บทที่ 5 เลิกชอบไม่ได้
วันนี้สิงห์อยู่ประชุมกับทีมในบริษัทจนดึก ขับรถกลับมาถึงบ้านเห็นคนตัวเล็กนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ที่หน้าประตูรั้ว เขารีบปิดไฟหน้ารถเดินลงไปหาเธอทันที
“เกล!!”
เกวลินเงยใบหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นมามองสิงห์ก่อนจะลุกขึ้นโผเข้าไปกอดเขาแน่น
“เป็นอะไร...เขากลับมาเหรอ?”
คนตัวเล็กพยักหน้าสะอื้นไห้
“ไหนให้พี่ดูหน่อย หน้าไปโดนอะไรมา”
สิงห์ค่อยๆ ผละร่างของคนตัวเล็กออก จับไหล่ทั้งสองข้าง โน้มตัวมาดูแก้มข้างขวาของเธอ ที่แดงเป็นรอยมือ มุมปากมีรอยเลือด
“เขาตบเธอทำไม?” สิงห์ถามเสียงเข้ม
“เขาจะทำแม่ แต่หนูเอาตัวไปบังเลยโดนเขาตบ ฮึก..” เธอตอบน้ำเสียงสั่นเครือ
สิงห์ยกมือเช็ดน้ำตาที่แก้มให้คนตัวเล็ก
“เข้าบ้านเถอะ”
“หนูเกรงใจ”
สิงห์มองเกวลินนิ่งผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย “แล้วมีที่ไปเหรอ?”
คนตัวเล็กส่ายหัวสะอึกสะอื้น เธอไม่มีที่ให้ไปจริงๆ อย่างที่สิงห์เอ่ย
เขาพาเธอเข้ามาในบ้าน ตอนนี้ดึกมากแล้ว แม่ของสิงห์ขึ้นไปนอนพักนานแล้ว ชายหนุ่มเดินหายไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับกล่องอุปกรณ์ทำแผล
“ทำแผลก่อน” สิงห์ยื่นกล่องอุปกรณ์ทำแผลมาให้เธอ
คนตัวเล็กมองกล่องนิ่งไม่ยอมรับ เงยหน้ามองสิงห์ทำหน้าตาน่าสงสาร
สิงห์ถอนหายใจ เอากล่องยาที่มือตั้งที่โต๊ะ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เธอ เปิดกล่องทำแผลออก ปลดกระดุมถกแขนเสื้อทั้งสองข้างขึ้น หยิบก้านสำลีจุ่มน้ำเกลือ
“ขยับมาหน่อย ไม่ถนัด”
เกวลินตั้งท่ารอนานแล้ว เธอหลับตากำมือสองข้างแน่นกลัวแสบ พอได้ยินที่สิงห์บอกให้ขยับไปใกล้ จึงลืมตาขึ้นขยับไปตามคำสั่ง
ครั้งนี้คนตัวเล็กไม่ได้หลับตา สายตามองไปที่สิงห์ ที่ค่อยๆ เอาก้านสำลีเช็ดแผลให้เธอ ใบหน้าของสิงห์อยู่ใกล้หน้าของเธอมาก กลิ่นหอมจากตัวเขาบวกกับใบหน้าหล่อเหลา ทำให้เธอลืมความเจ็บไปจนหมด
สิงห์ขมวดคิ้วหลุบตามามองคนตัวเล็ก “มองอะไร?”
“เปล่าค่ะ”
“รอแป๊บ”
เขาเดินหายเข้าไปในครัว ก่อนจะถือแผ่นประคบเย็นออกมายื่นให้เธอ
“ประคบสิ พรุ่งนี้ต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ” เธอพยักหน้าเอ่ยขอบคุณเสียงเบา "ขอบคุณค่ะ"
เกวลินรับแผ่นประคบจากมือของสิงห์มาทาบลงที่ใบหน้า สายตายังไม่ละจากใบหน้าของชายหนุ่ม ในหัวคิดว่าเป็นเขาอีกแล้ว เวลาเธอเจอปัญหาจะมีเขาอยู่เสมอ ที่จริงแล้วเธอชินกับการมีเขาอยู่ในชีวิตไปเสียแล้ว เธอตกหลุมรักเขาครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ตกหลุมรักคนเดิมๆ ซ้ำๆ มันเป็นแบบนี้นี่เอง
“พี่สิงห์จะไปไหน?”
