บทที่ 3 เพื่อนพี่จะกินหนูอยู่แล้ว

ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า คนตัวเล็กยังคงนอนหลับตาพริ้มซุกผ้าห่มอยู่บนเตียงนุ่ม หูของเธอเหมือนจะได้ยินเสียงคนเดินอยู่ภายในห้อง ทว่าเกวลินไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมา เธออยากจะนอนต่อบนที่นอนของสิงห์อีกหน่อย ในหัวกลับคิดขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้นอนอยู่ที่ห้องของตัวเอง และเสียงคนเดินที่เธอได้ยินอยู่ตอนนี้คือ...

“ผีหลอก!!!” เกวลินเด้งตัวลืมตา ส่งเสียงดังออกมาด้วยความกลัว ทั้งที่สายตาของเธอยังพร่ามัว มองอะไรไม่ชัด

“ผีบ้านเธอสิ”

คนตัวเล็กได้ยินเสียงของสิงห์เธอยกมือขยี้ตาปรับแสง หรี่ตามอง

“พี่สิงห์”

“ขึ้นมาแต่งตัว จะไปทำงานแล้ว”

“ฮะ!! นี่กี่โมงแล้วคะ?”

เกวลินดีดตัวลงจากเตียงทันที “เกลขอโทษนะคะ หลับเพลินเลย พี่สิงห์แต่งตัวเถอะค่ะสายแล้ว”

“แต่งเสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวเช้าพร้อมกันสิ”

คนตัวเล็กใช้สายตาสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ยกยิ้มเขิน บิดไปมาอย่างลืมตัว

“เตียงพี่สิงห์นอนสบายดีนะคะ” นิ้วเรียวชี้ไปที่เตียง ใบหน้ายังคงยิ้มกรุ้มกริ่ม

“นอนต่อไหม?” สิงห์เอียงหน้าถาม

คนตัวเล็กส่ายหัวปฏิเสธ ยกมือเกาคอแก้เขิน

“เดี๋ยวพี่สิงห์สาย ไปกินข้าวกันเถอะค่ะ”

“อืม”

สิงห์อยู่ใกล้ประตูจึงเดินนำไปก่อน คนตัวเล็กเดินตามไป สายตามองแผ่นหลัง ใบหน้ายิ้มบ่งบอกว่าตอนนี้กำลังมีความสุข ‘นี่มันฟิวส์แฟนมาตามไปกินข้าวเช้าด้วยกันใช่ไหม’ เกวลินอยู่คิดในใจ

คนตัวเล็กไม่ยอมกลับบ้าน ยังคงนั่งทานข้าวเช้าที่บ้านของสิงห์

“หนูเกลวันนี้ตอนเย็นมาที่บ้านน้านะ”

เกวลินกำลังตักข้าวต้มเข้าปากชะงักมือ เบิกตากว้างด้วยความสงสัย “ตอนเย็นมีของอร่อยอีกเหรอคะ?”

สิงห์วางช้อนลงยกน้ำดื่ม “เป็นหมูหรือไง” เขาเอ่ยลอยๆ

คนตัวเล็กกระแอ่มสำลักก่อนจะหันไปค้อนใส่คนที่เพิ่งว่าเธอเมื่อครู่

“ปวดหัวกับพี่น้องคู่นี้จริงๆ ตีกันตั้งแต่เด็กยันโต” แม่สิงห์ส่ายหัวเอ็นดู ก่อนจะหันไปพูดกับเกวลินต่อ

“ของอร่อยมีแน่นอน พี่สิงห์เขาชวนเพื่อนมาบ้านน่ะ วันนี้น้าจะลงครัวเอง”

พอฟังที่แม่สิงห์พูดจบคนตัวเล็กก็ตาเป็นประกาย “งั้นหนูมาช่วยเป็นลูกมือคุณน้านะคะ”

“ดีมาก” แม่สิงห์ยิ้มชอบใจ

“ใช่เรื่องของเด็กหรือไง” สิงห์เอ่ยเสียงขรึม

“แล้วใช่เรื่องของคนแก่อย่างแม่ของแกไหมเจ้าลูกชาย ร้านอาหารตั้งเยอะแยะ พาเพื่อนมาให้แม่เหนื่อย”

สิงห์โดนแม่ดุ ก็ทำเชิงยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา

“สายแล้ว ผมไปทำงานก่อนนะครับ” พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที

เกวลินแอบขำอยู่ในใจ ท่าทางของสิงห์ตอนโดนแม่ของเขาดุเหมือนเด็กเลย เธอไม่ค่อยได้เห็นนัก

เกวลินมาช่วยเป็นลูกมือให้แม่ของสิงห์ตั้งแต่บ่าย ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น อาหารเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เธอจึงขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ตอนนี้สภาพของเธอไม่ต่างอะไรกลับแม่บ้าน ทำกับข้าวรอสามีเลิกงานเลย ทั้งหัวฟูตัวเหม็นควันไปหมด

