บทที่ 3 ซาตานในคราบเทพบุตร
“วีนัส วรรณิศา อุดมสุข”
“จำชื่อสกุลได้แม่นขนาดนี้ ไม่รักเธอแล้วจริง ๆ นะ” ปกติเขาไม่ใช่คนจู้จี้ย้ำคิดย้ำทำ แต่กับเรื่องของเด็ก ๆ เควินถึงขนาดทวนถามน้องชายรอบที่สาม
“ไม่แล้วจริงๆ พี่ ผมถูกผู้หญิงย่ำยีจนหัวใจยับเยินขนาดนี้ คงไม่มีฟีลลิ่งอินเลิฟกับใครอีก แต่ถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบอินเบดรูมอย่างเดียวผมโอเค” หลุยส์ยกมือขึ้นมาทำสัญลักษณ์นิ้วชี้กับนิ้วโป้งชนกัน
“พี่เอานะ”
ชายหนุ่มเดินไปดึงรูปถ่ายออกมาจากกรอบแล้วยัดใส่กระเป๋าด้านในเสื้อแจ็คเก็ต ก่อนจะยกมือขึ้นกลางอากาศให้หลุยส์แทนการบอกลาและหมุนตัวออกไปจากห้อง
“ขับรถดี ๆ พี่ชาย”
เกาะพาราไดซ์คงไม่ใช่สวรรค์สำหรับเธอ เพราะขับรถบนถนนสายเปลี่ยวเสียวผีหลอกซึ่งมีแต่ป่าไม้ล้อมรอบด้านมาได้เพียงไม่กี่กิโลเมตรวีนัสก็ประสบอุบัติเหตุ ส่วนคู่กรณีนั่นเผ่นหนีไปไม่เหลียวหลังกลับมาเพื่อถามไถ่สารทุกข์หรือหยิบยื่นน้ำใจให้ความช่วยเหลือเธอแม้แต่น้อย ซ้ำร้ายเทวดาบนฟ้ายังสาดเทสายฝนกระหน่ำลงมาซ้ำเติมคนดวงจู๋แบบไม่ลืมหูลืมตาและโทรศัพท์ก็ดันไม่มีสัญญาณมันซะอย่างนั้น
เมื่อหมดหนทางจะช่วยตัวเอง หญิงสาวตัดสินใจลงจากรถออกไปตากฝนเพื่อจะขอความช่วยเหลือจากพลเมืองใจดี ซึ่งอาจบังเอิญขับรถผ่านมาแถวนี้และเธอก็ไม่ผิดหวังเมื่อรถโฟร์วีลคันแรกที่วิ่งเข้าโค้งมาชะลอความเร็วลง
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
วีนัสขมวดคิ้วมุ่น เมื่อชายหนุ่มกดปุ่มเลื่อนกระจกฝั่งซ้ายมือของเขาลง ทำไมเธอรู้สึกเหมือนกับว่าเคยเห็นหน้าหล่อ ๆ แบบนี้ที่ไหนมาก่อน
“อย่างที่คุณเห็น... คงไม่มีอะไรให้ต้องช่วยมั้งคะ”
เธอผายมือไปทางรถมินิคูเปอร์เอสที่ซื้อต่อจากปาริฉัตรเพื่อนรักเพื่อนแท้คนเดียวของเธอ ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันตอนเรียนไฮสคูลในปารีสด้วยราคามิตรภาพ
สมน้ำหน้าเขานักที่ถามอะไรโง่ ๆ พรรณนั้นกับเธอ เควินเผลออมยิ้มกับคำตอบยียวนของสาวสวยนิรนามเจ้าของรูปร่างสุดเซ็กซี่ต้นแบบสาวในฝันของชายหนุ่ม
ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจแฮะ - เควินคิด
พลางลอบมองความงามท่ามกลางสายฝนที่ทำให้คนหนุ่มพลังม้าอย่างเขาเกิดความคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อยได้แม้ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน
“จะมองนมฉันอีกนานไหมคุณ”
เธอเท้าสะเอวและถลึงตาใส่เขาด้วยความโมโหหลังจากนับหนึ่งถึงสิบครบถ้วนทุกจำนวนตัวเลขแล้ว ซึ่งคำพูดขวานผ่าซากของเธอในคราวนี้ทำเอาชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งจนลืมเก๊กหล่อ
“นมสวย เอ้ย! ผมคิดว่าเราคงต้องลากรถของคุณขึ้นมาก่อนที่ระดับน้ำคลองจะเพิ่มมากกว่านี้”
ความที่เขาตัดสินใจรวดเร็วราวกับมีประสบการณ์ทำนองนี้มาอย่างโชคโชนทำให้วีนัสนึกสงสัย เธอยกมือขึ้นบังสายฝนเพื่อเพ่งสายตาอ่านสติ๊กเกอร์ที่เห็นลาง ๆ ทางหางตาซึ่งติดอยู่ข้างตัวถังรถยนต์โฟร์วีลรุ่นล่าสุดคันงาม
หญิงสาวอ้าปากหวอตอนถึงบางอ้อ เพราะเข้าใจว่าเธอจุดใต้ตำตอกับศัตรูคู่อาฆาตเข้าจังเบ่อเร่อ !
