บทที่ 6 บทที่ 5 ขอโทษ
บทที่ 5 ขอโทษ
หลายนาทีต่อมา
“เป็นหมอที่ไร้จรรยาบรรณมากนะพี่พีร์”
“ก็แค่อยากทดสอบอะไรบางอย่าง”
“นี่!!” ผู้เป็นน้องขึ้นเสียงสูงพร้อมกับตีแขนพี่ชายอย่างแรงด้วยความโกรธ “เลิกพูดจาแบบนี้เลยนะ แผลเก่ายังไม่หายแล้วนี่ก็ไปสร้างแผลใหม่ให้อีก พี่พีร์โคตรใจร้ายเลยรู้ไหม”
“เดี๋ยวนี้กล้าใช้คำพวกนั้นกับพี่แล้ว?” พายอาร์เลิ่กลั่กแล้วเชิดหน้าสู้
“ก็สมควรแล้วไหม พี่พีร์ทำให้พายต้องพูดเอง”
“ไร้สาระ” พายอาร์บึนปากใส่พี่แล้วเดินไปหาเทียน่าซึ่งเธอนั่งอยู่ในโต๊ะอาหารหน้าห้องครัว
“หายเจ็บยัง เลือดหยุดไหลแล้วนี่ ดีนะแผลไม่ลึกถึงขั้นต้องเย็บน่ะ”
“เข้าใจว่าพีร์คงสงสัยอะไรหลายอย่างในตัวคนสวย” ได้ฟังแบบนั้นแล้วคนขี้ใจอ่อนอย่างเธอก็รู้สึกเห็นใจมาก ๆ แต่ก็นึกเอ็นดูที่คนตรงหน้าแทนตัวเองด้วยชื่อที่ใช้เรียกชั่วคราว
“แต่ก็ไม่น่าใช้วิธีนี้นี่หน่า เกิดพลาดไม่โดนแค่มือจะทำยังไง”
“พีร์น่าจะรู้อยู่แล้วว่าคนสวยของพายรับมีดได้”
“เฮ้อ” พายอาร์ได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอาใจกับการกระทำของผู้เป็นพี่ เมื่อเธอทำแผลให้เทียน่าเสร็จแล้วจึงเดินไปหาพี่ชาย “สร้างแอคหลุมไปคอมเมนต์รายงานหมอนิสัยไม่ดีดีไหมนะ”
“…” พีร์เจปรายตามองน้องสาว
“หรือจะโทร.ไปหาป๊าแล้วบอกความจริงดีว่าพี่พีร์พาผู้หญิงเข้าห้อง”
“เยอะ เสร็จธุระแล้วก็กลับไป”
“เชอะ!” พายอาร์เบ้ปากใส่แต่พีร์กำลังจ้องมองคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะอาหาร ในยามที่ถูกพีร์เจมองด้วยสายตาเย็นชาเธอรู้สึกประหม่าไม่น้อยจนไม่กล้าเงยหน้าสู้เขา
“กลับดี ๆ นะพาย” หญิงสาวเดินมาส่งพายอาร์ที่หน้าห้อง
“อืม อยู่กับมนุษย์หินก็ระวังตัวให้ดีละ เดี๋ยวจะเป็นบ้าทำร้ายอีก”
“…” หญิงสางเม้มปากแน่น
“ไปแล้วนะคนสวย เดี๋ยวจะแวะมาหาบ่อย ๆ ถ้าว่างอะนะ” พอพายอาร์กลับไปเธอก็รีบเข้าไปในห้องนอนเพราะถ้ายังป้วนเปี้ยนอยู่ข้างนอกมีหวังพีร์เจได้ดุเธออีกแน่
01:00 น.
