บทที่ 9 บทที่ 8 ความจำบางส่วน
บทที่ 8 ความจำบางส่วน
00:00 น.
พีร์เจเอนหลังพิงพนักโซฟาในห้องนั่งเล่น ทั้งที่เป็นเวลาพักผ่อนแท้ ๆ แต่กลับต้องมาเฝ้ายามคอยดูว่าอีกฝ่ายจะตื่นตอนไหนและร่างกายเธอรับยาแก้แพ้ได้ดีหรือเปล่า ชายหนุ่มถอนหายใจออกยาว ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของเทียน่า
“อื้อ~” อีกฝ่ายขยับตัวนอนตะแคงก่อนที่เธอจะลืมตาขึ้นมามองพีร์เจ “ต้องกินยาอีกเหรอ” เทียน่าถามเสียงพร่าแล้วยันตัวลุกขึ้นมานั่ง
“ไม่บวมเท่าไหร่แล้ว” พีร์เจเชยปลายคางหญิงสาวขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับสำรวจใบหน้าเธออย่างละเอียด ปลายนิ้วโป้งแตะลงที่กลีบปากบวมเจ่อเบา ๆ พร้อมกับเกลี่ยไปมา “ทายาแล้วก็ดื่มน้ำเยอะ ๆ” เขาชักมือกลับแล้วหมุนตัวเดินออกมาจากห้องนอนเทียน่า การที่เขาต้องมาดูแลเธอแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการเลี้ยงเด็กวัยห้าขวบที่กำลังซุกซนเลย
“…” ภายในห้องนอนเงียบลงเมื่อไร้เสียงของนายแพทย์หนุ่ม หากแต่สัมผัสอุ่นของฝ่ามือหนายังติดอยู่ที่ปลายคางและริมฝีปากของเธอ สัมผัสบางเบาของปลายนิ้วโป้งยังติดตรึง เทียน่ายกมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากตนเองแล้วทำตามที่ชายหนุ่มบอกก่อนที่เขาจะออกไปข้างนอก พอเสร็จแล้วจึงนอนพักผ่อนอีกครั้ง
09:00 น.
เทียน่าเดินออกมาด้านนอกแต่วันนี้เธอคิดผิดที่ว่าจะไม่เจอหน้าพีร์เจอยู่ในห้องเพราะตอนนี้เขานั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางสบาย ๆ แถมยังยกแก้วกาแฟขึ้นจิบโดยไม่สนใจเธออีกต่างหาก
“ไม่ไป… ทำงานเหรอ”
“หยุด” เขาตอบกลับสั้น ๆ
“อ๋อ” หญิงสาวเกาแก้มแก้เก้อก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโซฟาอีกตัวหนึ่ง “หายคันแล้วนะ” เธอเริ่มบอกอาการเขาเพราะคิดว่าน่าจะต้องบอกแต่พีร์เจกลับนิ่งเฉยไม่หือไม่อืออะไรเลย คนที่ตั้งใจบอกเป็นฝ่ายเอียงอายและปิดปากเงียบเสียเอง
“วันนี้ฉันมีนัดกับเพื่อน”
“…”
“เธอต้องไปด้วย” เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์อย่างเมื่อครั้งที่เข้าเห็นเธอนั่งห้อยขาอยู่ระเบียงเกิดขึ้นอีกเขาจำเป็นต้องพาเทียน่าไปด้วย
“เข้าใจแล้ว” เธอพยักหน้าเข้าใจอย่างไม่มีข้อกังขาแล้วกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดพร้อมที่จะออกไปข้างนอกกับพีร์เจ “จะพาไปไหนเหรอ… หรือว่าเดี๋ยวรู้เอง” เธอดักทางเขาโดยไม่ได้ตั้งตัวและถูกคนตัวโตมองด้วยสายตาเชิงตำหนิ
