทดสอบอะไรบางอย่าง

บทที่ 4 ทดสอบอะไรบางอย่าง

กลางดึก

เทียน่าแง้มประตูห้องนอนแล้วโผล่หน้าออกมาดูลาดเลาก่อนที่จะก้าวออกมาจากห้อง ใจจริงเธอไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอกแต่เพราะท้องมันร้องและตอนนี้เธอหิวมาก ร่างเล็กเดินไปที่ห้องครัวแล้วค่อย ๆ เปิดตู้เย็นดูของในนั้นปรากฏว่ามีแค่น้ำเปล่ากับเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างอื่น แต่ตอนนั้นหางตาเธอก็เหลือบไปเห็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงหยิบออกมาจากตู้หนึ่งซอง

“ต้มยังไง…” เธอมองหาอุปกรณ์หลายอย่างแต่ถ้าทำอาหารพีร์เจก็จะตื่นมาดุอีกแน่ ๆ เทียน่ามองซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในมือก่อนจะนั่งลงข้างตู้เย็นและเปิดมันกินแบบทั้งยังไม่ได้ต้มให้สุก ทว่าตอนนั้นพีร์เจก็เปิดประตูห้องออกมาเอาน้ำดื่มเหมือนกัน

“…” ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าอยู่ตรงทางเดินเข้าไปในห้องครัวเพราะเสียงกรุบ ๆ เหมือนใครกำลังเคี้ยวอะไรสักอย่างดังออกมาจากในนั้น เขาเดินไปด้วยฝีเท้าที่เบาที่สุดพร้อมกับเปิดไฟในห้องให้สว่างทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก “เธอทำอะไรยัยเพี้ยน” พีร์เจขมวดคิ้วมองเทียน่าซึ่งเธอคาบก้อนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคาปากเป็นหลักฐานมัดตัวอยู่

“กะ… กินมาม่า”

“ดึกขนาดนี้ยังกินอะไรแบบนั้น”

“หิว~” เขาไม่อยากเห็นภาพสุดเวทนานี้เลย พีร์เจเดินไปแย่งซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกจากมือหญิงสาวและชิ้นที่เธอคาบไว้ที่ปาก เอาไปทิ้งลงถังขยะโดยที่เทียน่ามองตามตาละห้อย

“อยากกินก็ต้องกินแบบต้ม ห้ามกินแบบนี้มันไม่ดี” เขาหันมาดุเธอด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นแต่ก็แฝงด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย เทียน่านั่งพิงเคาน์เตอร์เงยหน้ามองเขาตาปริบ ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแต่ด้วยเธอลุกขึ้นเร็วเกินไปจึงเกิดอาการหน้ามืด พีร์เจหันมาเห็นพอดีจึงรวบตัวเธอเข้ามาแนบกายและเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดผู้หญิงที่ไม่ใช่คนในครอบครัวใกล้ชิดขนาดนี้

“ขอโทษ”

“จุ้น!” เขารีบผละตัวออกและปล่อยตัวเทียน่าจนหญิงสาวเซไปด้านหลัง เธอมองหน้าเขาครู่หนึ่งจึงเสสายตามองไปทางอื่น เมื่อไม่เป็นที่สนใจของพีร์เจแล้วเธอก็ค่อยดึงสายตากลับมามองแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่ม มุมปากบางบิดยิ้มเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ เขยิบตัวออกมามองว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ พอได้เห็นแล้วรอยยิ้มก็ยิ่งฉีกกว้างเพราะพีร์เจกำลังจะต้มบะหมี่ให้เธอกิน

รอยยิ้มดีใจอยู่บนริมฝีปากจิ้มลิ้มได้ไม่นานก็เลือนหายด้วยเพราะรังสีอำมหิตแผ่มาจากคนตรงหน้าเธอ เทียน่าเขยิบไปยืนพิงกรอบประตูลุ้นว่าจะเสร็จตอนไหนขณะเดียวกันท้องก็ร้องโครมครามไม่หยุดและในที่สุดการรอคอยก็จบลงเมื่อพีร์เจถือชามบะหมี่ที่เพิ่งต้มเสร็จใหม่ ๆ ไปวางบนโต๊ะอาหารเล็ก ๆ หน้าห้องครัว

“กินเสร็จก็ไปนอน ห้ามเดินเพ่นพ่าน ฉันไม่ชอบให้ใครทำตัวจุ้นจ้านในห้อง”