สิงห์ชะงักเท้าหันกลับมามองคนตัวเล็ก “อาบน้ำ..ทำไม?”
“หนูไม่อยากอยู่คนเดียว”
ร่างสูงคิ้วขมวดมองมาที่คนตัวเล็ก “ทำตัวเป็นเด็ก” พูดจบก็เดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ
ณ มหาวิทยาลัย B
“เกล!! วันนี้สอบเสร็จแล้วไปฉลองกัน”
“ที่ไหน?”
เกวลินหันไปถามเพื่อนสนิทที่ตอนนี้เดินตีคู่มากับเธอ
“ผับพี่ชายฉัน”
“ไม่ไป”
เกวลินเอ่ยปฏิเสธแบบไม่คิด เธอไม่เคยไปสถานที่แบบนั้นมาก่อนแล้วก็ไม่เคยคิดจะไปด้วย
“อะไรกัน แบบนี้ไงพี่สิงห์ของแก เขาถึงชอบบอกว่าแกเป็นเด็กอยู่ตลอด อายุยี่สิบกว่าแล้วค่ะแม่คุณ ออกไปเจอโลกบ้าง พี่สิงห์เขาอายุห่างกว่าแกกี่ปี แบบนี้จะตามเขาทันได้ยังไง”
เกวลินฟังที่เพื่อนสนิทพูดก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า 'เพราะเธอเป็นแบบนี้ พี่สิงห์เขาเลยคิดว่าเธอเป็นเด็กอยู่ตลอดเหรอ'
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว ไปก็ไปสิ”
เธอเบื่อคำว่าเด็กเต็มทน จึงเปลี่ยนใจตกลงไปฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนสนิท
เกวลินโทรบอกแม่ว่าคืนนี้จะนอนกับจีน่า แม่ของเธอก็อนุญาตแล้ว สองคนพากันกลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่คอนโดของจีน่า เพื่อรอเวลาไปฉลอง หน้าที่การเลือกชุดเป็นของจีน่า เนื่องจากเป็นสาวสวยเปรี้ยวมั่นใจในตัวเอง จีน่าไปสถานบันเทิงบ่อยเพราะพี่ชายของเธอทำธุรกิจนี้ ถือว่าเป็นผู้หญิงที่เอาตัวรอดเก่งทีเดียว
“เกลใส่ชุดนี้นะ...สวย”
จีน่าชูชุดเดรสเกาะอกสีดำขึ้นมาให้เกลดู
“มันโป๊ไปหรือเปล่า”
“โอ๊ยยสาว...ไปผับนะจ๊ะ ไม่ได้ไปปฏิบัติธรรม”
“แล้วแกใส่ชุดไหน” เกวลินเอ่ยถามเพื่อนสนิท
“ชุดนี้” จีน่าโชว์ชุดเดรสสีดำเหมือนกัน แต่ดูวาบหวิวกว่าชุดเมื่อครู่หลายส่วน เกวลินเห็นชุดของเพื่อนก็อดกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้
“เชื่อฉัน...ฉันไม่ปล่อยให้แกโดนผู้ชายลากไปกินหรอก กลัวอะไร ฉันใครคะ เจ้าแม่แห่งวงการนี้นะ”
เกวลินส่ายหัวไปมา “ฉันหลงมาคบกับแกได้ยังไงนะ”
“นั่นสิ” จีน่ายิ้มขำ ทั้งคู่มองหน้ากันก็หลุดหัวเราะออกมา ทั้งที่สไตล์ของทั้งคู่ไม่ใช่แนวเดียวกันเลย แต่กับสนิทกันมาก
ได้เวลาแล้ว จีน่าช่วยเกลแต่งตัวแต่งหน้าจนเสร็จ ชุดที่เกลใส่เป็นเดรสสั้นเกาะอกสีดำเปิดไหล่ เน้นสัดส่วนโชว์เรียวขาขาวเข้ารูป คนตัวเล็กปล่อยผมม้วนลอนสลวย แต่งหน้าเข้มโทนน้ำตาล
จีน่าจุ๊ปากจับเกวลินหมุนตัว “เพื่อนฉันเป็นสาวขนาดนี้ ใครว่าเป็นเด็กน้อยฉันจะเดินไปตบปาก”
เกวลินเดินไปมองตัวเองในกระจก “แต่งหน้าเข้มไปหรือเปล่า กระโปรงไม่สั้นไปใช่ไหม?”