สนามยิงปืน
ซินเซียนั่งไขว่ห้างส่งยิ้มบาง ๆ ให้เพื่อนสนิทที่เพิ่งเดินเข้ามา ก่อนจะเอียงหน้ามองคนด้านหลังเพื่อนและยิ้มทักทายตามมารยาท
“แปลก” ซินเซียยกยิ้ม
“แปลกอะไร”
“ก็แปลกที่วันหนึ่งนายก็มีผู้หญิงเดินตามติดต้อย ๆ แบบนี้ทั้งที่นายไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้” คำพูดตรงไปตรงมาของซินเซียทำเทียน่าที่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่ข้างพีร์เจหน้าผ่าวร้อนขึ้นมาทันที เธอหลุบตามองพื้นเพราะไม่กล้าสบตากับซินเซียตรง ๆ
“เหตุสุดวิสัย” พีร์เจตอบเสียงเรียบ
“ก็คงเป็นงั้น”
“อืม” เมื่อทั้งสองพูดคุยกันเสร็จก็เดินไปประจำที่ เทียน่านั่งนิ่งชะเง้อมองอย่างสนใจ เห็นพีร์เจจับปืนแล้วเล็งไปที่เป้าล่อกระสุนแล้วรู้สึกคันไม้คันมือแปลก ๆ เหมือนกับว่าร่างกายอยากทำอะไรสักอย่าง แต่จู่ ๆ พีร์เจก็วางปืนลงแล้วหันหลังเดินกลับมาหาแล้วเอาหูฟังเก็บเสียงมาครอบหูให้เทียน่า “ใส่ไว้ เดี๋ยวหูอื้อ”
“อืม… เข้าใจแล้ว”
“ดูแลดีกว่าเพื่อนอีก” ซินเซียแกล้งแซวเสียงอู้อี้แล้วเล็งปืนไปที่เป้าล่อกระสุน จากนั้นเธอก็กดลั่นไกปืนไปห้านัดติดกัน กระสุนถูกจุดสำคัญในเป้าล่อหมด ส่วนพีร์เจยังเล็งปืนและในนาทีต่อมาเขาก็กดลั่นไกไปห้านัดเหมือนกัน ทว่านัดหนึ่งหลุดนอกเป้าล่อจึงทำให้ครั้งนี้ซินเซียได้คะแนนนำไปก่อน
“ฝีมือตกนี่”
“ไม่ได้ยิงปืนนาน”
“งั้นถ้าแพ้เลี้ยงวิสกี้”
“ถ้าเธอต้องการนะ” สองหนุ่มสาวมองหน้ากันเงียบ ๆ ก่อนจะพร้อมกันหันมามองเทียน่าที่นั่งนิ่งผิดปกติ
“ชื่ออะไร” ซินเซียเอ่ยถาม
“ฉะ… ฉันเหรอ”
“อืม”
“เพี้ยน”
“ถามจริง” เธอหันมามองพีร์เจอย่างไม่อยากเชื่อ “นายตั้งชื่อเธอแบบนั้นจริงดิ”
“อืม” เขายอมรับตรง ๆ “ก็ถ้าความจำกลับมาค่อยเรียกชื่อเธอ” ซินเซียส่ายหน้าเบา ๆ อย่างเหนื่อยหน่ายแล้วลุกไปยิงปืนอีกครั้ง แต่เธอสังเกตเห็นความกระตือรือร้นของเทียน่าจึงเอ่ยปากชวนยิงปืนด้วยแต่ให้พีร์เจเป็นคนสอนและดูแล
ลมหายใจเธอหอบกระชั้นเมื่อพีร์เจก้าวมาหยุดยืนซ้อนด้านหลัง ลมหายใจร้อนเป่ารดท้ายทอยเธอถี่ ๆ ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะวางลงบนหลังมือเธอจากนั้นเขาก็ประคองมือเทียน่าขึ้น
“ตามองตรงไปที่เป้าล่อ หากมั่นใจแล้วว่าปลายกระบอกปืนตรงเป้าก็กดลั่นไกปืนได้เลย” เสียงทุ้มต่ำกระซิบบอกข้างใบหูเล็ก เทียน่าหรี่ตามองเป้าล่อกระสุนก่อนจะหลับตาและสูดหายใจเข้าลึก ๆ ทว่าภาพเหตุการณ์บางอย่างก็ฉายเข้ามาในหัวเธอ ดวงตาที่เคยฉายแววอ่อนโยนไร้เดียงสากลับแข็งกร้าว เธอกดลั่นไกปืนห้านัดซ้อน พีร์เจกะพริบตาหนึ่งครั้งมองใบหน้าของหญิงสาว
