บทที่ 1 พี่ชายข้างบ้าน 1
“ดาวอย่าลืมเอาผ้าไปให้ข้างบ้านนะลูก คุณไฟบอกว่ารีบใช้ แม่ไปข้างนอกก่อน”
“จ้าแม่”
“เก็บตังค์มาด้วย แล้วก็ดึงส่วนของดาวออกไปเลยนะ”
“จ้า”
ดาวเหนือชื่อของฉัน ดาว นังดาว ไอ้ดาว อีดาว ใครจะเรียกแบบไหนก็อยู่ที่ความสนิทสนมของเรา ที่บ้านเปิดร้านซักอบรีด เช่าพื้นที่ ไม่ ๆ เมื่อก่อนเช่า ทว่าเมื่อไม่นานมานี้แม่บอกว่าจะผ่อนที่จากเจ้าของในนามการซื้อขาย ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรยังไง แม่บอกว่าฉันยังเด็กไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้ ฉันก็เลยไม่ได้สนใจ แต่เท่าที่ได้ยินเป็นความต้องการของยายเฮียไฟที่เป็นเจ้าของที่ เฮียไฟจึงตกลงขายที่ตรงนี้ให้แม่ฉันด้วยการผ่อนยาว ๆ
ว่าแล้วก็รีบเอาผ้าไปส่งดีกว่า แม่บอกว่าต้องการใช้ด่วน ๆ
“กลับบ้านไม่บอกเฮีย” เป็นเสียงเจ้าของบ้าน เขาคือเฮียไฟ เจ้าของที่ดินที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ไง เฮียไฟเป็นคนโสดที่หล่อมาก เขาหล่อ เขารวย เขาโสด ผู้หญิงจึงเข้าหาเขาเยอะ
“...” และฉันกำลังน้อยใจเขาอยู่
“เฮียพูดกับดาว”
“ดาวบอกแล้ว” เฮียลืมเอง เฮียไม่เคยใส่ใจดาวอะ ชอบให้ความหวังแล้วปล่อยให้ดาวรอเก้อตลอด
“โทษที เมื่อคืนเฮียไปงานแต่งเพื่อน...”
“เฮียก็เลยลากผู้หญิงมานอนด้วย จนลืมนัดของดาว”
“เฮียเมา” ไม่เมาเฮียก็หามาเอาเหมือนเดิม ไม่เห็นต้องอ้างความเมา เฮียโสดแต่เฮียไม่เคยขาดผู้หญิง
“นี่ผ้าค่ะ แม่บอกให้เอาเงินที่เฮียด้วย” ฉันเดินนำผ้าที่รีดเสร็จแล้วไปแขวนที่ตู้เสื้อผ้า หน้าประตูบ้านมีรองเท้าส้นสูงสีแดงฉูดฉาดของผู้หญิงถอดไว้ ด้วยความหงุดหงิดฉันจึงเตะมันไปคนละทิศละทางซะเลย บ้านนี้มีผู้หญิงก็จริง แต่พี่แคลไม่ใส่ส้นสูงแน่
พี่แคลเป็นทอมจะให้มาใส่ส้นสูงมันเป็นไปไม่ได้ แล้วที่ลำคอของเฮียไฟก็เป็นหลักฐานชิ้นดี เห็นแล้วโมโห
ถึงไม่มีสิทธิ์โมโห แต่ดาวจะโมโห ดาวหึง ดาวหวง
“อื้ม เฮียเอากระเป๋าเงินในห้องแป๊บ” เฮียไฟเดินไปเปิดประตูห้อง ด้วยสายตามองตามเขา ฉันจึงเห็นขาเรียวยาวขาวเนียนของผู้หญิงอยู่บนเตียง เมื่อเฮียไฟเดินกลับมาฉันจึงหันหน้าไปทางอื่น เขาเดินกลับมาหยุดตรงหน้าและถามว่า “หนูมีเงินใช้ไหม”