“ขอบคุณนะ” เธอก้มหน้ามองชามบะหมี่ที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายและลงมือกินจนหมดภายในไม่กี่นาที พีร์เจเลิกคิ้วมองเธออยู่ครู่หนึ่งจนเทียน่าเอาชามไปล้างเสร็จสรรพ

“…” ชายหนุ่มใช้นิ้วชี้แตะที่มุมปากตัวเองพร้อมกับหันไปมองโทรศัพท์มือถือที่สว่างวาบขึ้นเลยไม่ทันมองคนตรงหน้าว่ากำลังทำอะไร ทว่าจู่ ๆ เธอก็ก้าวมาประชิดตัวเขาพร้อมกับเขย่งปลายเท้าขึ้นทำปากยื่น ๆ จนเกือบจะสัมผัสแก้มเขา “ทำบ้าอะไรของเธอ!” นายแพทย์หนุ่มตะคอกหญิงสาวและก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว

“ไม่ได้ให้หอมเหรอ…” เทียน่าถามเสียงอ่อน เธอหลุบตามองต่ำด้วยไม่กล้าสบตากับเขา

“หรือต้องหาอะไรกระแทกหัวเธออีกครั้งถึงจะจำอะไรได้” ชายหนุ่มทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ทำเอาเทียน่านิ่งงัน หลังจากพีร์เจหันหลังเดินจากไปเธอก็รีบยกมือขึ้นมาลูบคลำใบหน้าแล้วก็ได้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำคือให้เธอเช็ดคราบเปื้อนออกจากมุมปาก

“… เกือบได้หอมแก้มพีร์” หญิงสาวพรูลมหายใจออกอย่างหนักแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอนตัวเอง

12:00 น. วันต่อมา

พายอาร์ถือถุงอาหารก้าวออกจากลิฟต์แล้วเดินตรงไปที่ห้องพักพี่ชาย เธอกดรหัสแล้วเปิดประตูเข้ามาด้านใน

“พาย…” เทียน่าที่กำลังจัดแจงหมอนอิงบนโซฟาอยู่รีบวิ่งเข้าไปสวมกอดพายอาร์ด้วยความคิดถึง

“คนสวย เธอหายดีแล้วใช่ไหม” แพทย์หญิงเจ้าของรอยยิ้มหวานรีบวางถุงอาหารไว้บนโต๊ะหน้าโซฟา เธอเริ่มตรวจร่างกายเทียน่าจนละเอียดแล้วปรบมือหนึ่งครั้ง “เหลือแค่แผลที่หัว ร่างกายเธอฟื้นตัวเร็วมากเลยนะคนสวย”

“อือ… พีร์ดูแลดี”

“ถามจริง หึหึ”

“ขำอะไรเหรอ”

“ก็ขำ พีร์เจเนี่ยนะดูแลคนสวยเป็นอย่างดี” เธอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เทียน่าบอก เพราะรู้จักนิสัยพี่ชายดีว่าเขาจะดูแลเทียน่ายังไง “แต่เธอฟื้นตัวเร็วมาก ร่างกายเธอก็แข็งแรงมากด้วย… ก่อนจะเกิดเรื่องเธอคงเป็นผู้หญิงสายลุยมากเลยใช่ไหม” เทียน่านิ่งงัน จู่ ๆ ภาพบางอย่างก็ประเดประดังเข้ามาในหัวแต่กลับจับใจความสำคัญไม่ได้ ภาพเหตุการณ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบทำเธอรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา

“อ๊ะ!”

“โอเคไหม นั่งก่อน ๆ” พายอาร์ประคองหญิงสาวนั่งลง “ไม่ต้องฝืนตัวเอง ฉันไม่ได้ต้องการให้เธอคิด เอาเท่าที่ตัวเองไหวเข้าใจไหม” หมอสาวรีบลุกไปหาน้ำมาให้เทียน่าดื่ม

“เมื่อกี้มีภาพบางอย่างฉายเข้ามาในหัว แต่มันเลือนรางจน…” เธอพยายามเล่าให้พายอาร์ฟังแต่กลับถูกหญิงสาวห้ามไว้

“วันนี้เอาเท่านี้ก่อนแล้วกัน แล้วหิวมากไหม” รอยยิ้มอุ่นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยของคุณหมอ เทียน่ายิ้มรับพร้อมกับพยักหน้าให้เป็นคำตอบ “เรามากินข้าวก่อนพี่พีร์ดีกว่า รายนั้นกว่าจะมาก็น่าจะบ่ายกว่า ๆ” สองสาวช่วยกันแกะอาหารใส่จานและนั่งกินข้าวด้วยกัน บทสนทนาในโต๊ะอาหารโดยพายอาร์เป็นคนพูดเสียส่วนใหญ่

“พาย”

“ว่าไงคะคนสวย"

“พีร์ไม่ให้คนสวยเรียกชื่อ”

“อ้าว แล้วให้เรียกอะไรละ” พายอาร์ตักข้าวใส่ปากและหันหน้ามามองเทียน่าอย่างรอคำตอบ

“เรียกคุณหมอ แล้วพีร์ตั้งชื่อให้คนสวยว่าเพี้ยน”

พรวด!

