บทที่ 6 บทที่ 5

บทที่ 5

@สิบสองปีก่อน โรงเรียนเอกชนชื่อดัง

"อ้วน! เก็บลูกบอลให้หน่อยดิ๊!" เสียงเข้มของเด็กหนุ่มคนหนึ่งตะโกนบอกเด็กสาวอีกคนที่กำลังเดินผ่านสนามบอล เด็กสาวหน้าตาน่ารักหันไปทำหน้าขรึมใส่ แล้วจับลูกบอลขึ้นมา

"คำก็อ้วน สองคำก็อ้วน อ้วนแล้วมันหนักหัวพ่อแกรึไงฮะ!" เธอตะโกนว่ากลับพร้อมกับเตะลูกบอลคืนให้เขา แล้วสะบัดหน้าเดินหนีด้วยความหงุดหงิด

ปึก!

กำปั้นน้อยๆ ฟาดลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงดังก้องไปทั่วโรงอาหาร เรียกความสนใจจากเด็กนักเรียนหลายคนที่กำลังนั่งกินข้าวให้หันมามองเธอเป็นตาเดียว

"เฮ้ยวันนี้มีทับทิมกรอบนะ ลองหน่อยไหม" เสียงหวานของเด็กสาวอีกคนเอ่ยชวนเพื่อน

"เอาดิอยากกินอะไรหวานๆ แก้หงุดหงิดเหมือนกัน" สองสาวเดินไปที่ร้านขายขนมหวาน ก่อนที่จะสั่งทับทิมกรอบคนล่ะถ้วย แล้วถือไปนั่งที่โต๊ะ ทว่าในจังหวะนั้นก็มีมือหนาของใครบางคนยื่นมาจับถ้วยทับทิมกรอบขึ้นไปกินหน้าตาเฉย

"นี่! อยากกินก็ไปซื้อสิ มาแย่งของคนอื่นกินได้ไง"

"อ้วนแล้วจะกินของที่มันอ้วนอีกทำไม ไม่ต้องห่วงนะเดี๋ยวฉันกินให้เอง"

"เอาคืนมานะ!" มือบางแย่งถ้วยขนมหวานกลับมา แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมปล่อย จนเธอต้องถอดใจ ทว่ามุมปากบางกลับยกยิ้มร้ายกาจ มือบางยื่นไปจับถ้วยทับทิมกรอบคว่ำใส่เสื้อนักเรียนของชายหนุ่มจนเปียกโชกไปด้วยน้ำกะทิเหนียวๆ

"ยัยอ้วน! จะหวงไปไหนก็แค่ไม่อยากให้อ้วน"

"อ้วนไม่อ้วนก็เรื่องของฉัน นายไม่เกี่ยว!"

"..." เด็กหนุ่มจ้องหน้าเด็กสาวเงียบๆ ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น

"เดี๋ยว!" เสียงใสๆ ร้องห้ามทำให้เท้าทั้งสองข้างหยุดชะงัก เด็กหนุ่มค่อยๆ หันกลับมามองหน้าเจ้าของเสียงเรียกนั่นอย่างใจเย็น

"..." เด็กสาวตักทับทิมกรอบของเพื่อนใส่ปาก ทำประชดชายหนุ่มพร้อมกับทำหน้าล้อเลียน ทว่าหัวคิ้วมนกลับขมวดเข้าหากันยุ่ง มือบางวางลงบนโต๊ะ ใบหน้าแดงก่ำ

"อื้อ!" เธอชี้นิ้วใส่คอตัวเองขณะที่ใบหน้าเริ่มมีเหงื่อออกมากมาย สร้างความตกใจให้เพื่อนไม่น้อย

"อย่ามาล้อเล่นนะ เป็นอะไรเนี่ย!" เพื่อนสาวกำหมัดแน่น ในจังหวะที่เด็กหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ เธอฟาดกำปั้นลงบนหลังเพื่อนรักอย่างแรง ทำให้ทับทิมกรอบหลายเม็ดพ่นพรวดใส่หน้าของเด็กหนุ่มเต็มๆ