ไม่นานนักสิงห์กับกลุ่มเพื่อนสนิทก็มาถึงบ้าน เพื่อนสนิทของสิงห์มีไม่มากนัก เป็นเพื่อนตั้งแต่เรียนมหาลัย และร่วมหุ้นเปิดธุรกิจด้วยกัน ที่มาวันนี้ก็คือ ชิณ เซน แล้วก็แจน สไตล์ของเพื่อนแต่ละคนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ชิณเป็นหนุ่มอารมณ์ดี นักสังคม ควงสาวไม่ซ้ำหน้า อ้างว่ายังหารักแท้ไม่เจอ ส่วนเซนเป็นคนฉลาด พูดน้อยต่อยหนักอารมณ์ร้อน เป็นแฟนกับแจน ทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว และแจนก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับสิงห์ตั้งแต่เรียน คบกันเซนมาตั้งแต่มหาลัยปีหนึ่ง

ทุกคนเข้ามาในบ้านเจอแม่สิงห์ก็ยกมือสวัสดีทักทาย

“มากันแล้วเหรอ มาๆ ลูก นั่งก่อนตามสบายนะ ทำตัวให้เหมือนบ้านตัวเองนะ”

“ครับคุณแม่” ชิณเอ่ยตอบส่งยิ้มกว้าง

ชิณเดินไปเปิดโทรทัศน์ นั่งดื่มน้ำที่โซฟาท่าทางสบายใจ

“ชิณ มึงก็สบายเกินไปครับ” เซนเอ่ย

“เอ้า...ก็คุณแม่บอกทำตัวให้เหมือนอยู่บ้าน มึงจะเกร็งทำไม คนกันเองทั้งนั้น”

“มึงทำไปคนเดียวเถอะ มึงมันไม่มีมารยาทอยู่แล้ว”

แจนยกมือตีแขนเซน “เซนก็ไปว่าชิณมัน”

“มันเรื่องจริง”

ชิณนั่งดูโทรทัศน์อย่างสบายใจ สายตาเหลือบไปเห็นคนที่เพิ่งเปิดประตูรั้วเดินเข้ามา เขาชะงักค้างมองตาไม่กะพริบ รีบจัดท่านั่งให้ดูดี ทิ้งคราบหนุ่มไร้มารยาทไปเสียแล้ว

ทุกคนมองคนที่เข้ามาใหม่เป็นตาเดียว

เกวลินเดินเปิดประตูเข้ามา เธอกลับไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ชุดที่เธอใส่มาเป็นเพียงเสื้อไหมพรมโอเวอร์ไซซ์กับกางเกงขาสั้นเท่านั้น เธอกวาดสายตามองเพื่อนของสิงห์ ใบหน้าประดับยิ้มอ่อนๆ

“สวัสดีค่ะ”

สิงห์นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่เงยหน้ามองไปตามเสียงเล็ก แต่ยังคงนิ่งไม่ได้เอ่ยอะไร

“หนูเกลมาพอดีเลย กับข้าววันนี้ได้หนูเกลมาช่วย ถ้าอร่อยต้องชมน้องกันเยอะๆ นะ” แม่สิงห์เอ่ย

ชิณเด้งตัวลุกขึ้นเดินมานั่งที่โต๊ะรับแขก

“ต้องอร่อยอยู่แล้วครับ หิวแล้ว...มีอะไรกินบ้างครับคุณแม่”

“เก็บงูบนหัวหน่อยเพื่อน” เซนเอ่ยแซวชิณ มองก็รู้ว่าชิณสนใจสาวน้อยที่เพิ่งมา

เกวลินเอ่ยทักทายทุกคนเป็นมารยาทก็เดินไปหาแม่ของสิงห์ช่วยยกอาหารมาขึ้นโต๊ะ เพื่อนของสิงห์เธอไม่เคยเจอมาก่อนจึงรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง

ชิณโน้มตัวไปกระซิบสิงห์ที่นั่งอยู่ข้างๆ

“มึงไม่มีน้องสาวไม่ใช่ไง น้องเขาเป็นใครวะ?โคตรน่ารักเลย”

สิงห์ชะงักมือที่กำลังเลื่อนดูโทรศัพท์ “เด็กข้างบ้าน”

ชิณมองเกวลินไม่วางตา เธอทำอะไรเขาก็มองว่าน่ารักไปซะหมด

“น้ำลายไหลแล้วไอ้ชิณ” เซนรู้ว่าเพื่อนสนิทคิดอะไร อดที่จะเอ่ยแซวไม่ได้

ชิณไม่สนใจ เขาสนใจสาวสวยที่นั่งตรงข้ามมากกว่า เกวลินนั่งอยู่ข้างสิงห์ แต่นั่งตรงข้ามกับชิณ เธอสังเกตได้ตั้งแต่เดินเข้ามา ว่าชิณมองเธอตลอด รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“คุณแม่ไม่มาทานกับเราเหรอสิงห์” แจนเอ่ยถามด้วยความเกรงใจ