พายอาร์พ่นข้าวออกจากปากกับสิ่งที่ได้ยิน จากนั้นก็หัวเราะลั่นห้อง

“ถามจริง พีร์เจเรียกแบบนั้นจริงเหรอ”

“จริง”

“ให้ตายสิไอ้พี่บ้านี่ เรียกคนสวยของฉันแบบนี้ได้ยังไง” เธอก็นึกว่าพี่ตัวเองพูดเล่นเรื่องชื่อแต่กลับเอามาเรียกจริง ๆ

“เอางี้นะ ไปบอกว่าพายให้เรียกคนสวย"

“โดนดุแน่"

“ไม่หรอก”

“อืม จะลองพูดดู แต่พีร์ชอบดุเวลาคนสวยเดินออกมาจากห้อง แต่เมื่อคืนพีร์ต้มมาม่าให้กินด้วยนะ"

“อืม ก็ดีแล้วนี่”

“ทำอะไรกัน” เทียน่ากำลังอ้าปากจะตอบกลับพายอาร์แต่พีร์เจเดินเข้ามาขัดจังหวะก่อน สายตาดุดันจ้องมาที่เธอเป็นอันดับแรก

“มากินข้าวดิ พายซื้อกับข้าวร้านโปรดมาฝาก” ชายหนุ่มเหลือบตามองจานอาหารที่พร่องลงไปมากแล้ว

“ไม่หิว” เขาตอบพายอาร์แต่สายตากลับจ้องเทียน่า

“มีไรอะ พี่อย่าหาเรื่องคนสวยได้ไหม เลิกมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นได้แล้ว”

“…” เขาละสายตาจากเทียน่ามามองคนพูด “รีบกินแล้วกลับไปได้แล้ว”

“มาถึงก็ไล่เลยนะ ใจร้ายอะ”

“อย่าเยอะ”

“โอเค กินเสร็จก็ไปเองแหละ ไม่ต้องไล่”

“…” ชายหนุ่มหันหลังเดินเข้าไปในห้องนอนส่วนตัว จากนั้นก็ออกมาด้วยชุดไปรเวท เขาเดินไปหยิบน้ำดื่มและขณะนั้นก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมาเพราะเหลือบเห็นมีดทำครัววางอยู่บนเคาน์เตอร์ “ตอนนั้น…” พีร์เจหยิบมีดขึ้นมากวัดแกว่งไปมา “ข้อมือเธอแข็งแรงกว่าที่คิดและ… ท่าทางการจับมือก็ดูทะมัดทะแมงดี” หมอหนุ่มเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับมีดเล่มนั้น

“นั่นจะทำอะไร” พายอาร์ที่กำลังตักแกงใส่ปากเงยหน้ามองพี่ชายที่เดินใกล้มาถึงตัวเธอแล้ว ทว่าสิ่งที่พีร์เจทำก็เล่นเอาเธอสำลักข้าวอีกเป็นรอบที่สอง หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นในตอนที่มีดลอยไปหาคนสวยของเธอ แต่สิ่งที่เทียน่าทำต่อจากนั้นก็ทำเอาพายอาร์อ้าปากค้างเติ่งเหมือนกัน “เชี่ยอะไรเนี่ย เล่นบ้าอะไรของพี่” พายอาร์รีบแกะมือเทียน่าออกแล้วโยนมีดลงบนพื้น ก่อนจะดึงทิชชูมาซับเลือดให้ด้วยความตกใจ

“…” พีร์เจไม่ได้สะทกสะท้านกับการกระทำที่เป็นอันตรายของตัวเองแต่กลับจ้องหน้าหญิงสาวด้วยสายตาดุดัน “เธอเป็นใครกัน…”

“…”!

พายอาร์มองพี่สลับกับมองเทียน่าด้วยไม่เข้าใจในการกระทำของพี่ชายที่ทำรุนแรงเกินไป

บทก่อนหน้า
บทถัดไป