"เฮ้อ~" เธอทรุดตัวนั่งลงแล้วไล่งับอาหารเข้าปอดก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อหันไปมองหน้าชายหนุ่ม เม็ดทับทิมกรอบเจ้าปัญหาเม็ดใหญ่กว่าปกติติดตรงหน้าผากเขา และอีกหลายเม็ดบนใบหน้าและเสื้อนักเรียน

"ยัย! ทับ! ทิม! กรอบ!!" เขาตะเบ็งเสียงจนปากคอสั่นด้วยความโกรธจัด ก่อนที่จะเดินออกไปเพื่อระงับอารมณ์

@ปัจจุบัน

"Fuck!" ไบรท์พ่นคำหยาบคายอย่างหัวเสีย เมื่อจู่ๆ เรื่องราวในอดีตก็ฉายเข้ามาในสมอง มือหนายกขึ้นมานวดคลึงขมับเบาๆ ทว่าในจังหวะนั้นพนักงาน เสริฟ์สาวก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางตกใจ

"คุณผู้หญิงคนที่มากับคุณ เธอล้มอยู่ในห้องน้ำค่ะ" มาเฟียหนุ่มเหลือบตามองพนักงานเพียงนิด ริมฝีปากหยักได้รูปเม้มเข้าหากันเบาๆ เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะเดินไปดูเธอ แต่กลับเอนกายพิงกับพนักเก้าอี้

"ให้ผมพาเธอไปส่งดีไหมครับนาย" ลูกน้องคนสนิทออกความคิดเห็น และพร้อมที่จะเดินไปดูหญิงสาว ทว่าไบรท์กลับยกมือขึ้นห้าม เขาหยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที

"ยังไหว~ ไม่ต้องช่วย" ปลายฝันยกมือขึ้นมาห้ามเมื่อเห็นชายหนุ่มเปิดประตูเข้ามา เขาหันมองไปรอบๆ ห้องน้ำด้วยความอายเมื่อต้องเข้ามาในห้องน้ำผู้หญิง มือหนายื่นไปตรงหน้า

"ลุกเองได้น่า!"

"อวดเก่ง!"

"..." ริมฝีปากอวบอิ่มแดงซ่านเบะคว่ำอย่างเอาแต่ใจ เธอเกาะเคาน์เตอร์ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ขณะที่อีกคนก้มหน้า มองซ้ายมองขวาเมื่อมีผู้หญิงเดินออกมาจากห้องน้ำ

"..." มาเฟียหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เขาเดินไปอุ้มหญิงสาวขึ้นมาพาดบ่า พาเธอออกไปจากห้องน้ำ ปลายฝันเบะปากคว่ำ เธอกำหมัดแน่นฟาดลงบนหลังกว้างเป็นการประท้วง

"ปล่อยฉันนะ คุณจะพาฉันไปไหน!"

"..." ไบรท์จิ๊ปากข่มอารมณ์ไว้ พาเธอไปยังรถยนต์หรู เขาวางปลายฝันลง มือหนาประคองไล่มนไว้เพียงข้างเดียง

หวืด! พรึบ!

"อื้อ!" ปลายฝันล้มลงไปบนพื้นปูน ใบหน้าสวยเหยเกอย่างหนัก เธอยกมือขึ้นมากุมหัวเข่าข้างที่เป็นแผลไว้ แล้ววางหน้าผากมนซบลงบนหลังมือด้วยความเจ็บปวด

"ฉันเจ็บ~"

"ลุกขึ้น"

"ฉันเจ็บแผล เจ็บก้น~"

"ลุกขึ้นมา"

"..." เธอเงียบไป ก่อนจะค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลบนรองเท้าส้นสูงกว่าห้านิ้ว ไบรท์จิ๊ปากอย่างหัวเสีย เขารั้งเอวคอดไว้ด้วยท่อนแขนแกร่ง แล้วถอดรองเท้าให้เธอ ขณะที่ปลายฝันเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อได้มองหน้าชายหนุ่มในระยะใกล้ จนเธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนของเขาที่พ่นออกมา

"เป็นถึงหมอ เมาเหมือนหมา!"