“คุณแม่ทานข้าวเย็นก่อนหกโมงเย็น ท่านทานก่อนแล้ว ไม่ต้องเกรงใจ...กินเลย” สิงห์วางโทรศัพท์ลง ตั้งท่าจะลงมือกินอาหาร

ชิณยังคงนั่งมองคนตัวเล็กใบหน้าประดับยิ้มอย่างโจ่งแจ้ง

“ไอ้ชิณ น้องเขาเขินจนไม่กล้ากินข้าวแล้ว มึงมองอะไรขนาดนั้น”

เซนเอ่ย กลัวสาวน้อยจะอึดอัด

“ชื่อเกลเหรอครับ ชื่อน่ารักจัง” ชิณยิ้มกริ่ม

เกวลินยิ้มเจื่อนในใจเธอไม่ค่อยชอบเพื่อนของสิงห์คนนี้ แต่ก็พยายามจะเก็บอาการ ไม่อยากเสียมารยาท

“มึงจะกินไหม?” สิงห์เอ่ยถามชิณเสียงขรึม

“เอ้า...ดุกูเฉย”

เพื่อนของสิงห์นั่งดื่มไป พลางคุยเรื่องงานไป เกวลินไม่เข้าใจเรื่องที่พวกเขาพูดกัน เธอจึงแอบมาช่วยแม่ของสิงห์เก็บของ พอเสร็จก็แอบมาหลบมุมนั่งเล่นกับแมวอยู่ตรงโซฟา

ชิณไม่วายที่จะเดินมามุมที่เกวลินนั่งเล่นอยู่

“ชอบแมวเหรอครับ?”

คนตัวเล็กส่งยิ้มบางให้ไม่ได้ตอบอะไร

“ไปดื่มด้วยกันสิ มานั่งหลบอะไรตรงนี้” ชิณเอ่ยชวนให้เกวลินไปนั่งดื่มด้วยกันทางด้านนู้น

คนตัวเล็กปรายตาไปมองสิงห์ แต่เขากับไม่สนใจเธอเลย ‘ไม่เห็นเป็นห่วงกันสักนิด เพื่อนพี่จะกินหนูอยู่แล้ว’ เธอตัดพ้อเขาในใจ ด้วยความน้อยใจจึงเดินตามชิณไปนั่งที่โต๊ะรับแขก

ชิณจัดแจงรินไวน์ใส่แก้ว เดินมายื่นให้เธอ

คนตัวเล็กมองจ้องแก้วที่ชิณยื่นให้ไม่กล้ารับ “หนูดื่มได้เหรอคะ?”

พูดพลางหันไปหาสิงห์ แต่สิงห์ก็ไม่สนใจเธอ ในเมื่อเขาไม่สนใจ เธอก็จะไม่เกรงใจแล้ว ยกมือรับแก้วที่ชิณยื่นให้มาถือไว้ พลางยกแก้วจิบ นี่เป็นการดื่มแอลกอฮอล์ครั้งแรกของเธอ พอได้ชิมรสชาติก็ไม่ได้แย่ เผลอแป๊บเดียวเธอก็ดื่มจนหมดแก้ว

“เกลค่อยๆ จิบ เดี๋ยวเมานะ” แจนเอ่ยเตือน  มองก็รู้ว่าเกวลินน่าจะเพิ่งเคยดื่มครั้งแรก

แต่ดูเหมือนดื่มไปแก้วเดียว ก็ทำให้เกวลินหน้าแดง นั่งเท้าคางยิ้มได้แล้ว

“ชิณน้องเมาแล้ว เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง” แจนหันไปดุเพื่อน

“เออ ยังเด็กอยู่เลย มึงก็ยังให้ลอง” เซนเอ่ยเสริม

“เอ้า...กูผิดเฉย น้องเขาน่ารักนิ่ ใครจะรู้ว่าเพิ่งเคยดื่มว่ะ”

สิงห์นั่งเงียบ ยกแก้วไวน์จิบเป็นระยะ มีคุยเรื่องงานบ้าง แต่เขาไม่สนใจเด็กสาวที่นั่งเท้าคางยิ้มใบหน้าแดงระเรื่อที่นั่งอยู่ข้างๆ แม้แต่น้อย

ชิณเห็นคนตัวเล็กฟุบไปกับโต๊ะ จึงเดินอ้อมมานั่งข้างๆ

“สิงห์น้องเกลอายุเท่าไรวะ โคตรน่ารักเลย ถ้ากูจะจีบน้อง มึงว่าไง”

