บทที่ 4 นางร้าย
“อื้อ~อ๊า”
เสียงครางสั่น ๆ ดังขึ้นจากห้องนอนทันทีเมื่อฉันก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำ ฉันชะงักมือที่กำลังเช็ดเส้นผมเปียกของตัวเองแล้วหันมองตามทิศทางของเสียงนั่น
ใครเข้ามาในห้องกันนะ นี่มันห้องหอที่ผู้ใหญ่จองไว้แล้วนี่…
เอ๊ะ... หรือว่าเข้าห้องผิด?
“อ่า... ฟราน... ห้องหอนายสวยดีนะ อ๊ะ!”
เสียงเล็กครางแหบพร่าขณะที่ร่างกายฉันชาวาบไปแล้ว สองเท้าก้าวเดินเข้าไปใกล้เสียงนั้นช้า ๆ ประตูห้องนอนเปิดอยู่ทำให้ฉันสามารถมองเห็นด้านในได้อย่างชัดเจน
ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งคร่อมอยู่บนร่างกายท่อนล่างของผู้ชายอีกคนที่นั่งพิงหัวเตียง เขาซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับหน้าอกอวบเปลือยเปล่า ทั้งสองคนกำลังขับเคลื่อนจังหวะกันอย่างเร่าร้อนจนกลีบกุหลาบบนเตียงนอนปลิวกระจายเต็มพื้นห้อง
ฉันยืนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ไม่สิ! ต้องบอกว่าไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกแบบไหนมากกว่า การได้เห็นผู้ชายที่เพิ่งจะขึ้นชื่อว่าเป็นสามีตัวเองหมาด ๆ กำลังเริงรักกับผู้หญิงคนอื่นในคืนส่งตัว แถมยังเป็นบนเตียงและในห้องหออีกต่างหาก ตอบหน่อยสิว่าฉันควรรู้สึกอย่างไรดี?
มันไม่ได้หึงหวง ไม่ได้เสียใจ ไม่ได้น้อยใจ แต่มันรู้สึก... โกรธ
ตึง!
ฉันยกเท้าขึ้นถีบประตูห้องแรง ๆ จนร่างทั้งสองร่างหยุดชะงักด้วยความตกใจ ฉันเห็นดวงตาคมเลื่อนขึ้นมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย เราสองตากันนิ่งในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นค่อย ๆ ผละออกจากร่างแกร่งซึ่งเขาก็ยอมปล่อยเธอออกโดยดี ร่างเพรียวบางจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเดินเข้ามาหาฉัน สีหน้าของเธอดูมีความสุขจนเกินควรไปนะ...
“อุ๊ย... นี่เหรอ? เจ้าสาวของฟราน” เธอถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อขณะคนถูกถามทำหน้าตึงและทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนราวกับเบื่อหน่าย ฉันละสายตามามองใบหน้าสวยของเธอพลางกรีดยิ้มร้าย
ถ้าคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงอ่อนแอ โลกสวย นางเอ๊กนางเอกละก็... คิดผิดแล้ว เพราะฉันน่ะ... เป็นนางร้าย!
“ฉันไม่ใช่แค่เจ้าสาวของเขาหรอกนะ” ฉันพูดแล้วเดินตรงไปทางร่างสูงที่ยังคงนอนนิ่ง เขาเหลือบตามองฉันนิด ๆ คล้ายอยากรู้ว่าฉันจะทำยังไงต่อไป นิ้วเรียวเช็ดคราบลิปสติกสีแดงสดข้างแก้มสากของเขาออกช้า ๆ แล้วยกขึ้นมามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย “แต่เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาต่างหาก…”
“…”
“ถ้าอยากจะเริงรักกันมากนักฉันก็ไม่ว่า...” ฉันจิกตาลงมองใบหน้าหล่ออย่างเย็นชา เราสองคนจ้องตากันอีกครั้ง ฟรานซิสลุกขึ้นนั่งความสูงของเขาอยู่ตรงกับระดับสายตาฉันพอดี “ฉันน่ะใจกว้างนะ อยากจะเอากับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ก็เชิญ”
“…”
“แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่!!”
เพี๊ยะ!