"หมา? นายชอบเลี้ยงหมาเหรอ~"

"..." มาเฟียหนุ่มพ่นลมหายใจออกหนักๆ แต่ในตอนที่เขาจะอุ้มเธอเข้าไปในรถ นาฬิกาข้อมือกลับเกี่ยวสร้อยคอของปลายฝันหลุดออกจากคอเธอ ไบรท์หันไปมองสร้อยที่ร่วงลงพื้นเงียบๆ เขาอุ้มปลายฝันเข้าไปในรถยนต์ ก่อนจะเดินกลับไปเก็บสร้อยเส้นนั้น

"..." ดวงตาคมกริบจ้องสร้อยคอในมือไม่วางตา แล้วหันไปมองหน้าหญิงสาว หัวคิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด

"ใช้เธอจริงๆเหรอ ยัยทับทิมกรอบ"

"ฉันมึนหัวจัง.." ไบรท์ถอนหายใจแรง แล้วก้าวเข้าไปในรถ เขาดันใบหน้าปลายฝันออกห่างเมื่อเธอทำท่าจะซบหน้าลงบนไหล่เขา ทำให้ศีรษะเธอชนกับกระจกรถอีกฝั่ง

บรรยากาศภายในรถเงียบลงอีกครั้ง มีเพียงเสียงลมหายใจของหญิงสาวที่สม่ำเสมอ เธอค่อยๆเอนกายมาพิงกับร่างหนาโดยไม่รู้ตัว

"อื้อ!" ปลายฝันครางในลำคอเมื่อถูกผลักหน้าออกจากบ่าแกร่ง เธอปรือตาขึ้นมามองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ

"ไหล่นายก็กว้าง ทำไมไม่มีน้ำใจเลย!"

"..."

"ทำไม! หน้าฉันมันหนักขนาดนั้นเลยเหรอ...แค่ยืมไหล่นายซบแค่เนี่ย ถ้าไม่อยากให้ฉันเอาหน้าซบกับไหล่ นายก็ไปทำให้ไหล่มันเล็กลงสิ ไหล่มันจะได้ไม่น่าซบอีก" ไบรท์นิ่งเงียบไม่ตอบโต้ เขาปรายตามองหญิงสาวเพียงนิด

"หรือว่าหน้าฉันมันใหญ่?" ปลายฝันเอามือขึ้นมาจับใบหน้าไว้ เธอทำหน้าตกใจมาก ลูกน้องหนุ่มที่นั่งประจำที่ด้านหน้าหันมามองผู้เป็นนาย

"ฉันควรไปฉีดโบท็อกซ์ดีไหม~" เธอเอียงคอถามชายหนุ่ม แต่ก็ได้เพียงความเงียบกลับมา ทว่าในจังหวะนั้นไบรท์ก็ยกมือขึ้นไปกดศีรษะคนตัวเล็กมาซบที่ไหล่ ทำให้ปลายฝันเงียบไป

"ไหล่นายมันกว้าง...น่าอบอุ่นดีจัง" ใบหน้าสวยปรากฏรอยยิ้มบางๆ ดวงตากลมโตหรี่ปรือ น้ำเสียงที่เปล่งออกไปยืดยานจนแทบไม่รู้เรื่อง

"หนึ่ง~ สอง~ สาม~ สี่~..."

"เป็นบ้าอะไรอีก"

"ไม่ได้บ้า...พ่อเคยบอกไว้ เวลารู้สึกโดดเดี่ยวให้นับหนึ่งถึงร้อย แล้วจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว"

"นอกจากเป็นหมอแล้ว เป็นประสาทด้วยไหม?" ไบรท์เอียงคอถามคนตัวเล็กที่กำลังนับเลข แต่ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็หลับไป โดยที่ยกมือขึ้นมาวางไว้บนหน้าขาแกร่ง ใบหน้าสวยซบลงกับไหล่กว้างของเขา ลมหายใจร้อนเจือกลิ่นแอลกอฮอล์เป่ารดลำคอหนาถี่ๆ

"..." ความเงียบปกคลุมอีกครั้งเมื่อไร้เสียงของหญิงสาวคนข้างๆ เขาใช้สายตาจ้องมองใบหน้าสวยหวานอย่างพิจารณา ก่อนที่รอยยิ้มพอใจบางอย่างจะผุดขึ้น

"นายจะพาคุณผู้หญิงคนนี้กลับคอนโดฯ เธอ.."