“สวยแล้ว” จีน่าเอ่ยชม แววตาภูมิใจในความสวยของเพื่อน
วันนี้เกวลินสวยมากจริงๆ ปกติเธอแทบจะไม่แต่งหน้าเลย พอได้ลงแปรงจับแต่งตัว จีน่าเป็นผู้หญิงด้วยกันยังชอบหุ่นและใบหน้าของเพื่อนสนิทจนชมไม่หยุดปาก
ทั้งคู่เดินลงมาที่ลานจอดรถ วันนี้จีน่าขับรถไปเอง บ้านของจีน่าค่อนข้างมีฐานะ พ่อและแม่ทำงานด้านอสังหาอยู่ที่ต่างประเทศ แต่เธอและพี่ชายเลือกเรียนที่ไทย พอมาถึงผับจีน่าก็ขับรถขึ้นไปจอดที่ลานจอดวีไอพี พาเกวลินเดินเข้าทางด้านหลังมาที่โซนวีไอพีที่ให้พี่ชายเตรียมไว้ให้
บรรยากาศด้านในผับเสียงดังมาก เกวลินมาครั้งแรกเดินจับหน้าอกข้างซ้ายมาตลอดทาง เสียงเบสทำให้หัวใจเธอเหมือนจะหลุดออกมาอยู่ด้านนอก
“นั่งเลย ดูทำท่าเข้าเดี๋ยวก็ชิน” จีน่าพูดเสียงดังคุยกับเกวลิน
“อืม”
เกวลินนั่งลงมองไปด้านล่างเห็นหนุ่มสาว เต้นกันอย่างเมามัน บางคู่นัวเนียกันดูดดื่ม จนเธอต้องหลบสายตาใบหน้าร้อนผ่าว
“ดื่มอะไร” จีน่าโน้มกระซิบถามเพื่อนสนิท
“ฉันเอาน้ำส้ม”
“มาถึงที่นี่มาดื่มน้ำส้ม บ้าหรือไง” จีน่าหันไปบ่นเพื่อน ก่อนจะจัดการสั่งเครื่องดื่มให้เอง
ไม่นานเครื่องดื่มก็มาเสิร์ฟ จีน่าสั่งเป็นค็อกเทล เธอคิดว่ายังไงเกลต้องดื่มได้แน่ เพราะรสชาติอร่อยกว่าเหล้าอื่นที่เธอเคยดื่ม
“ลองสิ”
“ฉันเคยดื่มไวน์แล้วเมา”
“ไม่ต้องห่วง เมาฉันแบกเธอกลับเอง”
ทั้งคู่นั่งดื่มฟังเพลงกันพักหนึ่ง จีน่าก็ชวนเกลลงไปสนุกด้านล่าง
ตอนนี้คนตัวเล็กหน้าแดงเล็กน้อย เธอดื่มไปสองแก้วเริ่มมึนแล้ว จึงไม่ได้สั่งเพิ่ม เมื่อจีน่าชวนเธอก็ทำใจกล้า ลงไปกับเพื่อน ทั้งคู่กอดคอกันเต้นอย่างสนุกสนาน จีน่าไม่ทิ้งเกลเหมือนที่ตัวเองพูด แค่อยากให้เพื่อนได้ลองใช้ชีวิตดูบ้าง ไม่อยากให้ยึดติดกับคนแค่คนเดียวอย่างพี่สิงห์ของเธอ
“ไอ้สิงห์ นั่นน้องเกลหรือเปล่าวะ?” ชิณสะกิดสิงห์ที่นั่งดื่มอยู่ชั้นบนห้องวีไอพี
“เธอจะมาทำอะไรที่นี่ ป่านนี้นอนหลับไปแล้วมั้ง” สิงห์เอ่ยขึ้นไม่ได้หันไปตามที่ชิณบอก เขายกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากปล่อยอารมณ์
“มึงดูดิ่ กูจำเพื่อนน้องเกลได้ วันนี้แต่งตัวโคตรสวยเด็กข้างบ้านมึงอ่ะ”
สิงห์อดไม่ได้ เขาทอดสายตาไปมองด้านล่าง ค่อยๆ หรี่ตาลง เป็นเกวลินอย่างที่ชิณบอกจริงๆ ตอนนี้เธอกับเพื่อนดูสนุกกันมาก สิงห์ขมวดคิ้วใบหน้ายังคงเรียบขรึม
เพื่อนในกลุ่มของสิงห์เริ่มอยากเห็นเด็กข้างบ้านที่ชิณชอบพูดถึง สายตาหลายคู่จ้องมองไปที่ผู้หญิงสองคนที่เต้นกันอยู่ด้านล่าง
“คนไหนวะ?สวยทั้งคู่เลย งานดีว่ะ”
“อย่ามายุ่งกับน้องเกลของกูนะมึง” ชิณเอ่ยแสดงออกว่าจองแล้ว
สิงห์ทอดมองอยู่เงียบๆ หูได้ยินกลุ่มเพื่อนคุยกันเรื่องผู้หญิงสองคนที่เต้นกันอยู่ด้านล่าง
“เหมือนน้องจะเมานะเว้ยไอ้สิงห์ กูไปดูหน่อยดีกว่า” ชิณทำท่าจะลุกไปดู
“ปล่อยไปเถอะ อยากจะมาเอง ก็ต้องดูแลตัวเอง”
