บทที่ 2 นางฟ้าปีกหัก
“พี่ยกให้นายเอง แลกกันกับอู่รถของอาหรั่ง” เควินยื่นข้อเสนอ
“ไม่ต้องไปถามมันให้เมื่อยปาก อาหรั่งยกให้เอ็งทุกอู่ ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น”
หรั่งยังโผงผางแบบหนุ่มลูกทุ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนสไตล์ ตั้งแต่เป็นหนุ่มเล็กจนกลายเป็นหนุ่มใหญ่ตอนปลาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีพุทธศักราชเขาก็ยังคงความคลาสสิคไว้อย่างเหนียวแน่น
“หลุยส์จะไม่คิดถึงแม่เลยเหรอลูก”
ชมพู่ ‘พัสตราภรณ์ มัตซึโอกะ’ แม่ของหลุยส์ประท้วงเสียงเครือ
“โธ่แม่... ผมโตแล้ว เรียนจบก็ต้องทำงาน ถ้าแม่เป็นห่วงก็ไปอยู่กับผมที่ญี่ปุ่นสิครับ”
คำพูดของลูกชายคนเดียวทำให้ชมพู่ยิ้มหน้าบาน เลิกแกล้งร้องไห้ทันที
“เฮ้ยไอ้นี่ เมียกูก็ต้องอยู่กับกูสิวะ” หรั่งโหวกเหวกโวยวาย
“ผู้หญิงเขาอยากมากับผม ช่วยไม่ได้นะพ่อ” หลุยส์แบมือ ยักไหล่ให้พ่อของเขาอย่างไม่กลัวบาทาไซส์สี่สิบห้าของคนในจอคอมพิวเตอร์
“เมื่อไหร่จะคุยกันจบ ผมต้องรีบกลับไปดูร้าน มืดค่ำถนนก็เปลี่ยวผมไม่อยากเสียน้ำให้ผู้หญิงแปลกหน้า”
เควินเอานิ้วแหย่หู แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้โยกทำท่าบิดขี้เกียจ เขาสรุปได้แล้วว่าสาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่ใครเป็นลูกใครหรือสมบัติใครเป็นของใคร แค่ผู้ใหญ่อยากหาเรื่องคุยกับลูกหลานก็เท่านั้น
ชายหนุ่มเหลียวมองไปรอบ ๆ อาณาจักรของน้องชายที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราและจัดวางไว้อย่างมีระเบียบใช้งานง่าย พลันสายตาสะดุดเข้ากับรูปถ่ายของเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มแก้มยุ้ยคนหนึ่งที่ไม่ใช่คนในครอบครัวหรือญาติสนิทมิตรสหายของครอบครัวใจสะอาดที่เขารู้จัก เธอเป็นใครนะ?
“จะว่าไปแล้ว นายกับพี่ก็เกิดสลับที่จริง ๆ นั่นแหละ” เควินพึมพำ
หลุยส์กดวางสายสนทนาเขาหันมามองพี่ชาย ด้วยสีหน้าแปลกใจ “ทำไมพี่พูดแบบนั้น”
“นายเนี๊ยบทุกรูขุมขนเหมือนพ่อพี่เลย ส่วนพี่ก็คลาสสิคเหมือนอาหรั่ง” เควินผายมือไปรอบๆ ให้น้องชายมองตามสิ่งที่เขากำลังอธิบาย
หลุยส์เหลือบมองความเป็นตัวเองแล้วพยักหน้าเข้าใจ “อาจเป็นไปได้ว่าพ่อเราเข้าห้องผิด”
เควินหัวเราะในลำคอ เขาหยิบเสื้อแจ็คเก็ตที่พาดบนเบาะพิงหลังของเก้าโยกขึ้นมาสวมเตรียมตัวจะกลับไปดูร้านอย่างที่บอก
“เคลียร์กับสาว ๆ ของนายให้ครบทุกคนก่อนวันเดินทางว่าใครทำงานอยู่ร้าน เพราะเมื่อคืนที่เราไปเที่ยวบาร์มีไอ้กร๊วกที่ไหนไม่รู้มากล่าวหาว่าพี่อึ๊บแฟนมัน”
หลุยส์ถอนหายใจเสียงดัง พลางเอาฝ่ามือนวดขมับ “ผมไม่เคยคบใครจริงจังนะพี่”