“มีค่ะ” เดี๋ยวนี้ดาวไม่ง้อเงินเฮียไฟแล้ว ดาวรับจ้างทำรายงานให้เพื่อน ดาวไม่อยากพึ่งพาเฮียไฟอย่างเดียว
“อ่อ ถ้าเงินไม่พอใช้บอกเฮียนะ แล้วกลับวันไหนเฮียขับรถไปส่ง” เฮียไฟยื่นเงินแบงค์พันมา 17 ใบ เป็นค่าซักรีดและค่าทำงานบ้านที่เฮียจ้างแม่ของฉันเป็นรายเดือน จ้างสองหมื่นแต่หักค่าที่ผ่อนจ่ายไปสามพัน
“ดาวมาเองได้ กลับเองได้ค่ะ” ฉันพูดแล้วรีบเดินออกมาจากบ้าน งอน ฉันงอนเขาอยู่ งอนมาก ๆ ด้วย งอนในเรื่องเดิม ๆ หนึ่งปีมี 365 วัน ฉันงอนเขาเรื่องนี้ 300 วัน
ตลกไหมล่ะ งอนเขาแต่เขาไม่รู้ตัว
เฮียไฟ โคมไฟ เขาเป็นพี่ชายข้างบ้าน ฉันเกิดมาก็เห็นเฮียไฟโตแล้ว เฮียไฟเขาโตกว่าฉันหลายปี ตอนนี้ฉันเรียนปวส.2 ไปอยู่หอพักเพราะสะดวกต่อการเดินทาง ฉันอายุ 20 ขณะที่เฮียไฟอายุ 27 ปี เฮียไฟเป็นเจ้าของตลาดนัดคลองถมที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ เฮียเขามีที่ดินเป็นมรดกตกทอดเยอะมาก ผู้ใหญ่ในครอบครัวเสียหมดแล้ว เหลือแค่เฮียไฟและพี่แคลที่เป็นแฝดกัน ที่ดินแถวบ้านเฮียให้คนเช่าปลูกข้าวทำสวน ที่ดินติดถนนยายของเฮียสร้างแมนชันให้คนเช่า ธุรกิจทุกอย่างพี่น้องฝาแฝดต่อยอดได้ดี
ส่วนเหตุผลที่เฮียไฟคอยส่งเสียคอยถามไถ่ฉัน ส่วนหนึ่งเป็นคำสั่งเสียของยายเฮียไฟ ซึ่งยายเอ็นดูรักใคร่ในตัวฉัน หรือเรียกว่าเวทนาก็ได้ เพราะว่าพ่อฉันติดเหล้า แม่ฉันติดการพนันขั้นหนัก เมื่อก่อนฉันถูกเอาไว้ฝากไว้ที่บ้านเฮียไฟเป็นประจำ พ่อไปกินเหล้า แม่ไปเล่นไพ่ ยายของเฮียไฟไม่อยากให้ฉันไปอยู่ในที่แบบนั้นจึงบอกให้แม่เอาฉันไปไว้ที่บ้านยาย แม่ก็รีบเอาฉันไปฝากไว้ที่บ้านเฮียไฟตลอด
พ่อฉันจากไปด้วยโรคตับแข็ง 2 ปีแล้ว แม่ก็เหมือนจะเพลาเรื่องเล่นไพ่ลงบ้าง เพลานะ ไม่ได้เลิก ฉันเป็นลูกคนเดียว ทั้งอดทนทั้งอับอายที่พ่อแม่ชอบเอามาฝากข้างบ้าน
แต่ฉันที่ยังเด็กจะตัดสินใจอะไรได้ใช่ไหม
มีครั้งหนึ่งตอนที่ฉันยังเด็ก แต่ยังจำเรื่องวันนั้นได้ ฉันไม่อยากไปบ้านยายของเฮียไฟจึงหลบมาอยู่บ้านคนเดียว
พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน ฝนตกหนักไฟที่บ้านดับ เด็กที่อายุ 7 ขวบจะทำอะไรได้นอกจากนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่บนฟูกด้วยความกลัว ให้วิ่งออกจากบ้านไปอยู่บ้านยายของเฮียไฟก็ไม่ทันแล้ว