สิ้นเสียงตวาดฉันก็สะบัดฝ่ามือใส่ใบหน้าหล่อของเขา ฟรานซิสหน้าหันไปตามแรงตบ ดวงตาคมเบิกกว้างคล้ายกับตกใจ เสียงกรี๊ดเบา ๆ จากผู้หญิงด้านหลังดังขึ้นพร้อมแรงผลัก ฉันที่ไม่ทันตั้งตัวจึงเสียหลักกระแทกกับโต๊ะหัวเตียงอย่างแรง มันจุกมากเลยล่ะ!
“ฟราน! เป็นอะไรไหม? นังบ้า! กล้าดียังไงมาตบหน้าแฟนฉันยะ!” ยัยผู้หญิงคนนั้นละล่ำละลักถามฟรานซิส สองมือประคองแก้มสากที่เริ่มขึ้นสีแดงของเขา เธอหันมาจิกตาใส่ฉันอย่างเอาเรื่อง แถมยังทำท่าจะปรี่เข้ามาหาฉันที่กำลังยกมือขึ้นกุมท้องพลางนิ่วหน้านิด ๆ อย่างรู้สึกเจ็บ
ให้ตายสิ! ทำไมฉันต้องมาเจ็บตัวเพราะไอ้บ้านี่ด้วยนะ
“กลับไปก่อนมาหยา”
“ว่าไงนะ! นายไล่ฉันเหรอฟราน!”
ฟรานซิสยังไม่ละสายตาไปจากฉัน เขาดึงแขนผู้หญิงคนนั้นแล้วทำหน้าตึงก่อนพูดย้ำอีกรอบ
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ... กลับไป”
ผู้หญิงที่น่าจะชื่อมาหยาเม้มปากอย่างขัดใจแล้วตวัดสายตามาทางฉัน เชื่อสิ... ถ้าไม่ติดฟรานซิสนะ ยัยนี่คงถลาเข้ามาตบฉันเป็นร้อยครั้งแล้ว
“ก็ได้! พรุ่งนี้ฉันจะรอที่มหาลัยนะ”
มาหยาหยิบกระเป๋าแล้วก้มลงหอมแก้มฟรานซิส เขาไม่มีท่าทางปัดป้องแต่อย่างใด จนกระทั่งเธอเดินออกจากห้องไปนั่นแหละเขาถึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
คิดว่าไงล่ะ! ฉันควรจะอยู่ในห้องนี้ต่อไหมล่ะ แน่นอนว่าไม่!
“จะไปไหน?” มือหนารั้งแขนฉันเอาไว้ เขาดึงฉันให้กลับมายืนที่เดิมอีกครั้ง สายตาคมจับจ้องทั่วเรือนร่างที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ
ตายล่ะ! ฉันลืมได้ยังไงกันเนี่ยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพล่อแหลมแค่ไหน
“มองอะไร!” ฉันยกสองแขนขึ้นบังหน้าอกแล้วจิกสายตาด่าทอเขา สายตาไม่น่าไว้ใจนั่นมีแววคุกรุ่น ท่าทางคุกคามของเขาทำให้ฉันรู้สึกอยากจะหายไปจากตรงนี้จริง ๆ
“มองเมียตัวเองไง”
“ฉันไม่ใช่!”
“ไม่ใช่อะไร?”
ฉันกัดปากตัวเองแน่น บ้าเอ๊ย! ฉันเกลียดหมอนี่ชะมัด! ทำไมฉันต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ด้วยนะ!!
“ปล่อย...”
“จะไปไหน?”
“จะกลับบ้าน!”
นี่ฉันกำลังเล่นเกมถามตอบกับเขาอยู่หรือไงนะ!
“กลับบ้านไหนของเธอ ลืมไปหรือเปล่าว่าตอนนี้บ้านเธอก็คือคอนโดของฉัน”
ฟรานซิสมองฉันเหมือนต้องการจะตอกย้ำคำพูดของแม่ มันเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดสำหรับฉันเลยล่ะ! ทำไมแม่ต้องส่งฉันให้มาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับผู้ชายโรคจิต ป่าเถื่อน และนิสัยไม่ดีอย่างหมอนี่ด้วย!