สิงห์เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสนิทนิ่งไม่ได้ตอบอะไร แต่ครั้งนี้ยกแก้วไวน์กระดกทีเดียวจนหมดแก้ว

คนตัวเล็กฟุบลงบนแขนตัวเอง หลับตาพริ้มริมฝีปากยังคงประดับยิ้มหวานอยู่

ชิณขยับเข้าไปใกล้ ทนกับความน่ารักของคนตัวเล็กไม่ไหว ยกมือจะไปจับแก้มใส มือยังไม่ทันได้แตะลงบนแก้ม เสียงแก้วกระทบโต๊ะดังจนทุกคนชะงักการกระทำ

“ดื่มเยอะไปหน่อยว่ะ เมาแล้วอยากนอน”

“เออ...ดึกแล้ว วันนี้พอหอมปากหอมคอกลับกันเถอะ พรุ่งนี้มีคุยงานกับลูกค้าอีก” เซนสังเกตว่าสิงห์เริ่มอารมณ์ไม่ดี

“อะไรว่ะ รีบกันไง” ชิณไม่อยากกลับ เขารู้สึกถูกชะตากับเกวลินอย่างบอกไม่ถูกตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น

“กูจะนอนแล้ว มึงจะอยู่ก็อยู่ไปคนเดียว” สิงห์เอ่ยเสียงแข็ง

เพื่อนทุกคนจับอาการได้ว่าตอนนี้ เขากำลังหงุดหงิด ถ้าไม่กลับคงได้วงแตกจึงยอมกลับแต่โดยดี

คนตัวเล็กเมาหลับไปแล้ว สิงห์ยืนมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ เขย่าตัวปลุกให้เธอตื่น

“เกล!! กลับบ้าน”

“อื้ออ... ไม่กลับ มึนหัว”

“เกล...”

สิงห์เสียงเข้มขึ้นอีกหนึ่งระดับ เหมือนโสตประสาทของเธอจะตื่นตัวเมื่อได้ยิน ตาของคนตัวเล็กค่อยๆ ลืมขึ้น

“กลับไปหมดแล้วเหรอคะ?” เธอหรี่ตามองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่แล้ว

“อืม...เธอก็ควรจะกลับได้แล้ว”

“ดุอีกแล้ว”

คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ย สายตายังคงมองไปที่สิงห์

“ลุกขึ้น..กลับบ้านได้แล้ว รู้ว่าไม่เคยแล้วยังจะลอง ลุกขึ้น”

สิงห์ยกมือดึงคอเสื้อด้านหลังให้คนตัวเล็กลุกขึ้น

“พี่สิงห์...เจ็บนะ”

“ก็ทำให้เจ็บ”

เกวลินยกมือจับแขนของสิงห์เขย่าเบาๆ ทำหน้าอ้อน “เกลมึนหัว เดินไม่ไหว”

สิงห์มองหน้าคนตัวเล็กถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ “นอนตรงนี้ไหม?”

คนตัวเล็กส่ายหัวไปมา “ไม่เอา”

“แล้ว?”

“ขี่หลังได้ไหม?” เธอทำหน้าตาน่าสงสาร มือยังคงจับแขนสิงห์อยู่

สิงห์ยอมให้คนตัวเล็กขี่หลังแต่โดยดี เธอยกแขนคล่องคอเขาไว้ พลางเอาคางเกยไหล่หลับตาพริ้ม เกวลินไม่เคยดื่มจึงรู้สึกมึนหัวมาก

“ดีจังที่มีพี่อยู่” เกวลินกระชับแขนแน่นขึ้นยังคงหลับตาอยู่ ความรู้สึกของเธอตอนนี้มันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

“อยากลองไม่เข้าเรื่อง” สิงห์เอ่ยบ่นคนตัวเล็ก พาเธอเดินมาส่งถึงหน้าบ้าน

“เกลเดินขึ้นไปไหวไหม...ถึงบ้านแล้ว”

“อื้ม...” คนตัวเล็กค่อยๆ ลืมตาขึ้น “ไหวค่ะ”

สิงห์ย่อตัวปล่อยเธอลงให้ตั้งตัวยืน “ขึ้นนอนได้แล้ว...ดึกแล้ว”

คนตัวเล็กพยักหน้าถี่ๆ รับคำสั่ง ทั้งที่เธอยังคงงัวเงียไม่หาย

สิงห์ช่วยเกวลินล็อกประตูรั้วเสร็จเขาก็เดินกลับบ้าน

คนตัวเล็กแอบมองสิงห์จนเขาเดินไปถึงบ้าน “พี่สิงห์ตัวหอมจัง” เธออมยิ้มนึกถึงตอนที่อยู่บนหลังเขาเมื่อครู่

บทก่อนหน้า
บทถัดไป