“น้องดาว น้องดาวครับ น้องดาวอยู่ในบ้านไหม” ทว่าเสียงที่คุ้นเคยก็ดังใกล้เข้ามาพร้อมแสงจากโคมไฟส่องสว่าง พี่ชายข้างบ้านวัย 14 ปีเดินใกล้เข้ามา เมื่อมองเห็นฉันเขาก็ส่งยิ้มมาให้
ภายใต้ความมืดมีแสงจากโคมไฟรอยยิ้มของเขาหล่อมาก
“เฮียไฟ หนูกลัวค่ะ”
“ไม่ต้องกลัวนะ เฮียอยู่นี่แล้วไง มีเฮียอยู่น้องสาวของเฮียจะไม่เป็นไรนะ”
“อยู่เป็นเพื่อนหนูจนไฟมาได้ไหมคะ หนูกลัว มันมืดมองไม่เห็นอะไรเลย จะวิ่งไปบ้านยายก็ไม่ทันแล้ว หนูไม่น่าแอบกลับมาคนเดียวเลย”
ในวันที่ฝนพรำและไฟดับทั้งหมู่บ้าน เฮียไฟเดินเข้ามานั่งบนฟูกอยู่ข้าง ๆ เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “ไม่ต้องร้องนะคนเก่ง เฮียจะเป็นแสงสว่างให้ดาวเหนือเอง แล้วถ้าวันไหนเฮียหมดไฟ ดาวเหนือต้องคอยนำทาง เป็นแสงสว่างให้เฮียด้วยนะ”
“ได้ค่ะ หนูจะเป็นแสงสว่างให้เฮียไฟแค่คนเดียว”
“สัญญานะ”
“สัญญาค่ะ” เราเกี่ยวก้อยกัน ฉันเห็นรอยยิ้มของพี่ชายข้างบ้าน รอยยิ้มที่แสนละมุน “เฮียไฟหนาวไหมคะ ห่มผ้ากับหนูไหม”
“หึ เฮียไม่เคยหมดไฟในตัวเอง เฮียเจิดจรัสสว่างไสว เป็นโคมไฟที่ส่องสว่าง พวกพ้องมากมาย ส่วนดาวยังย่ำอยู่ที่เดิม ยังคงรักเฮียไฟที่แสนดี ยังเป็นดาวเหนือที่พึ่งพาเฮีย” พึมพำคนเดียวค่ะ ดาวจะทำอะไรได้นอกจากพึมพำ แม่ก็ยังชอบเล่นไพ่เป็นชีวิตจิตใจ ที่ว่าเพลาน่ะ คือจากที่เล่นตั้งแต่เช้าจนถึงเช้าอีกวัน แม่ก็เล่นตั้งแต่เที่ยงจนถึงเช้าอีกวัน นี่แหละที่ว่าเพลาลง แล้วฉันเป็นลูกจะห้ามอะไรแม่ได้
ไม่ใช่ว่าไม่เคยห้ามนะ ฉันเคยแล้ว แม่ตอกกลับซะฉันหน้าชา ‘ดาวเป็นลูกมาห้ามแม่ได้ยังไง รู้ไหมว่าแม่อยู่กับมันมาตั้งแต่ดาวยังไม่เกิด ตั้งแต่ยังไม่ได้พ่อดาวเป็นผัวด้วยซ้ำ จะมาบอกให้แม่เลิกได้ยังไง แม่ไม่เลิก’
นั่นแหละคำตอบของแม่ ตั้งแต่นั้นฉันก็ไม่พูดเรื่องแม่เล่นไพ่อีกเลย
เงินเดือนที่เฮียไฟจ่ายมา ฉันดึงออกมา 5 ใบ เป็นค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของฉัน ส่วนอีก 12 ใบเป็นของแม่ วางไว้หลังตู้เย็น นี่ใกล้วันที่ 1 คงเอาไปจ่ายค่าหวยที่ค้างมาจากงวดก่อน แล้วก็คงเอาไปลงวงไพ่ ใช่จ้า แม่ฉันนอกจากเล่นไพ่ก็ยังเล่นหวยด้วย
ความสุขของแม่ฉันจะว่าอะไรได้ แม่เลี้ยงฉันมาจนโตก็ดีเท่าไหร่แล้ว