เทียน่านอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงนอน เธอข่มตาหลับอยู่หลายครั้งแต่ก็ไร้ประโยชน์ ด้วยเพราะกำลังคิดเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้และภาพที่ฉายเข้ามาในหัวเธอตอนที่อยู่กับพายอาร์ แม้ภาพจะเลือนลางแต่ก็พอดูออกว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในสนามยิงปืนและมีผู้คนมากมายอยู่รอบ ๆ
“ที่นั่นที่ไหนนะ แล้วเรา… ยิงปืนเป็นด้วยเหรอ” ไม่พูดเปล่าแต่เธอยังยกมือข้างที่มีบาดแผลขึ้นมาดู “เรารับมีดจากพีร์ได้ยังไง ทั้งที่ยังไม่ได้หันไปมองเลยว่าทิศทางของมีดไปทางไหน…” ความเจ็บจี๊ดแล่นลิ่วเข้ามาทันทีที่เธอพยายามคิด “เฮ้อ… หิวน้ำจัง ป่านนี้พีร์นอนแล้วหรือยังนะ” เทียน่าลงจากเตียงแล้วย่องไปเปิดประตูแง้มออก โผล่หน้าไปดูว่าพีร์เจยังอยู่ไหม เมื่อทางสะดวกเธอจึงออกมาจากห้องนอนโดยไม่รู้ตัวว่าตอนนี้พีร์เจนั้นอยู่ในห้องครัวซึ่งเดิมทีเขาไม่ชอบเปิดไฟเพราะแค่เดินมาแป๊บ ๆ แล้วก็กลับ
พรึบ!
เทียน่ารีบยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองทันทีแล้วเงยหน้ามองคนตัวโต
“พะ… พีร์”
“ออกมาทำอะไรตอนนี้”
“คือว่า… หิวน้ำ” เธอหลบสายตาเขา
“…” นายแพทย์หนุ่มหลีกทางให้แล้วเดินออกมา เขาหยุดฝีเท้าก่อนจะเอ่ยคำหนึ่งออกไป “ขอโทษ”
“…”? เทียน่าเองก็หยุดชะงักเช่นกัน เธอมุ่นคิ้วแล้วหันกลับมามองแต่พีร์เจก็เดินไปไกลแล้ว หญิงสาวทอดถอนหายใจเบา ๆ “เขาขอโทษที่ปามีดใส่เราเหรอ หรือขอโทษที่ไม่หลบทางเราจนเราเดินมาชน…” เธอตั้งคำถามกับตัวเองและเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วจึงรีบเข้าห้องนอน หลายชั่วโมงที่เธอพยายามข่มตาหลับอีกครั้งด้วยเพราะยังคับข้องใจในคำขอโทษของพีร์เจจนถึงเช้า ร่างเล็กเดินโซเซออกมาจากห้องนอนด้วยสภาพอิดโรย
“โซฟา”
“…”
“เก้าอี้” พีร์เจที่นั่งดื่มกาแฟร้อนอยู่บนโซฟาเอ่ยบอกคนที่เดินเหม่อลอยไร้จุดหมายให้หลบสิ่งกีดขวางจนเทียน่าหยุดยืนอยู่กลางห้องพักแล้วหันมามองเขา
“เมื่อวาน… ขอโทษเพราะอะไรเหรอ”
“…” คนถูกถามปิดปากเงียบไม่แม้แต่จะสนใจ มีเสี้ยววินาทีหนึ่งที่เขาเงยหน้ามองเธอ เทียน่าเม้มปากแน่นก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เขาอีกนิดหนึ่ง
“อ๊ะ! อื้อ!!” ร่างเล็กล้มลงไปคร่อมหน้าตักชายหนุ่มพอดิบพอดีในจังหวะที่พีร์เจยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ
“…” / “…”!