สิงห์นั่งดื่มต่อ แต่ดูเหมือนเขาจะกระดกเหล้าถี่ขึ้น มองไปด้านล่างเป็นระยะ เกวลินกับจีน่า เดินกลับไปพักที่โต๊ะแล้ว ทั้งคู่เหงื่อท่วมตัวเพราะเต้นปลดปล่อยกันสุดเหวี่ยง
“เป็นไง...มาเปิดโลกแล้วสนุกไหม?”
“อืม..ก็ดี แต่เหนื่อยมาก ปวดฉี่ฉันไปเข้าห้องน้ำนะ”
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม?”
“ไม่ต้อง...ห้องน้ำอยู่ตรงนี้เอง แป๊บเดียว”
เกวลินลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ เธอยังมึนอยู่เล็กน้อย รู้สึกตัวลอยๆ เวลาเดิน ทำธุระส่วนตัวเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำ สายตาไปสะดุดที่ชิณเพื่อนของสิงห์ที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ หัวคิ้วกระตุกเล็กน้อย หันซ้าย หันขวามองหาสิงห์แต่ก็ไม่เห็น
“พี่ชิณ”
ชิณอยู่ในอาการมึนเมา เขายิ้มให้เธอ ทำทีจะเดินเข้ามาหา เกวลินเดินถอยหนี เธอเริ่มกลัวท่าทางแบบนี้ของชิณ ถอยได้สองก้าวก็ติดกำแพงอีกฝั่ง ชิณยกมือมาจับแขนของคนตัวเล็กไว้
“น้องเกล วันนี้สวยจัง พี่..”
พรึบ!!... ยังไม่ทันได้เอ่ยจบ ร่างเล็กก็ถูกดึงอย่างแรงจนหลุดจากมือหนาของชิณไปเสียแล้ว
“มึงจะทำอะไร!!” สิงห์เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าชิณ แววตาเอาเรื่อง ก่อนจะดึงคนตัวเล็กมาไว้ด้านหลัง ยกแขนถอดแจ็กเกตที่ตัวเองใส่อยู่ไปคลุมไหล่ให้คนตัวเล็ก มองหญิงสาวตรงหน้าแววตาดุตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“กูแค่เป็นห่วงน้อง”
“มึงเมามากล่ะ กลับเถอะ”
คนตัวเล็กยืนก้มหน้าน้ำตาคลอ มือของเธอยังถูกมือหนาของสิงห์กำไว้แน่น
“กูชอบน้อง กูแค่จะบอกน้องว่ากูอยากจีบ”
“เกลยังเด็กไม่ทันมึงหรอก มึงจะยุ่งกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ แต่ต้องไมใช่เกล” สีหน้าและน้ำเสียงของสิงห์ตอนนี้จะฆ่าคนตรงหน้าได้อยู่แล้ว
พูดจบสิงห์ก็จูงมือคนตัวเล็กเดินออกมาทันที เกวลินตามเขาออกมาไม่กล้าพูดอะไร เธอเซตามแรงของสิงห์ที่ก้าวเท้าไวเหมือนกำลังโมโห เขาจับเธอยัดขึ้นรถ ขับออกไปทันที ระหว่างขับรถสิงห์ไม่พูดอะไรเลยสักคำ พอมาถึงหน้าบ้านเขาจอดรถยกมือกดปิดไฟหน้ารถหันไปหาคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าน้ำตาซึมอยู่เบาะข้าง
“เธอควรไปที่แบบนั้นเหรอ?” สิงห์เอ่ยถามน้ำเสียงเย็น
เกวลินเงยหน้าขึ้นมองสิงห์สีหน้าของเธอตอนนี้ไม่ดีนัก
“เกลขอโทษ”
“ถ้าพี่ไม่อยู่ที่นั่น วันนี้จะเกิดอะไรขึ้น” สิงห์เสียงเข้มขึ้นจนคนตัวเล็กน้ำตาคลอ ก้มหน้าไม่กล้าสู้หน้าเขาอีก
“เกลโตแล้ว” เกวลินทำใจกล้า ทว่าเอ่ยออกมาไม่เต็มเสียงนัก
สิงห์แสยะยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของคนตัวเล็ก “อืม...เธอโตแล้ว ดูแลตัวเองได้แล้ว ครั้งหน้าพี่จะไม่ยุ่งอีก โอเคไหม!?”