“‘VJ Garage’ คุณเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์เหรอคะ”
“ไม่ใช่ครับ ผมเป็นแค่ลูกหลานเจ้าของอู่” เควินถ่อมตัว
หน้าหล่อพิมพ์นิยมแบบนี้ แถมพูดภาษาไทยได้ชัดแจ๋ว
ชัดเลยล่ะ! ใช่จริงๆ เขาคือนายหลุยส์ ‘วีระเชษฐ์ ใจสะอาด’ ลูกชายคนเดียวของนายช่างหรั่ง ‘วีระชาติ ใจสะอาด’ เจ้าของอู่ VJ Garage ที่ใช้ตัวย่อตามอักษรตัวแรกของชื่อกับนามสกุลของสองพ่อลูก วีนัสคิดเองเออเองไปตามหลักฐานและรูปพรรณสัญฐานบุคคลที่คลับคล้ายคลับคลาในความทรงจำของเธอ
ทำไมเธอต้องมาเจอเขาในวันวิปโยคด้วยนะ! หญิงสาวกรอกตากับความบังเอิญที่ไม่ปรารถนาให้มันเกิด ทว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเมื่อชายหนุ่มดับเครื่องยนต์และเปิดประตูรถลงมาพร้อมกับนำเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในยามเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินหรือมีรถเสียบนท้องถนน
เขาตั้งป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสงบนไหล่ทางซึ่งห่างจากจุดที่เกิดเหตุสามสิบเมตรเอาไว้เตือนรถคันอื่น ๆ แล้วทำการต่ออุปกรณ์ลากรถเข้ากับรถทั้งสองคันด้วยความคล่องแคล่วอย่างมืออาชีพ
วีนัสมองการเคลื่อนไหวอันทรงพลังดุดันและมีเสน่ห์ของชายหนุ่มด้วยความรู้สึกทึ่ง แทบไม่ต้องพูดถึงเสื้อยืดคอวีสีขาวเนื้อบางที่เขาสวม เมื่อมันเปียกฝนก็ไม่ต่างอะไรกับเขาเปลือยท่อนบนอวดความเซ็กซี่เร้าใจที่หาดูได้เฉพาะในคลับออกกำลังกายของผู้ชายรักสุขภาพ เธอได้แต่หวังว่าเลือดกำเดาจะไม่ทะลักออกมาจากโพรงจมูก
วีนัสแพ้ทางเขาไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน สำหรับเธอแล้ว... ผู้ชายคนนี้เปรียบเสมือนผลไม้ต้องห้ามในสวนเอเดน เขาคือสิ่งมีชีวิตแสนยั่วยวนน่าหม่ำ เขาเป็นบาปแสนหวานที่เธอไม่ควรเผลอไผลหลงระเริงเพราะความปรารถนาชั่ววูบ
“คุณผู้หญิง คุณ! คุณครับ! ”
เสียงตะโกนแข่งสายฝนของเควินทำให้เธอสะดุ้งตื่นจากภวังค์
“คะ! ค่ะ”
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ? ”
รู้อยู่เต็มอกแหละว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่เควินก็ยังฉวยโอกาสสำรวจทรวดทรงองค์เอวน่าประสงค์ร้ายของหญิงสาว เขาแสร้งทำเป็นห่วงเป็นใยเสมือนว่าเธออาจได้รับบาดเจ็บหรือสมองกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ... อกหนอ เอวหนอ สะโพกหนอ ขาขาวหนอ ฯลฯ