ภายในห้องเงียบลงกะทันหัน มีเพียงหัวใจดวงน้อยที่กระหน่ำเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง กลิ่นน้ำหอมผู้ชายลอยมาตามลมเคล้ากับกลิ่นกาแฟหอม ๆ เทียน่ากลืนน้ำลายลงคออย่างฝือเคืองแล้วรีบผละตัวออกจากเขา แต่ก็เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเธอเพราะศีรษะดันไปชนกับก้นแก้วกาแฟที่พีร์เจยกค้างไว้ทำให้กาแฟหกเลอะเสื้อเขาหมด
“…” พีร์เจสูดหายใจเข้าลึก ๆ ระงับอารมณ์แล้ววางแก้วลงหลังจากเทียน่าลุกออกไปแล้ว
“ขะ… ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจ”
“เธอทำฉันเสียเวลายัยเพี้ยน!” เขาขบกรามแน่นก่อนจะถอดเสื้อออกเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อสวยงาม ผิวพรรณผู้ชายที่ดูแลตัวเองมาอย่างดีทำเอาคนตัวเล็กมองจนลืมละสายตาไปทางอื่นแม้จะถูกเขามองอย่างเอาเรื่องก็ตาม พีร์เจเดินเข้ามาเปลี่ยนเสื้อแล้วเดินออกมาจากห้องโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“ฟู่…” เทียน่าถอนหายใจออกอย่างหนักพร้อมกับทรุดนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับพีร์เจ บนโซฟายังมีความอุ่นจากเขา เธอหันมองเสื้อที่ชายหนุ่มถอดทิ้งไว้จึงเอื้อมมือไปหยิบแล้วนำไปซักให้อย่างระมัดระวัง ขณะที่นั่งขยี้คราบกาแฟออกจู่ ๆ ก็มีภาพบางอย่างทับซ้อนเข้ามาในหัว เทียน่ารีบยกมือที่ยังเปื้อนฟองน้ำยาซักเสื้อขึ้นมากุมขมับตัวเอง “อ๊า…” ความเจ็บยังไม่ทันหายภาพเหตุการณ์บางอย่างก็แล่นลิ่วเข้ามา สายตาเธอเริ่มเลือนลางแต่ภาพความทรงจำที่ฉายเข้ามาในหัวกลับชัดเจน
แกรก…
พีร์เจเปิดประตูเข้ามาในห้องเพราะเขากลับมาเอาของสำคัญบางอย่าง แต่กลับต้องเปลี่ยนทิศทางการเดินเมื่อเสียงของตกอยู่ที่ระเบียงห้อง พอเปิดประตูออกมาทุกการเคลื่อนไหวของร่างกายเขาก็หยุดชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะรีบก้าวเข้าไปอุ้มเทียน่าขึ้นมาแนบอกในท่าเจ้าสาว
“พีร์~” เธอเรียกเขาก่อนภาพตรงหน้าจะตัดไปเหลือเพียงแค่ความมืดมิด
‘ฉันอยู่ที่ไหน… ทำไมทุกอย่างมืดมิดแบบนี้’
ภาพในห้วงความฝันเต็มไปด้วยความมืดมิดไร้แสงนำทาง ร่างเล็กที่อยู่ในสภาพอิดโรยร่างกายมีแต่เลือดเดินโซเซไปข้างหน้า แต่จู่ ๆ ก็มีแสงสว่างเกิดขึ้นมาและปรากฏร่างชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาหันมามองและยื่นมือมาหา เทียน่าคลี่ยิ้มมีหวังและค่อย ๆ ยื่นมือไปหาเขาคนนั้น ปลายนิ้วสัมผัสกันเพียงเสี้ยววินาทีแต่กลับมีใครคนหนึ่งโผล่มาจากด้านหลังเธอและใช้เชือกรัดลำคอจากนั้นก็ลากเธอออกมาจากจุดที่มีความสว่างนั้น
“เฮือก!!”
“ฟื้นแล้วเหรอ” พีร์เจที่นั่งอยู่ข้างเตียงนอนเอ่ยถาม “มองหน้าฉันทำไม” เมื่อถูกอีกฝ่ายมองจ้องหน้านาน ๆ จึงยื่นมือไปแตะหัวไหล่เธอเบา ๆ
“แสงสว่าง… คือพีร์เหรอ”
“…”?