เมื่อได้ยินที่สิงห์พูดแบบนี้เธอเสียใจมาก เงยหน้าขึ้นมามองเขา “เมื่อไรในสายตาพี่ เกลถึงจะโตสักที เกลอยากโตเหมือนพี่สิงห์จริงๆ อยากโตให้ทันพี่ บางทีพี่จะได้มองเห็นเด็กข้างบ้านอย่างเกลบ้าง”
คิ้วหนาขมวดขึ้น สิงห์มองหน้าคนตัวเล็กนิ่งค้าง
“เธอเมาแล้วพูดเพ้อเจ้อ เข้าบ้านไปพักได้แล้ว” น้ำเสียงของสิงห์เย็นชาเหมือนเคย
“เกลไม่ได้เมา” เกวลินรวบรวมความกล้า จ้องหน้าสิงห์แววตาจริงจัง
สิงห์มองหน้าของเกวลินนิ่ง เขาเพียงผ่อนลมหายใจปรับอารมณ์ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
“เกลชอบพี่... พี่สิงห์ได้ยินไหม ว่าเกลชอบพี่!! ชอบมานานแล้ว ฮึก” คนตัวเล็กพูดจบเม้มปากแน่น น้ำตาร่วงเผาะ เธอยกมือปาดน้ำตาไม่อยากร้องไห้แต่ห้ามตัวเองไม่ได้
“เธอยังเด็ก แยกแยะไม่ได้หรอกอะไรคือชอบ ลงไปอาบน้ำพักผ่อน ดึกมากแล้ว”
เกวลินได้ยินคำว่า ‘เด็ก’ ออกจากปากของสิงห์อีกแล้ว เธอรู้สึกอึดอัดในหัวใจทุกครั้งที่ได้ยินเขาพูดคำนี้ อยากจะอ้าปากเถียงเขา แต่ก็ทำไม่ได้ทำเพียงยกมือปิดหน้าร้องไห้สะอื้นเสียงดังออกมาเพื่อระบายความอึดอัดในใจ ก่อนเสียงสะอื้นจะค่อยๆ เงียบลง
“พี่เลิกมองว่าเกลเป็นเด็กสักทีได้ไหม เกลอายุยี่สิบสองแล้วนะ” เธอแผดเสียงถามเขา
ก่อนจะกระชากคอเสื้อของสิงห์เข้ามาประกบปากจูบ เขาไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกัน สิงห์เบิกตากว้างตกใจกับการกระทำของคนตัวเล็ก ก่อนที่เขาจะได้สติผละริมฝีปากออก
คนตัวเล็กยกมือเช็ดน้ำตา “เกลเลิกชอบพี่ไม่ได้หรอก ถ้าเลิกได้คงเลิกชอบไปนานแล้ว” พูดจบคนตัวเล็กก็เปิดประตูก้าวลงจากรถเดินเข้าบ้านไป ปล่อยให้สิงห์นั่งนิ่งอยู่ในรถคนเดียว...










































