“เข้าเป้าทุกนัดเลย”
“เธอ… ฝีมือการยิงปืนก็ไม่เลวนี่” ซินเซียปรบมือทั้งออกปากชมหญิงสาวขณะที่พีร์เจยืนเงียบอยู่กับที่ เขาเอาปืนออกจากมือเทียน่าแล้วถอดหูฟังให้เธอ
“เก่ง” คำชมแรกที่ได้รับจากเขาทำเอาหัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่พีร์เจกลับจ้องหน้าเธอก่อนที่เขาจะวางมือลงบนโต๊ะวางอุปกรณ์ “เธอใช้ปืนเก่ง เมื่อกี้… เธอเหมือนไม่ใช่คนอ่อนแอ” ระหว่างที่เขากำลังถามคนที่เข้ามายิงปืนด้วยกันก็ลั่นไกปืน เทียน่าหันไปมองด้วยความตกใจแล้วขืนตัวออกจากการกักขัง
หมับ!
พีร์เจคว้ามือเล็กไว้แน่นแต่ยิ่งเขาบีบมือเธอแรงเทียน่าก็ยิ่งขืนตัวออกจนสำเร็จ ปลายกระบอกปืนที่ไร้กระสุนจ่อมาที่หน้าผากเขา
“…”
“ขะ… ขอโทษฉันไม่ได้ตั้งใจ” หญิงสาวรีบวางปืนลงแล้วถลาเข้าไปสวมกอดเขาพีร์เจแน่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตกอยู่ในสายตาซินเซียตลอด แพทย์หญิงมุ่นคิ้วเป็นคำถาม
“ไม่น่าใช่” เธอพึมพำเสียงเบาแล้วหันกลับมายกแก้วน้ำหวานขึ้นจิบเล็กน้อย
เมื่อรู้ตัวว่าตนเองทำผิดแล้วเธอก็รีบผละตัวออก ขอโทษขอโพยพีร์เจด้วยกลัวว่าเขาจะโกรธแต่ยิ่งเขาเงียบไปโดยไม่พูดอะไรสักคำเธอก็ยิ่งใจเสีย มันเป็นความเงียบที่น่าอึดอัดมาก
“เมื่อกี้ฉันเห็น… ภาพบางอย่างเลยกดลั่นไกปืนไปแบบไม่ทันระวัง” เทียน่าอธิบายเหตุผล
“เธอแค่กดลั่นไกโดยไม่ได้คิดอะไรเลย?” ซินเซียถามอย่างสงสัย เธอกับพีร์เจมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย
“อืม…”
พีร์เจเงียบไปราวกับว่าเขากำลังใช้ความคิดและสุดท้ายก็ต้องพาเทียน่ากลับห้อง ภายในห้องพักถูกปกคลุมด้วยไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ เทียน่านั่งเงียบอยู่บนโซฟา
“ความทรงจำเธออาจกำลังกลับมา” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบลง เขาจ้องหน้าเทียน่าอย่างครุ่นคิด “เธออาจไม่ใช่คนที่ฉันจะต่อกรด้วย”
“แต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะ… นายช่วยชีวิตฉันไว้ นายเป็นเจ้าของชีวิตฉัน” เธอเลียนแบบซินเซียใช้สรรพนามที่ซินเซียชอบเรียกพีร์เจเอามาเรียกแทนตัวเขา
“ชีวิตใครชีวิตมัน ฉันไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่ายชีวิตเธอ”
“แต่นายช่วยชีวิตฉัน"
“ที่ทำแบบนั้นเพราะฉันเป็นหมอ เธอเป็นคนไข้ที่ฉันต้องรักษา”
“… อืม เข้าใจแล้ว”
“…”