"กลับคอนโดฯกู" ลูกน้องหนุ่มยังไม่ทันที่จะได้พูดจบประโยคไบรท์ก็พูดขึ้นก่อน เขาปรายตามองลูกน้องหนุ่มเพียงนิด แล้วละสายตาจากใบหน้าลูกน้องมามองคนข้างๆ

รถยนต์หรูเคลื่อนตัวไปจอดเทียบริมฟุตปาธหน้าทางเข้าคอนโดมิเนียมหรู พนักงานบริการสี่คนรีบเดินมาเปิดประตูรถให้ชายหนุ่มอย่างรู้งาน

"อื้อ~" ปลายฝันครางเบาๆ ในลำคอเมื่อถูกรบกวน เธอรู้สึกตัวเบาหวิวเหมือนนุ่นที่กำลังลอยในอากาศจนต้องยกมือขึ้นไปตรงหน้า ปล่อยให้ศีรษะตกลงบนท่อนแขนแกร่ง ผมดกดำสยายพลิ้วไหวไปมาขณะที่เจ้าของยังพร่ำเพ้ออยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม

"ปล่อย!" สองเท้าหยุดชะงักค้างกลางห้องโถงใหญ่ของคอนโดฯหรู เมื่อคนในอ้อมกอดสั่งแบบนั้น เสียงของเธอดังก้องไปทั่วบริเวณ ทำให้พนักงานหลายคนต้องหันมามองไบรท์เป็นตาเดียว

เขาค่อยๆ วางปลายฝันลงบนพื้น ทันทีที่เท้าทั้งสองข้างแตะพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ ร่างบางก็สั่นระริกจนต้องหันไปหาชายหนุ่มแล้วซบหน้าลงกับอกแกร่ง

"ฉันหนักหัว ขอพิงหน่อย~ อื้อ!" ปลายฝันครางในลำคอเมื่อถูกฝ่ามือหนาดันหน้าผากออก คนตัวเล็กปั้นหน้าบึ้งจ้องหน้าชายหนุ่มเขม็ง

"ขอบคุณนะที่มาส่ง นายกลับไปได้แล้ว" ฝ่ามือบางสะบัดขึ้นลงเบาๆ เป็นเชิงบอกให้ไบรท์กลับไป ทว่าชายหนุ่มกลับคว้ามือบางไว้ กระตุกแขนปลายฝันเบาๆ เพียงเท่านั้นร่างบางก็เซถลาเข้ามาสู่อ้อมแขนแกร่ง

"อื้อ...หนึ่ง สอง สาม...สี่~ ห้า~"

"เลิกนับสักทีเถอะ"

"ก็ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวนิ ขอโทษด้วยนะที่ทำให้คุณเสียเวลา" ไบรท์เลิกคิ้วขึ้น มองหญิงสาวอย่างมึนงงเมื่อได้ฟังสิ่งที่เธอบอก ทว่ามุมปากหนากลับยกยิ้มร้ายกาจ มาเฟียหนุ่มยกมือขึ้นมาประคองใบหน้าสวยไว้

"เธอเมาจริงหรือแกล้งเมา"

"ฉัน..ฉันรู้สึกมึนหัวน่ะ ตอนนี้เริ่มโอเคละ...อื้อ!" คำพูดที่จะพูดออกไปกลืนหายลงไปในลำคอเมื่อคนตรงหน้าประกบปากจูบ ปิดผนึกริมฝีปากอวบอิ่มด้วยกลีบปากหนา สติสัมปชัญญะเธอเลือนลอยเข้าไปใหญ่ ราวกับทุกอย่างถูกหยุดไว้แค่ตอนนั้น ความเงียบที่เกิดขึ้นทำให้เธอได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงระรัวอย่างหนัก

"คุณไลเกอร์ ไบรท์...จูบฉัน~"

บทก่อนหน้า
บทถัดไป