“มิน่าล่ะ พึ่งมาอยู่เกาะได้แค่เดือนเดียวแต่พี่เกือบโดนต่อยฟรีตั้งสามหน”
“แค่เรื่องแลกหมัดไม่เห็นต้องวอรี่ พี่ชายผมเจ๋งอยู่แล้ว”
“ก็แหง๋ล่ะสิ อดีตแชมป์เหรียญทองวิ่งสี่คูณร้อยเมตรระดับประเทศนี่หว่า”
สองหนุ่มหัวเราะลูกคอกระเพื่อม
“เอ้ออ... แล้วนั่นรูปใคร” เควินชี้ไปที่รูปถ่ายเด็กผู้หญิงที่เขายังรู้สึกสะดุดใจไม่หาย
หลุยส์มองตามสายตาของพี่ชายแล้วยิ้มอ่อนโยนออกมา เมื่อนึกถึงคนในภาพซึ่งเกี่ยวข้องกับความทรงจำแสนสวีทหวานสดใสของเขาเมื่อครั้งสมัยนมพึ่งแตกพาน
“รักแรกของผม นางฟ้าแสนบริสุทธิ์ที่ติดปีกบินหนีผมไปแล้ว”
อะไรบางอย่างดึงดูดให้เควินเดินไปหยิบรูปในกรอบสวยหรูนั้นขึ้นมาดูให้ชัดเจน “ตอนเป็นเด็กยังน่ารักขนาดนี้ โตขึ้นคงสวยน่าเอาเป็นบ้า”
“หายไปตั้งเจ็ดปี แต่งงานมีลูกสองโหลแล้วมั้งป่านนี้”
หลุยส์น้ำเสียงละห้อย
“ถ้านายชอบเธอทำไมไม่ไปตามหาเธอวะ”
คิ้วของเควินขมวดเข้าหันกัน
“เราสองคนหมดเยื่อใยกันแล้ว อีกอย่างนะครับ วีนัสย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสเพราะแม่เธอแต่งงานใหม่ และต่อให้ผมติดปีกบินตามเธอไป เธอก็คงไม่แลผมหรอกพี่”
“รูปหล่อพ่อรวยหน่วยก้านมหึมาแบบนายนี่ผู้หญิงที่ไหนจะไม่เอาวะ”
“เรื่องมันยาว” หลุยส์ถอนหายใจอย่างติดนิสัย
เควินวางกรอบรูปลงบนชั้นวางข้างผนังห้องแล้วหันมาซักไซร้น้องชาย “เล่ามา”
“ตอนเรียนจบม.ต้น เธอเขียนจดหมายรักถึงผม แล้วไอ้บอยกับแฟนมันขโมยจดหมายฉบับนั้นมาอ่านประจานบนเวที”
“เรื่องแค่นี้เอง ก็รู้ว่าใจตรงกันแล้วทำไมไม่แฮปปี้วะ”
“ไม่แค่นี้หรอกพี่ ผมดันปอดแหกและทำท่าปฏิเสธว่าไม่ได้ชอบวีนัสเพราะทุกคนหัวเราะเยาะเธอ เธอเลยร้องไห้แล้ววิ่งหนีกลับบ้านไป หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครเคยเห็นเธออีก จบเห่!”
“จบเห่จริง ๆ เสียใจด้วยนะ”
เควินตบไหล่น้องชายเป็นเชิงปลอบใจ
“ผมลืมเธอไปแล้ว แค่เอารูปมาแต่งห้องเพราะเห็นว่าเธอยิ้มสวยดี”
“จริงสิ? ถ้าพี่เจอว่าเธอยังโสด พี่จีบนะ” เควินนายล้งกระเซ้า
“ลูกชายพ่อหรั่งพูดคำไหนคำนั้นพี่” หลุยส์ยักคิ้ว
“พี่ขอรูปนี้ได้ไหม”
เควินบุ้ยใบ้ไปทางรูปถ่ายที่เขายังตัดใจไม่ลง
“เฮ้ย พี่ชอบกิ๊กเก่าผมหรือครับ” หลุยส์เอามือกุมท้องหัวเราะลั่น
“ไม่รู้สิ คงเพราะพึ่งเคยเห็นคนสวยกว่าแม่ตัวเอง”
“ชอบมากขนาดเอาไปเปรียบเทียบกับป้าโยเลยแฮะ ผมยกให้ทั้งรูปทั้งตัวจริงเลยพี่”
“ขอให้เจอตัวจริงเถอะ พี่จะล่อให้นางฟ้าปีกหัก บินหนีไปไหนไม่รอด”
“โห... สยองแทนวีนัส” หลุยส์มองรูปร่างสูงใหญ่เหมือนนายแบบของญาติผู้พี่ซึ่งมีเชื้อสายญี่ปุ่นอเมริกันแล้วทำท่าขนลุกขนพอง
“ชื่ออะไรนะ”
